อุตฯยานยนต์ไทยเดือนก.ค. 68 ยอดผลิต ส่งออกร่วง EV ดันยอดขายรถใหม่

25 ส.ค. 2568 | 09:38 น.
อัปเดตล่าสุด :25 ส.ค. 2568 | 09:50 น.

อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยร่วงต่อเนื่อง ยอดผลิต ส่งออกเดือนก.ค.68 ลดลง ด้านรถยนต์ไฟฟ้า EV ดันยอดขายรถใหม่ในประเทศเติบโต

สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)เปิดเผยตัวเลขการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์ในเดือนกรกฎาคม 2568 โดยยอดผลิตยังคงลดลง 11.39 % ขณะที่ยอดขายรถใหม่ป้ายแดงเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา เนื่องจากยอดรถยนต์ไฟฟ้า EV เติบโตเพราะราคาเข้าถึงได้มากกว่ารถน้ำมัน ขณะที่ยอดส่งออก ลดลงต่อเนื่อง 13.27 % 

ยอดผลิตรถเดือนก.ค.68 ลดลงต่อเนื่อง

ยอดผลิตรถยนต์ในเดือนกรกฎาคม 2568 มีทั้งสิ้น 110,616 คัน ลดลงจากเดือนกรกฎาคม 2567 ร้อยละ 11.39 ยอดผลิตลดลงค่อนข้างมากโดยเฉพาะรถยนต์นั่งที่ใช้น้ำมันซึ่งลดลงร้อยละ 31.80 จากการเลิกผลิตรถยนต์นั่งเพื่อส่งออกบางรุ่น ขณะที่รถกระบะยังคงผลิตลดลงทั้งผลิตขายในประเทศและผลิตส่งออกที่ลดลงร้อยละ 6.54 และ 8.61 ตามลำดับ เนื่องจากยอดขายในประเทศและยอดส่งออกที่ลดลงจากความไม่แน่นอนในการค้าโลก

ด้านตัวเลขยอดผลิตรถยนต์ตั้งแต่เดือนมกราคม - กรกฎาคม 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 835,331 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - กรกฎาคม 2567 ร้อยละ 5.73
 

EV ดันยอดขายรถเดือนก.ค.68 โต 5.84 % 

ยอดขายรถใหม่ป้ายแดงในประเทศ เดือนกรกฎาคม 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 49,102 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.84 โดยเพิ่มขึ้นติดต่อกันสี่เดือนเพราะยอดขายรถยนต์นั่งโดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าที่มีราคาเข้าถึงได้มากกว่ารถยนต์ใช้น้ำมัน ส่วนรถกระบะยังคงขายลดลงต่อเนื่องมากว่าสามสิบเดือนเหลือแค่ 11,022 คัน ลดลงร้อยละ 16.3 ( ปี 2562 ก่อนโควิด 19 รถกระบะขายในประเทศเฉลี่ยเดือนละ 35,973 คัน เท่ากับ 35.70 % ของยอดขายรวม 1,007,552 คัน) 


ทางด้านตัวเลขการขายรถใหม่ตั้งแต่ เดือนมกราคม - กรกฎาคม 2568 รถยนต์มียอดขาย 351,796 คัน ลดลงจากปี 2567 ในระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 0.74

 

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์  ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ในประเทศที่ลดลง โดยเฉพาะรถกระบะมีปัจจัยมาจากความเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อรถกระบะจากหนี้ครัวเรือนที่ยังสูงและเศรษฐกิจในประเทศที่ยังขยายตัวในอัตราต่ำร้อยละ 2.8 ในไตรมาส 2/2568 การลงทุนของเอกชนเติบโตแค่ร้อยละ 4.1 สาขาอุตสาหกรรมเติบโตแค่ร้อยละ 1.7 นักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนลดลงมาก ทำให้สาขาพักแรมและอาหารเติบโตเพียงร้อยละ 2.1 คงต้องติดตามการลงทุนของเอกชน การท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชนต่อไป และคาดหวังงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 จะช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตมากขึ้นจากปัจจุบัน

