จากแบรนด์จีน สู่แบรนด์จีน ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนดาวรุ่งทั้งคู่ ณรงค์ สีตลายน เข้ารับตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท ธนบุรีนอยสเติร์น จำกัด ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เพื่อรับผิดชอบการขาย การตลาด บริการหลังการขาย และดูแลดีลเลอร์ในไทย
จากสภาพตลาดรถยนต์ที่ตกต่ำ และยอดขายอีวี ไม่ได้เติบโตอย่างที่คิด (ปี 2566 ประมาณ 7.7 หมื่นคัน,ปี 2567 ลดเหลือ 7 หมื่นคัน) ถือเป็นความท้าทายของ จีลี่ และซีอีโอมือเก๋า ณรงค์ สีตลายน
นายณรงค์ เปิดเผยว่า จากรถยนต์รุ่นแรกที่นำเข้ามาเปิดตัวในไทยคือ GEELY EX5 โดยปีนี้ตั้งเป้าหมายยอดขายไว้ 8,000- 9,000 คัน สอดคล้องกับตลาดอีวี ที่คาดว่าจะเติบโตไปถึง 9 หมื่นคัน
GEELY EX5 มียอดจองสะสมตั้งแต่ปีที่แล้วกว่า 1,000 คัน ดังนั้นยอดขาย 8,000-9,000 คันปีนี้ น่าจะทำได้ เมื่อคำนึงถึงขนาดตลาดปัจจุบัน ส่วนตลาดรวมหากถึง 5.8-6.0 แสนคัน ก็เก่งมากแล้ว (ปี 2567 ตลาดรวม 5.7 แสนคัน)
“แม้จีลี่จะเป็น latecomer ในตลาด แต่ความเป็นจีลี่เอง เป็นที่รับรู้ของลูกค้าในระดับนึง ดังนั้นเป้าหมายคือการสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง ควบคู่ไปกับแบรนด์ของธนบุรี ที่มีประวัติ 84 ปีในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย”
ด้วยความเชี่ยวชาญของกลุ่มธนบุรี ที่เข้าใจในตลาดไทยเป็นอย่างดี และเคยดูแลลูกค้า รวมถึงลูกค้าที่อยู่ในเซกเมนต์พรีเมียม จึงทราบดีว่าการยกระดับบริการหลังการขาย อันเป็นปัจจัยที่จะสร้างจุดแตกต่างให้กับแบรนด์นั้นต้องทำอย่างไร จึงเป็นการจับมือกันที่ลงตัวระหว่างบริษัทที่เชียวชาญในเทคโนโลยี และผู้แทนจำหน่ายสัญชาติไทยที่เชี่ยวชาญด้านการดูแลลูกค้า
เราตั้งใจขยายเครือข่ายดีลเลอร์ให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ โดยให้ความสำคัญกับการเลือกดีลเลอร์ค่อนข้างมาก ซึ่งกลางปีนี้จะมีดีลเลอร์ 17 แห่ง แบ่งเป็นกรุงเทพ 6 แห่ง และต่างจังหวัด 11 แห่ง แล้วจะทยอยเปิดเพิ่มเรื่อยๆ ไปจนถึงปลายปีนี้ให้ครบ 30 แห่ง
ขณะเดียวกัน ธนบุรีนอยสเติร์น ยังเตรียมลงทุนสร้างคลังอะไหล่ Parts Distribution Warehouse เพื่อรองรับบริการหลังการขายอีกด้วย ซึ่งตอนนี้กำลังคุยแผนกับจีลี่ บริษัทแม่อยู่
ต่อคำถามถึง แบรนด์รถยนต์จีน ที่ทำโปรโมชันลดราคาอย่างต่อเนื่อง นายณรงค์ ยอมรับว่า จีลี่ คงหลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะสงครามราคาได้เริ่มขึ้นแล้ว แต่ปีนี้อาจจะเริ่มเพลาลง เพราะหลายๆ แบรนด์เริ่มหาจุดสมดุลเจอ และมีการใช้กลยุทธ์ Price alignment กับการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ๆ โดยโมเดลที่เคยเปิดตัวในราคาที่สูง จะมีการปรับราคาลงมาให้ถูกต้องมากยิ่งขึ้น
ตอนนี้เรานำเข้า GEELY EX5 โดยตรงจากประเทศจีน ซึ่งบริษัทกำลังพิจารณาแผนการผลิตรถยนต์แบรนด์จีลี่ในประเทศไทย เนื่องจากธนบุรีประกอบรถยนต์ (TAAP) มีความเชี่ยวชาญในการประกอบรถยนต์ แต่ ณ วันนี้ยังไม่มีข้อสรุป เรื่องระยะเวลา
ขณะที่นโยบายบริษัทแม่ที่จีน จีลี่ กับ ริดดารา (Riddara) ถูกรวมอยู่ในกลุ่มเดียวกัน ส่วนแผนงานในไทยยังแยกการดำเนินธุรกิจอยู่ เพราะริดดารา ในไทย เป็นบริษัทแม่ หรือ OEM จากจีนมาบริหารเอง แต่ในส่วนของจีลี่ ธนบุรีนอยสเติร์น เป็นผู้นำเข้าและผู้จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
เราพูดคุยกันในเรื่องของ Synergy area อยู่ เช่น การบริการหลังการขาย หรือศูนย์ฝึกอบรม ว่าสามารถร่วมกันได้หรือไม่ แต่สุดท้ายแล้ว การดำเนินแผนงานต่างๆ ต้องมั่นใจว่าทางแบรนด์ หรือดีลเลอร์ จะได้รับผลประโยชน์สูงสุด และไม่ทำให้ตลาดสับสน
ณรงค์ เปิดเผยว่า การที่แบรนด์จะสร้างความแตกต่างให้กับผลิตภัณฑ์ได้ คือการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ มานำเสนอให้กับผู้บริโภค ประกอบกับการสร้างความเชื่อมั่นในบริการหลังการขาย จะถือเป็น Game changer ช่วยสร้างความแตกต่างได้
วันนี้ลูกค้าของกลุ่มธนบุรี-จีลี่ มีความเชื่อมั่นในแบรนด์จีลี่ ด้วยจีลี่เองมีเทคโนโลยีต่างๆ อาทิ GEA, 11-in-1 Intelligent Electric Drive System หรือ Short Blade Battery ที่ทำให้เราอยู่ในระดับแนวหน้าในเรื่องของนวัตกรรม
“รถแบรนด์จีน ที่ขายในไทย มักเป็นรถที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศจีน และส่วนใหญ่เป็นเอสยูวี ด้วยความอเนกประสงค์ ตอบสนองการใช้งานหลากหลาย อย่าง GEELY EX5 ที่มียอดขายสะสมกว่า 1,000 คัน นับเป็นเครื่องพิสูจน์ได้เป็นอย่างดี”
ส่วนการนำเอสยูวีรุ่น Star Wish มาจัดแสดงในงานบางกอก มอเตอร์โชว์ 2025 (พวงมาลัยซ้าย) เพื่อมาเก็บฟีดแบคของลูกค้าในตลาดรถเล็ก เพราะเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูง หากได้การตอบรับดีอาจจะเปิดตัวทำตลาดภายในปีนี้