วิกฤตเขื่อนอุบลรัตน์กักเก็บน้ำแล้ว 132% คาดเพิ่มสูงกว่าคันดินโนนสัง

11 ต.ค. 2565 | 06:20 น.

วิกฤตเขื่อนอุบลรัตน์กักเก็บน้ำแล้ว 132% คาดเพิ่มสูงกว่าคันดินโนนสัง กฟผ. เร่งบรรจุถุงยังชีพเพิ่มอีกจำนวน 5,500 ชุดช่วยเหลือประชาชน

นายประเสริฐศักดิ์ เชิงชวโน รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ ในฐานะโฆษกการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำเขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น เข้าสู่สภาวะวิกฤตระดับ 3 เนื่องจากมีปริมาณน้ำกักเก็บสูงถึง 3,213 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) คิดเป็น 132% ของความจุอ่าง (ข้อมูล ณ วันที่ 11 ตุลาคม 2565) และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นสูงกว่าคันดินโนนสัง 

 

ทั้งนี้ จึงจำเป็นต้องระบายน้ำวันละ 54 ล้าน ลบ.ม. ในวันที่ 10 – 12 ตุลาคม 2565 ตามมติคณะกรรมการลุ่มน้ำชี ครั้งที่ 3/2565 ทำให้พื้นที่ท้ายเขื่อนมีระดับน้ำสูงขึ้น พร้อมประสานหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องทุกจังหวัดที่ได้รับผลกระทบทราบล่วงหน้า รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนเฝ้าระวังระดับน้ำและเตรียมยกของขึ้นที่สูง 

 

อย่างไรก็ดี กฟผ. ได้ร่วมกับชาวบ้านและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบรรจุทรายใส่กระสอบและถุงบิ๊กแบ็กเพื่อวางบนแนวคันดินโนนสังยาวกว่า 5 กิโลเมตร ป้องกันไม่ให้น้ำไหลข้ามคันดินเข้าท่วมตัวอำเภอโนนสัง จังหวัดหนองบัวลำภู รวมถึงลงพื้นที่ในชุมชนต่าง ๆ ช่วยประชาชนยกของขึ้นที่สูงเตรียมพร้อมรับมือระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น 

นอกจากนี้ กฟผ. ได้เร่งบรรจุถุงยังชีพเพิ่มอีกจำนวน 5,500 ชุด ซึ่งภายในถุงประกอบด้วยเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น และน้ำดื่ม น้ำใจ กฟผ. จำนวน 36,000 ขวด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างเร่งด่วนและต่อเนื่อง แบ่งเป็น

 

พื้นที่อำเภออุบลรัตน์ อำเภอหนองเรือ อำเภอภูเวียง อำเภอหนองนาคำ อำเภอน้ำพองของจังหวัดขอนแก่น และอำเภอโนนสัง อำเภอศรีบุญเรืองของจังหวัดหนองบัวลำภู จำนวน 3,000 ชุด 

 

กฟผ. เร่งบรรจุถุงยังชีพเพิ่มอีกจำนวน 5,500 ชุด

 

อำเภอสิรินธร อำเภอพิบูลมังสาหาร อำเภอโขงเจียม อำเภอวารินชำราบของจังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 1,500 ชุด และอำเภอสามเงา อำเภอบ้านตากของจังหวัดตาก จำนวน 1,000 ชุด หลังเกิดสถานการณ์อุทกภัยทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ยังคงวิกฤตหนักจากอิทธิพลร่องมรสุม ทำให้เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมสะสมในหลายพื้นที่ 

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา กฟผ. ได้ดำเนินการส่งมอบถุงยังชีพกว่า 27,500 ชุด และน้ำดื่มกว่า 137,000 ขวด แก่พี่น้องผู้ประสบภัยในพื้นที่ 16 จังหวัด รวมถึงเตรียมพร้อมรถขนทราย รถบรรทุกขนาดเล็กขนาดใหญ่ และกระสอบทรายเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่รอบเขตเขื่อน โรงไฟฟ้าและสถานีส่งไฟฟ้าแรงสูง หากได้รับการประสานงานอย่างเต็มกำลัง