เปิดเมืองอยู่กับโรค หมอธีระฟันธงยากจะเอาโควิด-19 อยู่

22 ก.ย. 2564 | 01:57 น.

หมอธีระทำนายดำเนินนโยบายเปิดเมืองอยู่กับโรค ยากจะเอาโควิด-19 อยู่ เหตุระบบสนับสนุนที่มีอยู่ทั้งเรื่องการตรวจคัดกรองโรคที่จำกัด วัคซีนที่มีชนิด ปริมาณ ความครอบคลุมที่จำกัด

รายงานข่าวระบุว่า รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ (หมอธีระ) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Thira Woratanarat (ป๊ามี้คีน)" โดยมีข้อความว่า
สถานการณ์ทั่วโลก 22 กันยายน 2564
ทะลุ 230 ล้านไปแล้ว
เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 440,211 คน รวมแล้วตอนนี้ 230,259,239 คน ตายเพิ่มอีก 7,989 คน ยอดตายรวม 4,721,450 คน
5 อันดับแรกที่มีจำนวนติดเชื้อต่อวันสูงสุด ยังคงเป็นเช่นเดิมคือ อเมริกา สหราชอาณาจักร ตุรกี อินเดีย และรัสเซีย 
อเมริกา ติดเชื้อเพิ่ม 111,538 คน รวม 43,229,414 คน ตายเพิ่ม 1,861 คน ยอดเสียชีวิตรวม 696,799 คน อัตราตาย 1.6% 
อินเดีย ติดเพิ่ม 27,242 คน รวม 33,529,986 คน ตายเพิ่ม 383 คน ยอดเสียชีวิตรวม 445,799 คน อัตราตาย 1.3% 
บราซิล ยังไม่มีรายงานติดเชื้อใหม่ รวม 21,247,667 คน ตายเพิ่ม 484 คน ยอดเสียชีวิตรวม 591,518 คน อัตราตาย 2.8%
สหราชอาณาจักร ติดเพิ่ม 31,564 คน ยอดรวม 7,496,543 คน ตายเพิ่ม 203 คน ยอดเสียชีวิตรวม 135,455 คน อัตราตาย 1.8% 
รัสเซีย ติดเพิ่ม 19,179 คน รวม 7,313,851 คน ตายเพิ่ม 812 คน ยอดเสียชีวิตรวม 199,808 คน อัตราตาย 2.7% 

อันดับ 6-10 เป็น ฝรั่งเศส ตุรกี อิหร่าน อาร์เจนติน่า และโคลอมเบีย ติดกันหลักพันถึงหลายหมื่น
หากรวมทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ พบว่ามีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 96.03 ของจำนวนติดเชื้อใหม่ทั้งหมดต่อวัน
แถบสแกนดิเนเวีย บอลติก และยูเรเชีย ก็มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นหลักร้อยถึงหลักพัน 
แถบตะวันออกกลางส่วนใหญ่ยังติดเพิ่มหลักร้อยถึงหลักพัน ยกเว้นอิหร่านติดเพิ่มหลักหมื่นอย่างต่อเนื่อง 
ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และมาเลเซีย ติดเพิ่มกันหลักหมื่น
ญี่ปุ่น เมียนมาร์ อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย สิงคโปร์ และเกาหลีใต้ ติดกันหลักพัน กัมพูชา และลาว ติดเพิ่มหลักร้อย ส่วนจีน และนิวซีแลนด์ ติดเพิ่มหลักสิบ ในขณะที่ฮ่องกง และไต้หวัน ติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ
สถานการณ์ของไทยเรา
เมื่อวานจำนวนติดเชื้อใหม่ที่รายงาน ยังสูงเป็นอันดับ 10 ของโลก
แต่หากรวม ATK จะมีจำนวนติดเชื้อสูงเป็นอันดับ 7 ของโลก มากกว่าฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และเวียดนาม 

เปิดเมืองอยู่กับโรคยากจะเอาโควิดอยู่
กล่องทราย
สถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น คาดว่าจะเห็นแนวโน้มการระบาดที่ชัดเจนหลังพ้นปลายเดือนนี้ หากคุมไม่ได้ น่าจะมีโอกาสสูงขึ้นกว่าเดิม 
อนาคต
หากปล่อยให้เกิดการขับเคลื่อนนโยบายเปิดเมืองให้อยู่กับโรค ทั้งที่สถานการณ์การติดเชื้อยังมีจำนวนมาก ด้วยระบบสนับสนุนที่มีอยู่ทั้งเรื่องการตรวจคัดกรองโรคที่จำกัด วัคซีนที่มีชนิด ปริมาณ ความครอบคลุมที่จำกัด รวมถึงรูปแบบการใช้ชีวิต ค้าขาย บริการ ที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อติดเชื้อกัน ยังไม่ปลอดภัยเพียงพอ
โมเดลกล่องทรายชี้ให้เห็นแล้วว่ามีปัญหา ขนาดเป็นพื้นที่จำกัด ยังเป็นดังที่เห็น
ถ้าขยายมาเมืองหลวง โอกาสที่จะแตกย่อมมีสูงมาก

ประเทศพัฒนาแล้ว ที่มีทรัพยากรต่างๆ มากมายเพียบพร้อมกว่าเรายังเอาไม่อยู่
การอ้างว่าติดเชื้อแล้วป่วยรุนแรงต้องนอนรพ.น้อย ตายน้อยนั้น คงจะยากที่จะเป็นจริงเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ระบาดรุนแรงกลับซ้ำในอนาคต 
ประเมินไว้ล่วงหน้า ยากที่จะเอาอยู่
กลุ่มคนที่ผลักดันนโยบายดังกล่าวจำเป็นต้องรับผิดชอบต่อผลกระทบที่ตามมา
นโยบายในลักษณะข้างต้นส่งผลต่อชีวิตของทุกคน
สำหรับประชาชน ขอให้ใช้ชีวิตอย่างมีสติ ป้องกันตัวอย่างเคร่งครัด
ส่วนสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 (Covid-19) ในประเทศไทย วันที่ 22 กันยายน 64 "ฐานเศรษฐกิจ" ติดตามข้อมูลการรายงานจากศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. พบว่า ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นรวม 11,252 ราย มาจาก ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 11,224 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 28 ราย  ผู้ป่วยสะสม(ตั้งแต่ 1 เม.ย.64) 1,482,494 ราย  เสียชีวิตเพิ่ม 141 ราย หายป่วย 13,695 ราย กำลังรักษา 129,071 ราย หายป่วยสะสม(ตั้งแต่ 1 เม.ย.64) 1,339,107 ราย