ไวรัสโควิด-19 เข้ามาเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินชีวิต ทั้งต้องปรับตัวตามมาตรการสังคม ข้อกำหนดรัฐบาล และจำยอมต่อภาวะเศรษฐกิจ หมายรวมถึงกลุ่มที่ถูกเลิกจ้าง ต้องดิ้นสู้หารายได้ในรูปแบบใหม่ๆ
ขณะเดียวกัน จากมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ความลำบากในการใช้บริการรถสาธารณะ และเสี่ยงติดเชื้อไวรัส ผู้คนส่วนหนึ่งหันมามองหารถยนต์ราคาถูก ที่ไม่เป็นภาระต่อค่าใช้จ่ายรายเดือนมากเกินไป หรือบางคนต้องออกจากงานแล้วได้เงินก้อน อาจจะจัดสรรปันส่วนมาซื้อรถ นำไปใช้วิ่งบริการรับ-ส่งออนดีมานด์ (เช่น แกร็บคาร์ ) หรือใช้ขนสินค้าเพื่อทำมาค้าขาย
เหล่านี้ถือว่าเข้าทาง “ซูซูกิ” ที่เน้นทำตลาดรถราคาประหยัด ทั้งในกลุ่มอีโคคาร์ เซเลริโอ เซียส สวิฟท์ และปิกอัพ แคร์รี่ (ยังมีเอ็มพีวี เออร์ติก้า)
สำหรับ “เซียส” ได้รับความนิยมจากคนขับ“แกร็บคาร์” มานานแล้วเพราะราคาดี ออกรถง่าย พร้อมตัวถังใหญ่ ภายในกว้างขวางนั่งเป็นผู้โดยสารด้านหลังสบาย
เช่นเดียวกับ “แคร์รี่” ปิกอัพราคา 385,000 บาท ถูกซื้อใช้ในกิจการขนาดเล็ก หรือคนเพิ่งเริ่มทำธุรกิจใหม่ๆ ไปจนถึงตีต่อรถเป็นฟู้ดทรัค ขายอาหารตามตลาดต่างๆ
ทว่าที่รถยนต์รุ่นที่ขายดีเกินความคาดหมายตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัส คือ “เซเลริโอ” ที่ปกติขายตํ่ากว่า 100 คันต่อเดือน แต่ในช่วง 2-3 เดือนมานี้ ยอดจองกระโดดขึ้นไปถึง 400-500 คัน
ทั้งนี้ ช่วงปลายปีที่แล้ว ซูซูกิยังลดราคาลงทุกรุ่นย่อย 45,000 บาท ส่วนแคมเปญปัจจุบันคือ ขับฟรี 90 วัน พร้อมส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 20,000 บาท หรือเลือกผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 1,999 บาท ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม กรรมการบริหารด้านการขายและการตลาด บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน มียอดจอง “เซเลริโอ” เข้ามาเยอะ ตอนนี้มีแบคออร์เดอร์ 400-500 คัน อย่างเดือนพฤษภาคม บริษัทสามารถส่งมอบรถให้ลูกค้าได้เพียง 172 คันเท่านั้นเอง
“ตั้งแต่เกิดโควิด-19 ยอดขายรถยนต์ทั้งตลาดตกหมด ซูซูกิก็เช่นกันแต่ ยกเว้น เซเลริโอ ที่ขายดีกว่าเพื่อน จนมีแบคออร์เดอร์อยู่พอสมควร ส่วนหนึ่งเพราะโรงงานผลิตเราหยุดชั่วคราวในเดือนเมษายน ทำให้ไม่มีรถส่งมอบได้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า แต่หลังจากเดือนมิถุนายนนี้จะเริ่มทยอยส่งมอบได้เต็มที่
อย่างบางคนที่โดนให้ออกจากงานหันมาซื้อ เซเลริโอ กับแคร์รี่ ทำให้ยอดขายรถ 2 รุ่นนี้ยังดีเมื่อเทียบกับสถานการณ์ตอนนี้ ซึ่งรถของเรามีคุณภาพ เพียงพอต่อการใช้งาน ในราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่าย อย่าง“แคร์รี่” ปกติขายเดือนละ 200-300 คัน แต่เดือนพฤษภาคมยังมีตัวเลข 205 คัน ถือว่าน่าพอใจ” นายวัลลภ กล่าวสรุป
สำหรับผลประกอบการ 4 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-เม.ย.63) ซูซูกิ ขายได้ 7,643 คัน ลดลง 1.2% น้อยกว่าทุกค่าย ขณะที่ตลาดรวมตก 34.2%
ด้านคู่แข่ง “นิสสัน มาร์ช” รุ่นเริ่มต้นเกียร์ธรรมดาขาย 420,000 บาท มาพร้อมโปรโมชันฟรีดาวน์ หรือจะเลือกให้นิสสันช่วยผ่อนค่างวด 50% นาน 9 เดือนก็ได้
นายราเมช นาราสิมัน ประธาน นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดรวมปีนี้มีโอกาสลดลงเหลือ 6 แสนคัน (ปี 2562 ขายได้ 1.007 ล้านคัน) โดยกลุ่มอีโคคาร์จะได้รับผลกระทบพอสมควร อย่างที่ผ่านมายอดขายในเซ็กเมนต์นี้ลดลงไปประมาณ 25%
ฝั่ง “มิตซูบิชิ มอเตอร์ส” ไม่ยอมน้อยหน้าจัดแคมเปญโหดๆให้รถยนต์ทุกรุ่นด้วยการลดราคาหลายหมื่นถึงหลักแสนบาท พร้อมของแถมเพียบ แต่ในส่วนอีโคคาร์ “มิราจ” และ “แอททราจ” แน่นอนว่าใช้เงื่อนไข ฟรีเงินดาวน์ แถมช่วยผ่อนค่างวดอีกเดือนละ 3,000 บาท นานถึง 10 เดือน
หน้า 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,581 วันที่ 7 - 10 มิถุนายน พ.ศ. 2563