โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ บล็อกเล็ก ขับ4 มีดิสก์หลัง

02 ก.ย. 2560 | 00:15 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

โตโยต้าเปิดตัว “ฟอร์จูนเนอร์ โฉมใหม่” ในเดือนกรกฎาคม 2558 ซึ่งเป็นช่วงปะกันพอดีกับโมเดลเชนจ์ของ “มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต” และ “ฟอร์ด เอเวอเรสต์” ดังนั้นเมื่อรถลงสู่ตลาด เห็นสเปก ลองขับเปรียบเทียบจริงๆ จึงเกิดคำถามมากมาย ถึงความคุ้มค่าน่าใช้ แนวคิดในการเลือกเทคโนโลยียานยนต์ และออพชันต่างๆ ให้กับรถยนต์ของตนเอง หนึ่งในประเด็นที่โตโยต้าถูกจี้ถามคือ “ทำไมล้อหลังไม่ใช้ดิสก์เบรก?” เหมือนกับ 2 คู่แข่ง

MP33-3292-4 ผ่านไป 2 ปีกำลังดี หลังถูกเรียกร้องมากๆและจะกลายเป็นว่าไม่ห่วงใย ไม่จริงใจ หวังลดต้นทุน สุดท้ายในรุ่นปรับปรุงใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว โตโยต้าจึงใส่ดิสก์เบรก 4 ล้อ มาเป็นมาตรฐานในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ พร้อมบวกราคา 2 หมื่นบาท (และเพิ่มออพชันอื่นๆ เช่น เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า และไฟตัดหมอก LED)

ส่วนคำถามว่า เมื่อฟอร์จูนเนอร์เปลี่ยนเป็นดิสก์เบรก 4 ล้อแล้ว ระยะเบรกจะสั้นลงไหม ประเด็นนี้วิศวกรโตโยต้าแจงว่า จากการทดสอบภายในของบริษัท ขับคนเดียวไม่มีผู้โดยสารและไม่บรรทุกของ เมื่อเบรกเต็มแรงพบว่า ระยะเบรกเท่าเทียมกับรุ่นดิสก์เบรกหน้า ดรัมเบรกหลังแต่ก็ยอมรับว่ากรณีบรรทุกหนักในเงื่อนไขการขับขี่เดียวกัน รุ่นดิสก์เบรก 4 ล้อระยะเบรกจะสั้นกว่า

MP33-3292-3 ...ก็สิ้นสงสัยกันไปกับประเด็นนี้นะครับ

ขณะเดียวกันในโอกาสเปิดตัวรุ่นปรับปรุงออพชัน (ไม่ได้ยุ่งกับรูปลักษณ์ เครื่อง ยนต์ เกียร์ ช่วงล่าง) โตโยต้า ยังเสริมรุ่น 2.4V ขับเคลื่อน 4 ล้อ ราคา 1.499 ล้านบาท มาเป็นทางเลือกใหม่ เดิมใครอยากได้รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อของฟอร์จูนเนอร์ ก็มีทางเลือกเดียว 2.8V เครื่องยนต์ดีเซล 1GD 2.8 ลิตร ราคา 1.649 ล้านบาท ส่วนรุ่นใหม่ 2.4V เครื่องบล็อกเล็ก 2GD 2.4 ลิตร จ่ายน้อยลง 1.5 แสนบาท น่าจะเปิดโอกาสการขายมากขึ้น

การลองขับในรุ่น 2.4V ขับเคลื่อน 4 ล้อ แน่นอนว่าการจ่ายถูกกว่า 2.8V ก็ได้เรี่ยวแรงน้อยตาม ส่วนหนึ่งเพราะเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2.4 ลิตร เทอร์โบแปรผัน 150 แรงม้า ต้องแบกนํ้าหนักจากระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่เพิ่มขึ้น ทั้ง ชุดทรานส์เฟอร์ เพลากลาง เฟืองท้ายตัวหน้า เพลาขับหน้า 
เหล่านี้นํ้าหนักรวมกันประมาณ 100 กิโลกรัม

MP33-3292-1 ดังนั้นการตอบสนองในช่วงเร่งแซงกะทันหัน 2.4V ก็จะหนืดๆ หน่อย ไม่นวลเนียนเหมือนรุ่น 2.8V ขณะเดียวกันหากเทียบกับขุมพลัง “ปาเจโร สปอร์ต” 2.4 ลิตร 180 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด พีพีวีของมิตซูบิชิเหมือนจะแรงไหลลื่นกว่า

