หลังจาก ทีซี ซูบารุ ได้พระเอกตัวใหม่คือ Subaru Forester ประกอบในไทยราคาดี มีสมรรถนะโดดเด่น ทำให้แสงสว่างไปจับจ้องที่ Subaru XV น้อยลง หรือเทียบได้จากยอดขายในปี 2564 ที่ Forester ทำได้ระดับ 2,000 คัน ขณะที่ XV ไม่ถึง 900 คัน
ล่าสุดกับโฉมไมเนอร์เชนจ์ที่เปิดตัวในไทยปลายปี 2564 ก่อนจะมาประกาศราคาขายในเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดย Subaru XV 2.0 i-P พร้อม EyeSight เวอร์ชันอัพเกรด ราคาเริ่มต้น 1.299 ล้านบาท
Subaru XV 2022 ไมเนอร์เชนจ์ เปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ภายนอกไปพอหอมปากหอมคอ ทั้งกระจังหน้าและกันชนหน้า รวมถึงลายล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ส่วนฟังก์ชันที่ปรับปรุงใหม่ ได้แก่ เบาะนั่งคนขับปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมหน่วยความจำ 2 ตำแหน่ง ระบบล็อกและปลดล็อกประตูอัตโนมัติ ระบบเบรกอัตโนมัติเมื่อรถหยุดนิ่ง ระบบเตือนผู้โดยสารด้านหลัง และกระจกมองข้างฝั่งผู้โดยสารปรับมุมลงอัตโนมัติเมื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง
ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการ (ช่วยเหลือ) ขับขี่ แน่นอนว่ามี EyeSight เวอร์ชันอัพเกรด เพิ่มฟังก์ชันรวมเป็น 6 ตัว และ X-Mode เพิ่มความเฉียบคมในการกระจาย กำลังลงสู่ล้อทั้งสี่ โดยเฉพาะเส้นทางออฟโรด แบบ Snow/Dirt และ Deep Snow/Mud
การขับบนทางเรียบ ยังมีโหมดการขับขี่ SI DRIVE 2 รูปแบบคือ Sport และโหมด Intelligent ขับนุ่มๆ เน้นประหยัดนํ้ามัน
ด้าน EyeSight ที่ใช้กล้องหน้า 2 ตัว ตรวจจับสภาพแวดล้อม(ได้ความชัดเจน และมุมกว้าง โดยไม่ต้องมีเรดาห์ช่วย) จะช่วยเหลือผู้ขับขี่ ดังนี้
สรุปก็คือ เพิ่มความสดใหม่ให้ Subaru XV 2022 ตามแผนงานเมื่อรถเดินทางมาถึงกลางอายุโมเดล พร้อมฟังก์ชันความปลอดภัยที่อัจฉริยะมากขึ้น รวมถึงโหมดควบคุมการขับขี่ทั้งทางดำถนนดี และทางฝุ่นถนนขุรขระ
เหนืออื่นใด ถ้าการปรับเปลี่ยนนี้ยังไม่สะใจพอ ลูกค้าสามารถเลือกการตกแต่งเพิ่มเติมด้วยการจ่ายเงินอีก 9 หมื่นบาท จะได้รับชุดแต่งอันประกอบด้วยสเกิร์ตหน้า, สเกิร์ตข้าง, สเกิร์ตหลัง, สปอยเลอร์หลังคา, ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว และภายในมากับเบาะหนังออกแบบมาพิเศษ
Subaru XV 2022 ตำแหน่งทาง การตลาดตอนนี้ ลงมาสู้กับพวกบี-เอสยูวี กลุ่มบนเต็มๆ ครับ ทั้งโตโยต้า โคโรลลา ครอส, ซี-เอชอาร์ ฮอนด้า เอชอาร์-วี และมาสด้า ซีเอ็กซ์-30 แต่กระนั้นถ้าเทียบกับทุกคู่แข่ง ผมว่าเอสยูวี จากโรงงานฟูจิเฮฟวี่อินดัสตรี้ ให้อารมณ์การขับขี่ที่สปอร์ตดุดันกว่า
ถ้าไม่คิดเรื่องอัตราบริโภคนํ้ามัน เพราะคงจะไปสู้พวกไฮบริดไม่ได้ แต่สมรรถนะการขับขี่รวมๆ Subaru XV เด็ดขาดกว่า ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบนอนขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 156 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 196 นิวตัน-เมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT อัตราเร่งสมเนื้อสมตัว เรียกเมื่อไหร่ ส่งมาให้เท่า นั้นขับขี่ในเมืองมีความคล่องตัว ใช้วิ่งทางไกลมีความหนักแน่น
เครื่องยนต์เบนซินหัวฉีดตรง แต่วางแบบนอนเหมือนลูกสูบชกกัน จึงถูกเรียกว่า Boxer ตรงนี้ช่วยเรื่องจุดศูนย์ถ่วงด้านหน้า ส่งผลโดยตรงต่อการควบคุมรถอยู่แล้ว แถมยังมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อตลอดเวลา เสริมด้วยระบบไฟฟ้าตามที่กล่าวมาคือ X-Mode ขับออฟโรด และ SI DRIVE บนทางเรียบ ช่วยให้ขับขี่ได้มั่นใจในทุกสภาพแวดล้อม
แม้กราวด์เคลียร์แลนซ์จะอยู่ในระดับ 220 มม.ซึ่งสูงกว่าคู่แข่ง แต่การถ่ายเทนํ้าหนักหน้า- หลัง ทำได้สมดุล ในส่วนช่วงล่างด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท หลังเป็นปีกนกสองชั้น ผมรู้สึกว่า วิศวกรซูบารุ ได้ลดความกระด้างลงเล็กน้อย กล่าวคือ ระบบรองรับมีความนุ่มกว่า XV เจเนอเรชันแรกแน่นอน แต่พอมาถึงเจเนอเรชันที่สอง ก็เหมือนจะจูนให้รุ่นไมเนอร์เชนจ์เป็นมิตรกับพื้นถนนได้ดีขึ้น
รวบรัดตัดความ...ตามสไตล์รถ ICE ขับดีตั้งแต่การพัฒนาโครงสร้าง โดย Subaru XV สมรรถนะเฉียบขาดกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกัน การทรงตัวหนึบ แน่นและรุ่นใหม่เหมือนจะจูนช่วงล่างให้นุ่มลงเล็กน้อย แต่โดยรวมยังคงเอกลักษณ์ของเอสยูวีสไตล์สมบุกสมบัน ที่เน้นใช้งานในเมืองและน่าจะใช้ได้ดีมาก ในกรณีนํ้าท่วมรอการระบายในกรุงเทพฯ ละครับ
รีวิว Subaru XV 2022 : กรกิต กสิคุณ