ประกาศิต“บิ๊กปั๊ด”ต้องตามจับ“ผกก.โจ้”ให้ได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน

25 ส.ค. 2564 | 07:31 น.

ผบ.ตร.กำชับต้องตามจับ “ผกก.โจ้”ให้ได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน สั่งการ “ตม.- ตชด.”เฝ้าระวังชายแดน ประสานประเทศเพื่อนบ้าน ด้านผบช.สตม.เผยยังไม่พบรายชื่อเดินทางเข้าออก ยันป้องกันหลบหนีออกนอกประเทศเต็มที่

วันนี้(25 ส.ค.64) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้าการติดตามตัว ผกก.โจ้ - พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล ผู้กำกับการ(ผกก.) สภ.เมืองนครสวรรค์ ว่า ได้สั่งการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.) กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) เฝ้าระวังตามแนวพรมแดนทั่วประเทศ พร้อมให้ประสานกับประเทศเพื่อนบ้าน ดูด่านตรวจคนเข้าเมือง ทุกช่องทาง

 

“ไม่ว่าจะอยู่เมืองไทยหรือที่ไหนก็ต้องไปตามจับ ซึ่งต้องทำให้ดีที่สุด ต้องเอาให้ได้ ไม่ได้ก็ต้องได้”

 

ทั้งนี้ ทาง ผกก.โจ้ ยังไม่ได้ติดต่อกลับมา ส่วนจะมีคนช่วยเหลือหรือไม่ ผบ.ตร. ระบุว่า คนเราคงไม่สิ้นไร้ไม้ตอก

 

สำหรับการรวบรวมพยานหลักฐานทางคดี  พล.ต.อ.สุวัฒน์ ระบุว่า เรื่องนี้ได้มอบหมาย พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เป็นผู้ดูแล ตนก็กำชับว่าต้องเร็ว แต่ต้องไม่ลวก เดี๋ยวจะกลายเป็นประโยชน์ต่อผู้กระทำผิด ซึ่ง พล.ต.อ.สุชาติ เป็นคนละเอียดอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วง

ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.) พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. กล่าวว่า ขณะนี้ได้กำชับให้ด่านตรวจเข้าเมืองทั่วประเทศ ช่วยเฝ้าระวังกรณี ผกก.โจ้- พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล ผู้ต้องหากระทำผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฎิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ,ร่วมกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด , ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมาน หรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย หลังใช้ถุงดำคลุมศีรษะรีดเงินจากนายจิระพงศ์ ธนะพัฒน์ ผู้ต้องหาคดียาเสพติด 2,000,000 บาท ที่ สภ.นครสวรรค์

 

เนื่องจากปัจจุบันด่านตรวจคนเข้าเมืองทั่วประเทศ อยู่ระหว่างปิดทำการเนื่องจากมีวิกฤติโรคโควิด-19 และห้ามมีคนเข้าออกประเทศ แต่ยังอนุญาตเฉพาะรถส่งสินค้าจำเป็น พร้อมกำชับให้ด่านตรวจคนเข้าเมืองร่วมบูรณาการกับฝ่ายความมั่นคงในการตรวจสอบด่านธรรมชาติทั่วประเทศ ทั้งทางอากาศ ทางน้ำ ในพื้นที่จังหวัดระนอง ที่มีทะเล เชื่อมประเทศเพื่อนบ้าน

 

นอกจากนี้ ยังสั่งกำชับให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เฝ้าระวังบุคคลที่ไม่มีหมายจับแต่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี ตามที่ ผบ.ตร. ระบุ ถึง 13 นาย โดยถ้าพบตัวให้ล็อคตัวได้ และส่งไปหน่วยงานที่รับผิดชอบ และหากมีปัญหาตัวเองจะเป็นผู้รับผิดชอบในการกระทำของเจ้าหน้าที่ทุกนาย

พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวว่า ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า พ.ต.อ.ธิติสรรค์ หลบหนีไปเชียงแสน และแม่สอด เมื่อคืนที่ผ่านมา ขณะนี้ยังไม่มีรายงานหรือมีสิ่งบอกเหตุ แต่ยืนยันว่าในพื้นที่ภาค 6 มีรอยต่อกับประเทศเพื่อนบ้านทั้งแม่สอด อุตรดิตถ์ น่าน เบื้องต้นจากการตรวจสอบฐานข้อมูลกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และระบบไบโอเมตริกส์ ยังไม่พบรายชื่อผู้ต้องหาเข้าสู่ระบบ เดินทางเข้าออกประเทศ

 

พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวอีกว่า ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจะดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้กลุ่มผู้ต้องหาหลบหนีออกนอกประเทศ เนื่องจากเป็นการกระทำที่ทำให้ตำรวจเสียภาพลักษณ์ และตัวเองก็รับไม่ได้ โดยจะมีการตรวจสอบประวัติการเดินทางย้อนหลังของกลุ่มผู้ต้องหาว่า มีความสัมพันธ์กับประเทศใดเป็นพิเศษหรือไม่