"ทาโร โคโนะ" คะแนนนิยมนำโด่ง ศึกชิงตำแหน่งนายกฯญี่ปุ่น

หนังสือพิมพ์นิกเคอิและสถานีโทรทัศน์ทีวี โตเกียว เปิดเผยวานนี้ (12 ก.ย.) ผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนชาวญี่ปุ่น เกี่ยวกับบรรดา “ตัวเต็ง” ใน ศึกชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น แทนนายโยชิฮิเดะ ซูงะ พบว่า ผู้ตอบแบบสำรวจมากถึง 27% มองว่า นายทาโร โคโนะ รัฐมนตรีผู้รับผิดชอบด้านการฉีดวัคซีนของญี่ปุ่น เป็นผู้ที่เหมาะสมกับตำแหน่งหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ซึ่งหมายถึงเขาผู้นั้น จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นคนต่อไป

ขณะเดียวกัน มีผู้ตอบแบบสำรวจ 17% ที่ตอบว่า นายชิเงรุ อิชิบะ เลขาธิการพรรค LDP เป็นผู้ที่เหมาะสมกับตำแหน่งนายกฯมากกว่า และอีก 7% ให้การยอมรับนางซานาเอะ ทาคาอิจิ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการภายในและการสื่อสารญี่ปุ่น

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา นายโคโนะ ได้แถลงข่าวในฐานะผู้เข้าชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค LDP อย่างเป็นทางการ โดยเปิดเผยว่า เขาจะพยายามผลักดันการเปิดใช้งานโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์อีกครั้ง เพื่อบรรลุเป้าหมายลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นศูนย์ภายในปี 2593

นอกจากนี้ นายโคโนะยังเสริมว่า เขาจะพยายามอย่างเต็มที่ในการแก้ไขปัญหาการลักพาตัวพลเมืองญี่ปุ่นโดยเกาหลีเหนือ และจะยังเดินหน้าแก้ปัญหาด้านประวัติศาสตร์ในช่วงสงครามเช่นเดียวกับรัฐบาลญี่ปุ่นชุดก่อนหน้านี้

สำหรับประวัติของนายทาโร โคโนะ ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีด้านการปฏิรูปการบริหาร (รับตำแหน่งในปี 2563) ที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลการบริหารจัดการการฉีดวัคซีนต้านโควิดให้แก่ประชาชนด้วยนั้น นับเป็นนักการเมืองมากฝีมือที่ผ่านงานเป็นรัฐมนตรีว่าการมาหลายกระทรวงแล้ว รวมถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงกลาโหม ในสมัยของนายกรัฐมนตรีชินโซะ อาเบะ

โคโนะเกิดเมื่อวันที่ 10 ม.ค. 2506 ในตระกูลนักการเมือง บิดาคือนายโยเฮอิ โคโนะ เคยเป็นหัวหน้าพรรค LDP และเป็นเลขาธิการคณะรัฐมนตรี แต่ยังไม่เคยขึ้นถึงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

ปัจจุบันโคโนะอายุ 58 ปี ผลงานล่าสุดที่สร้างความประทับใจให้กับประชาชนคือความสามารถในการเจรจาจองซื้อวัคซีนไฟเซอร์และส่งมอบให้แก่ญี่ปุ่นได้อย่างรวดเร็ว โดยข่าวระบุว่าโคโนะซึ่งจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ ในสหรัฐอเมริกา และพูดภาษาอังกฤษได้อย่างแตกฉาน เป็นผู้ต่อสายตรงคุยกับผู้บริหารของไฟเซอร์ด้วยตัวเองกระทั่งการเจรจาประสบความสำเร็จ

บัญชีทวิตเตอร์ในภาษาญี่ปุ่นของเขามีผู้ติดตาม 2.3 ล้านคน บางครั้งเขาก็เข้ามาตอบความคิดเห็นของคนอื่น ๆ ด้วยตัวเอง ทำให้เป็นที่ชื่นชมและสร้างคะแนนนิยมในหมู่ประชาชนมากขึ้น