รถยนต์ทาทา คืนชีพตลาดไทย ลุยรถเพื่อการพาณิชย์
รถยนต์ทาทา ฟื้นธุรกิจในไทย โดย ทาทา มอเตอร์ส อินเดีย แต่งตั้ง อินช์เคป เป็นดิสทริบิวเตอร์ นำเข้ารถเพื่อการพาณิชย์มาทำตลาดไทย
รถยนต์ทาทา โดย ทาทา มอเตอร์ส ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่จากอินเดีย ฟื้นธุรกิจรถเพื่อการพาณิชย์ในไทย แต่งตั้ง อินช์เคป เป็นดิสทริบิวเตอร์และมีแผนรับดีลเลอร์ 10 ราย
หลังจาก รถยนต์ทาทา ลดบทบาทธุรกิจในไทยราว 5 ปีก่อน ล่าสุด ทาทา มอเตอร์ส กลับมาฟื้นธุรกิจในไทยอีกครั้ง โดยแต่งตั้ง อินช์เคป ให้เป็นผู้จัดจำหน่ายรถยนต์เพื่อการพาณิชย์อย่างเป็นทางการ
ทาทา มอเตอร์ส รายงานว่า ได้แต่งตั้ง อินช์เคป พีแอลซี ให้เป็นผู้จัดจำหน่าย รถยนต์ทาทาในประเทศไทย พร้อมทำตลาดทาทารถกระบะ และรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่
นายอนุรักษ์ เมห์โรทรา รองประธานฝ่ายธุรกิจระหว่างประเทศและกลยุทธ์ ธุรกิจรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ของ ทาทา มอเตอร์ส เปิดเผยว่า การร่วมมือกับผู้จัดจำหน่ายอย่าง อินช์เคป ที่มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญอันยาวนาน รวมถึงมีความเข้าใจอย่างแท้จริงในอุตสาหกรรมยานยนต์ ตลอดจนการดำเนินธุรกิจทั่วเอเชียแปซิฟิก ซึ่งจะทำให้โซลูชันการขนส่งขั้นสูงที่มีคุณภาพดีที่สุดของ ทาทา มอเตอร์ส ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีในประเทศไทย
“ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทาทา มอเตอร์ส ได้สร้างเกณฑ์มาตรฐานใหม่สำหรับประสิทธิภาพต้นทุนรวมในการเป็นเจ้าของที่ตํ่าที่สุด สร้างฟังก์ชันการทำงาน การเชื่อมต่อ และความปลอดภัยผ่านการนำเสนอยานยนต์ บริการและโซลูชันที่พร้อมสำหรับอนาคตอย่างต่อเนื่องทั่วโลก ข้อตกลงนี้เป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญในการขยายตลาดของเราในประเทศไทย เนื่องจากจะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจในท้องถิ่นที่ต้องการสร้างเสริมกลุ่มยานพาหนะสำหรับการขนส่งระยะสั้นและระยะไกล” นายอนุรักษ์ กล่าว
สำหรับ อินช์เคป ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดจำหน่ายจากัวร์ แลนด์โรเวอร์ ในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2559 ซึ่งสองแบรนด์เก่าแก่จากอังกฤษนี้ เป็นหนึ่งในธุรกิจของกลุ่มทาทา เช่นกัน
ด้านนายชาญชัย มหันตคุณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินช์เคป (ประเทศไทย) จํากัด กล่าวว่า บริษัทฯ มั่นใจว่าจะสร้างมูลค่าให้ กับอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ และยานยนต์เพื่อการพาณิชย์ของไทย พร้อมตั้งเป้าที่จะเปิดตัวแทนจำหน่ายรถทาทา 10 แห่งทั่วประเทศไทย
ทั้งนี้ ทาทา มอเตอร์ส มี ฐานธุรกิจอยู่ใน 44 ประเทศทั่วแอฟริกา ตะวันออกกลาง เอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อเมริกา ใต้ รวมถึงกลุ่มประเทศ CIS และอื่นๆ โดยมุ่งออกแบบโซลูชันการขนส่งเชิงนวัตกรรมซึ่งขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยีเชื้อเพลิงทางเลือก ซึ่งรวมถึงแบตเตอรี่ไฟฟ้า, ไฮบริด, CNG, LNG และเทคโนโลยีเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนด้วย