ไทยฮอนด้า ส่ง EV รุ่นใหม่ ขายดีลเลอร์ทั่วไปปี 2026 ผลิต CUV e เพิ่ม
ไทยฮอนด้า เตรียมทำตลาดรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าแบบไม่ต้องสลับแบตเตอรี่ในปี 2569 หลังจากประเดิมด้วย CUV e: และ Benley e: ที่เปิดให้เช่าใช้ ไม่ขายขาด ส่วนยักษ์จีน ‘ยาเดีย’ ตั้งโรงงานผลิตในไทย ขยายดีลเลอร์ ถล่มตลาด EV ราคาประหยัด
ไทยฮอนด้า วางแผนทำตลาดรถจักรยานยนต์พลังงานไฟฟ้า EV รุ่นใหม่ปี 2569 ในรูปแบบ B2C ส่งให้ดีลเลอร์ขายเป็นการทั่วไป ต่างจากปัจจุบันที่ CUV e: และ Benley e: ปล่อยให้เช่าใช้
ที่ผ่านมา บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด มี Honda BENLY e: ประเดิมวิ่งเก็บข้อมูล และศึกษาตลาด ผ่านพันธมิตรภาครัฐและเอกชน ซึ่งรวมถึงกลุ่มไรเดอร์ที่เช่าใช้ และต้นปีที่ผ่านมาเปิดตัว Honda CUV e: ให้บุคคลทั่วไปเช่าใช้อีกหนึ่งรุ่น พร้อมขยายตู้สับเปลี่ยนแบตเตอรี่ Honda e: Swap ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 44 แห่ง
สำหรับ Honda CUV e: มี 3 โหมดการขับขี่คือ Sport Mode ECON Mode และ Normal สามารถทำความเร็วสูงสุด 83 กม./ชม. และวิ่งได้ระยะทางกว่า 70 กม. ต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้ง มีให้เลือก 2 รุ่น Standard ค่าเช่า 4,000 บาทต่อเดือน และ Connectivity ค่าเช่า 4,500 บาทต่อเดือน
Honda CUV e: สามารถสวอปแบตเตอรี่ได้ ปัจจุบันทำที่โรงงานไทยฮอนด้า ลาดกระบัง กำลังการผลิต 50 คันต่อวัน และมีแผนเพิ่มเป็น 100 คันต่อวัน เพื่อรองรับการส่งออก
ทั้งนี้ ไทยฮอนด้า มีแผนทำตลาดรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า EV รุ่นใหม่ แบบ B2C ปีหน้า และตัวรถอาจจะไม่มีฟังก์ชันสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ เหมือน CUV e: และ Benley e:
นายฮายาโตะ เซกุจิ รองประธาน บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัดเปิดเผยว่า รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า Honda CUV e: ที่เปิดตัวต้นปีที่ผ่านมา และไทยได้ผลิตเป็นประเทศที่สองต่อจากอินโดนีเซีย โดยทำตลาดแบบให้เช่าใช้งาน ยังไม่มีแผนขายเป็นการทั่วไป
“ส่วนรุ่นที่กำลังได้รับความนิยมอย่าง Giorno Plus เดิมวางแผนผลิตไว้ 8 หมื่นต่อปี(ตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว) แต่หลังจากความต้องการมีเข้ามามาก ทำให้บริษัทต้องปรับแผนเพิ่มกำลังผลิตใหม่เป็น 2.67 แสนคันต่อปี ดังนั้น หลังจากเดือนตุลาคมนี้ เป็นต้นไปสถานการณ์จะเริ่มดีขึ้น” นายเซกุจิ กล่าวสรุป
บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด ดำเนินงานมา 60 ปี ถือเป็นฐานใหญ่ในการผลิตรถจักรยานยนต์ และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ของฮอนด้าในเอเชีย โดยรถจักรยานยนต์ มีกำลังการผลิตสูงสุด 6,600 คันต่อวัน และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ 11,000 หน่วยต่อวัน
ด้านแบรนด์จีนยักษ์ใหญ่ ยาเดีย (YADEA) ประกาศเพิ่มการลงทุนในไทย และขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าจะเป็นแบรนด์รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าอันดับ 1 ของไทย
ปัจจุบัน ทำตลาดด้วย YADEA Orla ราคา 36,900 บาท YADEA OCEAN 30,600 บาท และ YADEA RS20 ราคา 41,900 บาท
ยาเดีย ประเทศไทย รายงานว่า บริษัทฯ เพิ่งได้ใบรับรองส่งเสริมการลงทุน (Investment Promotion Certificate) จากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) อย่างเป็นทางการ และรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของ YADEA สามารถจดทะเบียนได้ตามกฎหมาย พร้อมรับสิทธิประโยชน์ด้านภาษี
สำหรับ YADEA มียอดขาย EV สะสมทั่วโลกกว่า 120 ล้านคัน จากโรงงานกว่า 10 แห่งทั่วโลก ทั้ง จีน อินโดนีเซีย เวียดนาม เม็กซิโก และบราซิล กำลังการผลิตรวมสูงสุด 30 ล้านคันต่อปี
ส่วนโรงงานในไทย ที่ อำเภอบางเสาธง จ.สมุทรปราการ มีแผนการขยายกำลังการผลิตให้ถึง 6 แสนคันภายใน 3 ปี และตั้งเป้าขยายช่องทางการจำหน่าย ครบ 100 แห่งทั่วประเทศ ภายในปีนี้