ส่วนประสิทธิภาพของดิสก์เบรก 4 ล้อ ยังสัมผัสได้ถึงความหนึบแน่น นํ้าหนักเท้าที่กดแป้นเบรก สัมพันธ์ตามความคาดหมายกับระยะชะลอหยุด

ด้านระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่โตโยต้าเรียกว่า Sigma 4 เป็นแบบพาร์ตไทม์ ผู้ขับเลือกได้ว่าจะขับ 2 ล้อหลัง 2H ที่ใช้บนทางดำถนนดี หรือเลือกขับเคลื่อน 4 ล้อ 4H ล็อกกำลังไปล้อหน้า/หลัง เท่ากัน 50/50 ใช้ลุยทางฝุ่น ถนนลูกรัง และระบบขับเคลื่อนแบบ 4L ที่จะปรับอัตราทดเกียร์ เพิ่มแรงบิดเอาไว้ปีนป่ายลุยทางวิบากที่ความเร็วตํ่า

mp33-3292-a ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Sigma 4 ยังหมายรวมถึงกลไกไฟฟ้า A-TRC (Active Traction Control) เป็นระบบตรวจสอบล้อขับเคลื่อนที่ลื่นไถล โดยจะเข้าไปลดแรงบิดหรือเบรกในล้อที่กำลังหมุนฟรี แล้วส่งแรงบิดที่เหลือไปยังล้ออีกข้างที่เกาะถนนดีอยู่ เพื่อผลักดันให้ผ่านอุปสรรคไปได้ รวมถึงระบบ DAC (Down Hill Assist Control) ระบบควบคุมแรงเบรกเมื่อขับลงทางลาดชัน ให้ปลอดภัยมั่นใจมากขึ้น

ทั้งนี้ โตโยต้าพยายามสื่อสารระบบ Sigma 4 ให้เป็นภาพใหญ่เพื่อไปสู้กับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อของค่าย อื่นๆ โดยเฉพาะตัวเทพ Super Select IIของมิตซูบิชิ ที่เลือกได้ถึง 4 โหมดคือ 1. ขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง 2.ขับเคลื่อน 4 ล้อแบบกระจายกำลังไปหน้า-หลังตามสภาพถนน(ฟูลไทม์) 3.ล็อกแบ่งกำลังไปล้อหน้า/หลัง 50/50 และ 4. โฟร์โลว์ 4L เพื่อตะกุยปีนป่าย

ส่วนระบบขับเคลื่อน 4 ล้อของ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เป็นแบบฟูลไทม์ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา กระจายกำลังไปล้อหน้าหลังแปรผัน และเลือกเปลี่ยนโหมดได้ตามสภาพถนน

MP33-3292-2 อย่างไรก็ตาม จุดเด่นของฟอร์จูนเนอร์ 2.4V ขับเคลื่อน 4 ล้อ ยังอยู่ที่ช่วงล่างเกาะถนนแน่น ผมรู้สึกว่าอาการยวบโยนน้อยกว่าปาเจโร สปอร์ต อย่างซัดทางตรงความเร็วสูง ตัวถังนิ่ง จังหวะเข้าโค้งสามารถลัดเลาะได้มั่นใจครับ

ปิดท้ายด้วยอัตราบริโภคนํ้ามัน ลองวัดในช่วงมอเตอร์เวย์มุ่งหน้าฉะเชิงเทรา และกบินทร์บุรี วิ่งใช้ความเร็วคงที่สลับรถติด เห็นตัวเลขหน้าจอ 11-12 กม./ลิตร

รวบรัดตัดความ... 2.4V ขับเคลื่อน 4 ล้อ ถือเป็นทางเลือกใหม่ หวังเอามาสู้เต็มๆกับ “ปาเจโร สปอร์ต” 2.4 GT 4WD ราคา 1.529 ล้านบาท และอาจจะชำเลืองสถานการณ์ของ “ฮอนด้า ซีอาร์-วี” เอาไว้ด้วย แต่กระนั้นถ้าใช้วิ่งทางไกล มีโหลดหนัก สมรรถนะอาจจะหนืดไปนิด ลองขยับเป็นตัว 2.8V น่าจะสบาย
มือกว่า

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,292
วันที่ 31 สิงหาคม - 2 กันยายน พ.ศ. 2560