SCB แนะคนไทยปรับตัว หลังเผชิญ “การปฏิวัติอุตสาหกรรม”

19 พ.ค. 2565 | 07:47 น.

“สมประวิณ” ผู้บริหาร SCB มองไทยกำลังเผชิญการปฏิวัติอุตสาหกรรม ชี้ เป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง ที่เป็นโอกาสบนความท้าทาย แนะเร่งปรับตัวก่อนโควิดจบ

นายสมประวิณ มันประเสริฐ รองผู้จัดการใหญ่ SCB ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มงาน EIC กล่าวในงานเสวนา Better Thailand Open Dialogue “ถามมา-ตอบไป เพื่อประเทศไทยที่ดีกว่าเดิม” ว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาไทยเผชิญ วิกฤตซ้อน นอกจากวิกฤตโควิด คือ การปฏิวัติอุตสาหกรรม ที่ถูกกระทบจากเทคโนโลยี

 

งานเสวนา Better Thailand Open Dialogue “ถามมา-ตอบไป เพื่อประเทศไทยที่ดีกว่าเดิม”

โดยโควิด เป็นความเสี่ยงด้านความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้น และจะยังคงอยู่กับเราต่อไป ขณะที่เรื่องของเทคโนโลยีดิสรัปชัน ทำให้สินค้าและบริการเปลี่ยนแปลงไปในอนาคต

 

พร้อมระบุว่า หลังโควิดหากสินค้าและบริการขายไม่ได้ ไม่ใช่เพราะเศรษฐกิจชะลออย่างเดียว แต่เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง โดยมองว่าเป็นความท้าทายที่เป็นโอกาส ถ้ามีความเข้าใจในบริบท และวางแผนปรับตัวได้ถูกต้อง

ผู้บริหาร SCB ระบุอีกว่า วันนี้ประเทศไทยต้องเปลี่ยนจาก เอาท์ไซด์อิน เป็น อินไซด์เอ้าท์ เพราะวันนี้สินค้าและบริการในโลกมีความเปลี่ยนแปลง ดังนั้นเราต้องปรับตัวได้ทัน ซึ่งสินค้าและบริการใหม่ๆ ยังไม่มีผู้ผลิต ดังนั้นจึงเป็นโอกาส แต่หากยังผลิตสินค้าเดิมๆ ซึ่งมีผู้ผลิตอยู่แล้ว เราจะอยู่ไม่ได้

 

“เราอาจใช้วิธีการเชื่อมโยงตลาด โดยบริษัทใหญ่ๆ ทำหน้าที่ในการหาตลาด หานวัตกรรม ขณะเดียวกันก็มาสร้างรายได้ให้คนในประเทศ เพื่อสร้างกำลังซื้อ ผ่านการจ้างงาน หรือให้เขาทำซัพพลายเซนเพื่อส่งให้บริษัทใหญ่ๆ นำไปขายในต่างประเทศ”

 

นายสมประวิณ กล่าวอีกว่า โลกกำลังจะเปลี่ยน ดังนั้นเราต้องปรับ และสร้างโอกาสบนความท้าทาย ในนิยาม 2 คำ คือ อินไซต์เอ้าท์ และ อินคลูซีฟ ทั้งนี้ไทยเราไม่ต้องการเด่นในกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่ไทยต้องเป็นพระเอกทุกกลุ่ม

 

"ถ้าอยากเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ต้องย้อนกลับมาดูตัวเราว่ามีการพัฒนาหรือยัง คนทั้ง 60 ล้านคนมีการพัฒนาแล้วหรือยัง ถ้าใช่ แปลว่าไทยก็ถือว่าเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว"