“แรมโบ้”ยันนายกฯไม่หวั่นศึกซักฟอกอัดลิ่วล้อ“เพื่อไทย”อย่าขี้โม้

27 ส.ค. 2564 | 08:53 น.

“แรมโบ้”อัดลิ่วล้อเพื่อไทยอย่ามาขี้โม้ราคาคุย เป็นพรรคดิ่งลงเหวตกต่ำที่สุดกว่าทุกยุค  ยัน “นายกฯ” ไม่เคยหวั่นวิตกกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นโอกาสดีด้วยซ้ำที่จะได้ชี้แจงผลงานรัฐบาล

วันนี้ (27 ส.ค.64) นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ออกมาระบุถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายของรัฐบาลและขู่จะเปิดแผลรัฐบาลให้ได้โดยเฉพาะเรื่องการแก้ปัญหาโควิด ว่า นายกฯไม่เคยกลัวการอภิปรายไม่ไว้วางใจอยู่แล้ว ไม่ว่า นายอนุสรณ์ จะขู่เปิดแผลกี่จุดๆ นายกฯ ก็ไม่กังวล เพราะถึงอย่างไรการเข้ามาบริการประเทศของนายกฯ ก็รู้อยูแล้วว่า จะต้องเจอการทำงานของฝ่ายค้านที่จะต้องคอยตรวจสอบ โดยเฉพาะฝ่ายค้านจากพรรคเพื่อไทย ซึ่งก็เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจมาตลอด ทั้งที่รู้ว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ก็ยังคงดื้อดึงดันยื่นอภิปรายฯ เพียงแค่ให้ได้ยื่น ให้ประชาชนได้รู้ว่าฝ่ายค้านทำหน้าที่แล้วนะ แค่นั้น

 

“ผมขอบอกให้นายอนุสรณ์ ได้รับรู้อีกทีว่า นายกฯ ไม่เคยวิตก หรือกังวลกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน เพราะนายกฯ พูดมาตลอดว่ายินดี และถือเป็นโอกาสดีด้วยซ้ำที่จะได้ชี้แจงประเด็นต่างๆ ที่ฝ่ายค้านหยิบมาโจมตีนายกฯ และรัฐบาล จนทำให้ประชาชนสับสน โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการแก้ปัญหาโควิด ที่ก็มีรายละเอียดทุกขั้นทุกตอน ผมเห็นการออกมาแถลงของนายอนุสรณ์ ทุกวันๆ ก็พูดอยู่อย่างนี้

แม้ว่าจะพูดปกป้องนายใหญ่ นายรองและพรรคเพื่อไทยอย่างไร ก็ได้อยู่แค่นี้ ป่าวๆ อยู่ได้แค่ข้างสนาม ความจริงนายอนุสรณ์ น่าจะหยุดคิดได้แล้วนะว่าที่ทุ่มเทมาเพื่อนายได้อะไรตอบแทนบ้าง หลายคนเขาได้ดิบได้ดีแซงหน้านายอนุสรณ์ ไปถึงไหนต่อไหนแล้ว เพราะฉะนั้นอย่ามาขี้โม้ราคาคุยอยู่แบบนี้อยากจะทำอะไรก็เชิญ นายกฯและรัฐบาลไม่เคยหวั่น”

 

ส่วนอีกคนที่ออกมาพูดเหน็บรัฐบาลได้ทุกวี่ทุกวัน คือ นางสาวอรุณี กาสยานนท์ ที่อยู่ๆ ก็โผล่มากินตำแหน่งโฆษกพรรคเพื่อไทย ตัดหน้าคนที่อยู่มาก่อนเก่าหลายต่อหลายคน ดูหน้าเหมือนจะหวานแต่คำพูดขัดกับหน้าตา นางสาวอรุณี ออกมาเหน็บรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ว่าล้มเหลวเรื่องการปฏิรูปตำรวจ ภายหลังเกิดเหตุการณ์ “ผู้กำกับโจ้” ซ้อมผู้ต้องหาค้ายาเสพติด ต้องยอมรับว่าทุกวงการมีทั้งคนดี และไม่ดี

ปัญหาในวงการตำรวจมีมานานมากแล้ว และก็เรียกร้องให้ปฏิรูปวงการตำรวจมาตลอดในสมัยรัฐบาลที่ผ่านๆ มาก็มีมาตลอด และนายกฯ เอง ก็ไม่สบายใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น และได้ย้ำสั่งการไปทันทีให้ ผบ.ตร. เร่งดำเนินการจัดการขั้นเด็ดขาด ไม่เคยปกป้องคนทำผิด จนผบ.ตร.ให้ “ผู้กำกับโจ้” ออกจากราชการไปแล้ว พร้อมให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งปฏิรูป 7 ด้านกระบวนการยุติธรรมอย่างเร่งด่วน ดังนั้น นางสาวอรุณี ก็ต้องมีใจเป็นธรรมด้วย เปิดใจรับข้อเท็จจริงบ้าง อย่ารับแต่ด้านมืดอย่างเดียว จับแพะชนแกะมั่วไปหมดยืนยันนายกฯมีความจริงใจในการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม

 

“วันๆ คนในพรรคเพื่อไทย คงตกงานว่างงานมาก หัวหน้าพรรคไม่ควบคุมให้อยู่ในร่องในรอย ปล่อยให้ออกมาอาละวาดเที่ยวไล่งับไล่กัดคนอื่นไปทั่ว จนชาวบ้านชาวช่องเอือมระอาเบื่อหน่ายกับพฤติกรรมของพวกปากสากกระเบือในพรรคเพื่อไทย เหล่านี้ มีเสียงบ่นมาว่า ทำไมพรรคเพื่อไทย จึงเล่นการเมืองไม่สร้างสรรค์เลย ผมจึงตอบไปว่า พรรคเพื่อไทยคงถึงขีดตกต่ำสุดๆ แล้ว จึงทิ้งหมากกระดานสุดท้ายแบบเทกระจาด ยอมที่จะอัตวิบากกรรมพรรคตัวเอง เพื่อให้พรรครอดพ้นจากปากเหวนรกให้ได้ คิดแล้วก็น่าเวทนาที่สุด จากพรรคที่เคยรุ่งเรืองสูงสุด กลับกลายมาเป็นพรรคที่ตกต่ำที่สุดในสายตาประชาชนส่วนใหญ่ในยุคนี้" นายเสกสกล ระบุ