"ซีพีเอฟ"ส่งอาหารช่วยน้ำท่วมชัยภูมิ-นครราชสีมา

28 ก.ย. 2564 | 13:47 น.

CPF ส่งอาหารจากใจ สู้ภัยน้ำท่วม เร่งลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนชาวชัยภูมิและนครราชสีมา ทั้งไข่ไก่ เนื้อหมูและน้ำดื่มซีพี

รายงานข่าวระบุว่า บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ ลงพื้นที่ส่งความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบในจังหวัดชัยภูมิและนครราชสีมา มอบวัตถุดิบอาหารและน้ำดื่ม ภายใต้โครงการ CPF ส่งอาหารจากใจ สู้ภัยน้ำท่วม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนด้านอาหารและเป็นกำลังใจให้กับพี่น้องคนไทยอย่างเร่งด่วน จากสถานการณ์น้ำท่วมจากอิทธิพลของพายุโซนร้อนเตี้ยนหมู่ 
ทั้งนี้ ได้ดำเนินการมอบวัตถุดิบเพื่อใช้ในการประกอบอาหาร ได้แก่ เนื้อสุกร ไข่ไก่ น้ำดื่มซีพี และอาหารพร้อมรับประทาน จากซีพีเอฟ ที่ร่วมผนึกกำลังกับพาณิชย์จังหวัดชัยภูมิ และสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สนับสนุนโรงครัวพระราชทาน ณ สำนักงานเทศบาลเมืองชัยภูมิ เพื่อนำไปประกอบอาหารปรุงสุกแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม โดยมี นายยุทธชัย คงสมมาตร ผู้แทนซีพีเอฟ นำจิตอาสาจากกลุ่มธุรกิจสุกรของซีพีเอฟ ร่วมมอบให้กับนายภูมิสิทธิ์ วังคีรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ และ นายธีวรา  วิตนากร นายกเทศมนตรีเมืองชัยภูมิ 

นายธิวา กล่าวว่า  จากอิทธิพลพายุโซนร้อนเตี้ยนหมู่ทำให้เกิดน้ำป่าหลากจากเทือกเขาหลัก 3 แห่งในพื้นที่ ทั้งเทือกเขาภูเขียว เทือกเขาพังเหย และเทือกเขาภูแลนคา หลากลงสู่แม่น้ำชี จึงมีหลายพื้นที่ถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง ส่งผลให้พี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก แม้ว่าจะมีโรงครัวพระราชทาน ซึ่งมีภารกิจที่ต้องผลิตอาหารมื้อละ 5,000 ชุด เพื่อส่งมอบให้ผู้ที่เดือดร้อนจากภัยน้ำท่วม และถูกตัดขาดไม่สามารถเข้าออกในบริเวณพื้นที่ได้ กำลังขาดแคลนอาหารและน้ำดื่ม

ซีพีเอฟช่วยน้ำท่วม
นางศศิพิมล มงคล พาณิชย์จังหวัดชัยภูมิ กล่าวว่า พาณิชย์จังหวัดฯ ร่วมกับสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และซีพีเอฟ  ระดมความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนชาวชัยภูมิอย่างเร่งด่วน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนจากวิกฤตน้ำท่วมครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นวิกฤตใหญ่ที่สุดในรอบ 50 ปี

สำหรับที่จังหวัดนครราชสีมา ซีพีเอฟได้มอบวัตถุดิบอาหาร ได้แก่ ไข่ไก่ 3,000 ฟอง เนื้อสุกร 200 กิโลกรัม และน้ำดื่มซีพี 1,000 ขวด เพื่อสนับสนุนโรงครัวสนามของทหาร ช.พัน.3 พล.ร.3 สำหรับนำไปประกอบอาหารมอบแก่ประชาชนชาวตำบลบังลังก์และชาวอำเภอโนนไทยที่ได้รับความเดือดร้อน