ตลาดมอ’ไซค์โต4.4% ยามาฮ่าปรับเป้ายอดขาย ส่งรถบ้านรุ่นใหม่แทน‘สปาร์ค’

24 ส.ค. 2560 | 23:10 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

ยามาฮ่า ประเมินตลาดรถจักรยานยนต์ปีนี้โตถึง 1.8 ล้านคัน พร้อมปรับเป้าหมายจาก 2.85 แสนคัน เป็น 3.05 แสนคัน เตรียมส่งรถครอบครัวรุ่นใหม่ปิดจุดอ่อน

นายประพันธ์ พลธนะวสิทธิ์ รองประธาน กรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมตลาดรถจักรยานยนต์ในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมาโต 4.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา คาดว่าจนถึงสิ้นปีตัวเลขจะเพิ่มขึ้นจากที่เคยคาดการณ์ไว้ 1.75 ล้านคัน เป็น 1.8 ล้านคัน ขณะที่ผลการดำเนินงานของยามาฮ่าเติบโต 10.5% ซึ่งจากทิศทางการเติบโตที่เกิดขึ้น ทำให้ประเมินว่าเป้าหมายที่วางไว้จะขยับจากเดิมที่ตั้งไว้ 2.85 แสนคัน เพิ่มเป็น 3.05 แสนคัน (ปี 2559 ทำได้ 2.45 แสนคัน)

การปรับเป้าหมายการขายที่เพิ่มขึ้นของยามาฮ่า เป็นผลมาจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มเอที อาทิ ฟิลาโน่ ที่ขายได้มากกว่าเดือนละ 5,000 คัน, คิวบิก ขายได้เดือนละ 3,500 คัน , แอร็อกซ์ ขายได้เดือนละ 3,000-4,000 คัน, เอ็น-แม็กซ์ ที่แต่เดิมตั้งไว้ 1,500 คัน ตอนนี้ก็ทำได้ 2,500 คันต่อเดือน ล่าสุดในกลุ่มเอทีที่ได้เปิดตัวคือ เอ็กซ์-แม็กซ์ 300 จะเริ่มส่งมอบกันยายนนี้ คาดว่ารุ่นนี้จะทำได้ 300-500 คันต่อเดือน

MP32-3290-1 “เราเพิ่งจะเปิดตัว ยามาฮ่า เอ็กซ์-แม็กซ์ 300 ที่มีให้เลือก 4 สี เคาะราคาเริ่มต้น 1.68 แสนบาท โดยได้รับการตอบรับที่ดีทั้งจากลูกค้าทั่วไป และดีลเลอร์ของเราที่จองรถตั้งแต่ไม่ได้ประกาศราคา ซึ่งรถรุ่นใหม่นี้มาพร้อมเครื่องยนต์ BLUE CORE 300 ซีซี ระบบหัวฉีดอัจฉริยะ, กุญแจสมาร์ทคีย์อัจฉริยะ Smart Key system ควบคุมรถทั้งคัน,ระบบเบรก ABS ช่วยป้องกันล้อล็อก, ระบบTraction Control System (TCS)ช่วยปรับสมดุลกำลังของเครื่องยนต์ ส่วนฟีเจอร์อื่นๆก็จัดเต็มไม่ว่าจะเป็น ไฟหน้า-ไฟท้าย แบบFULL LED, แผงหน้าปัดMulti-function Meters แสดงข้อมูลชัดเจน พร้อมจอ LED บอกสถานะการขับขี่,ช่องเสียบอุปกรณ์ชาร์จไฟขนาด 12V สะดวกในการชาร์จโทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์นำทางในขณะเดินทาง, X-BOXที่เก็บสัมภาระใต้เบาะขนาดใหญ่ไซซ์ XL ที่เก็บหมวกกันน็อกเต็มใบได้ถึง 2 ใบ”

MP32-3290-2 ขณะที่กลุ่มสปอร์ตของยามาฮ่า มียอดขายที่แข็งแรงขึ้น อาทิ เอ็ม-สแลซ ที่ขาย 4,000 -4,500 คันต่อเดือน ส่วนกลุ่มโมเพ็ด ที่มี สปาร์ค เพียง 1 รุ่น ก็ได้เวลาที่จะเสริมทัพ 
โดยยามาฮ่ามีการประกาศไว้ตั้งแต่ต้นปีว่าจะเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดของจักรยานยนต์ในกลุ่มนี้ให้มากขึ้น

นอกจากผลิตภัณฑ์ในตลาดแมสแล้ว ในส่วนของบิ๊กไบค์ที่แต่เดิมตั้งเป้าหมายการขายในปี 2560 ไว้ที่ 2,600 คัน แต่ผ่านพ้น 7 เดือนพบว่ายามาฮ่าขายได้แล้วกว่า 1,200 คัน ซึ่งหากยอดขายในแต่ละเดือนยังเติบโตในลักษณะนี้ก็คาดว่าเป้าหมายจะขยับไปเป็น 2,800-2,900 คัน

“ตลาดบิ๊กไบค์โต โดยตัวเลขจดทะเบียนในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา เติบโต 26 % ทั้งนี้เพราะมีผู้เล่นเยอะขึ้น ส่วนแบ่งการตลาดก็แบ่งๆกันไป และตอนนี้หลายค่ายก็เข้ามาลงทุนตั้งโรงงานก็ยิ่งทำให้การแข่งขันเพิ่มสูงขึ้น เช่นเดียวกับแคมเปญของแถม-ส่วนลดต่างๆถูกงัดออกมาแข่งกันอย่างดุเดือด ซึ่งส่งผลดีให้กับผู้บริโภค”

สำหรับยามาฮ่ามีการปูพรมผลิตภัณฑ์ในกลุ่มบิ๊กไบค์ด้วยการชูมอเตอร์สปอร์ตเข้ามาเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดหลัก ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมากโดยเฉพาะทีมแข่งที่ไปคว้าชัยในสนามทั้งในและต่างประเทศ ส่วนกลยุทธ์หลักด้านอื่น อาทิ การเพิ่มจำนวนดีลเลอร์ จะค่อยเป็นค่อยไป เพราะธุรกิจนี้ไม่ง่าย เนื่องจากการแข่งขันสูง หากเร่งขยายสาขามากเกินไปอาจจะไม่เกิดความคุ้มค่า โดยปัจจุบันดีลเลอร์ที่จำหน่ายรถบิ๊กไบค์“ยามาฮ่า ไรเดอร์ส คลับ” มีจำนวน 14 แห่ง

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,290 วันที่ 24 - 26 สิงหาคม พ.ศ. 2560