"ขณะเดียวกันต้องขอบคุณ กนง.ที่มีมติลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงช่วยให้ผู้กู้ลดภาระจ่ายดอกเบี้ยลง ทำให้ชำระคืนเงินกู้ได้มากขึ้น หนี้ครัวเรือนจะได้ลดลง และขอบคุณทีมไทยแลนด์ที่เจรจากับทีมงานประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จนได้อัตราภาษีศุลกากรนำเข้าสหรัฐอเมริกา 19% ซึ่งน่าจะดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศและในประเทศได้มากขึ้นเพื่อส่งออกและสร้างงานสร้างรายได้ให้คนไทยมากขึ้น หนี้ครัวเรือนจะได้ลดลงจากการชำระหนี้ ไม่ใช่ลดลงเพราะสถาบันการเงินไม่ปล่อยสินเชื่อซึ่งลดลงมาหลายไตรมาสแล้ว อย่างไรก็ตาม แม้ภาษีทรัมป์ของไทยที่ 19% ดูจะเสียเปรียบเวียดนามที่ 20% เมื่อเงินด่องเวียดนามอ่อนค่ามาก

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์

 

ยอดส่งออกเดือนก.ค. 68 ร่วง 13.27 % 

ยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปในเดือนกรกฎาคม 2568 ทำได้ 72,439 คัน ลดลงจากเดือนกรกฎาคม 2567 ร้อยละ 13.27 จากการเลิกผลิตรถยนต์นั่งใช้น้ำมันบางรุ่นเพราะจะเปลี่ยนรุ่นรถ รถยนต์นั่งและรถกระบะไฟฟ้ายังส่งออกอีกในเดือนนี้ 167 คัน 

นายสุรพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปีนี้เป็นปีประวัติศาสตร์ของประเทศไทยที่ส่งออกรถยนต์นั่งไฟฟ้าและรถกระบะไฟฟ้าดังที่รัฐบาลและเอกชนร่วมมือกันให้ประเทศไทยเป็นฐานผลิตยานยนต์ใช้น้ำมันและยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อส่งออกไปยังประเทศคู่ค้าที่มีนโยบายและความพร้อมของโครงสร้างแตกต่างกัน 

อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอนและการเข้มงวดในเรื่องการติดตั้งอุปกรณ์ช่วยขับเพื่อความปลอดภัยในรถยนต์และการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพของรถยนต์ของประเทศคู่ค้า ทำให้การส่งออกรถยนต์เดือนนี้ลดลงในตลาดเอเชีย ออสเตรเลียและโอเชียเนีย และอเมริกาเหนือ ขณะที่เครื่องยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถยนต์ยังคงส่งออกเพิ่มขึ้น

ส่วนตัวเลขการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2568 ทำได้ทั้งสิ้น 531,796 คัน ลดลงจากช่วงระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 11.74 


ยอดผลิต -ยอดขาย -ส่งออก EV โตสวนกระแส ICE 

เมื่อมาดูยอดผลิตรถยนต์เฉพาะที่เป็นรถยนต์ไฟฟ้า BEV ในเดือนก.ค.68 พบว่า ไทยสามารถผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้ 3,610 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 553.99 ส่วนตัวเลขตั้งแต่ม.ค.-ก.ค.68 ไทยผลิตรถยนต์ไฟฟ้า จำนวน 27,408 คัน เพิ่มขึ้น ร้อยละ 397.87
ขณะที่การขายรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) 9,304 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 36.12 ส่วนการส่งออกรถยนต์นั่งไฟฟ้า 120 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 100 และส่งออกรถกระบะไฟฟ้า 47 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 100

ยอดผลิต -ยอดขาย -ส่งออก EV โตสวนกระแส ICE