คปภ.ยัน เปลี่ยนเงื่อนไขประกันโควิด ลูกค้าต้องสมัครใจ ห้ามบังคับ

กรณีที่มีประชาชนร้องเรียนว่า บริษัท เดอะวันประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้ส่งจดหมายแจ้งผู้ทำประกันภัยโควิด เจอจ่ายจบ ว่า บริษัทไม่สามารถบริหารสภาพคล่องได้ เนื่องจากมีผู้เอาประกันภัยเพิ่มขึ้น 300 เท่า จึงเสนอให้สิทธิผู้เอาประกัน เปลี่ยนกรมธรรม์เป็นฉบับใหม่ บอกยกเลิกกรมธรรม์ฉบับเดิม

และให้สามารถเปลี่ยนมาใช้ความคุ้มครอง เฉพาะเจ็บป่วยขั้นสุดท้าย หรือ โคม่า ด้วยทุนประกันภัย 5 เท่า หรือเปลี่ยนเป็นกรมธรรม์อุบัติเหตุ ให้ความคุ้มครอง 10 เท่า หรือ บอกยกเลิกกรรมธรรม์ จะคืนเบี้ยให้ 100% ไม่หักระยะเวลาคุ้มครอง หรือนำเบี้ยที่ได้มาซื้อประกันอื่นของบริษัท โดยจะลดให้ 2 เท่าของเงินเบี้ยที่ได้คืน

นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)เปิดเผยว่า  กรณีดังกล่าว ยังไม่ผิดกฎหมายหรือขัดคำสั่งนายทะเบียน เพราะไม่ถือเป็นการบอกเลิกสัญญาจากทางบริษัทประกันภัย แต่เป็นการเสนอทางเลือกให้กับผู้เอาประกัน  อีกทั้งนิติกรรมย่อมสามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงด้วยข้อตกลงที่เกิดจากความสมัครใจของคู่สัญญาทั้งสองฝ่าย

“ กรณีดังกล่าวขึ้นอยู่กับความสมัครใจของผู้เอาประกันภัย หากผู้เอาประกันภัย ไม่ประสงค์จะเปลี่ยนแปลงกรมธรรม์ตามข้อเสนอของบริษัท สัญญาประกันภัยของผู้เอาประกันภัยก็ยังมีผลบังคับตามเดิม”นายสุทธิพลกล่าว

นอกจากนี้ ยังได้รับการยืนยันจากทางบริษัทฯ ว่าจะไม่มีการบังคับผู้เอาประกันภัยแต่อย่างไร โดยบริษัทฯ พยายามหาทางบริหารความเสี่ยงเพื่อลดปัญหาการขาดสภาพคล่องเพื่อให้อยู่รอดได้ และยืนยันจะปฏิบัติตามคำสั่งนายทะเบียน ซึ่งทางสำนักงาน คปภ. จะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชนผู้เอาประกันภัย

นายอรัญ ศรีว่องไทย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บริษัทเดอะวัน ประกันภัยกล่าวกับ “ฐานเศรษฐกิจ”  บริษัทฯได้ส่งจดหมายแจ้งลูกค้า เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2564  โดยเสนอทางเลือกให้ลูกค้าตามหลักการประกันภัย  ด้วยแนวทางการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของผู้เอาประกันภัย เพื่อไม่ให้ลูกค้าผู้เอาประกันภัยได้รับผลกระทบจากสภาพคล่องของบริษัท โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างทยอยโทรศัพท์เพื่อสื่อสารและทำความเข้าใจกับลูกค้า

“ผมอยากขอความเป็นธรรม ให้อ่านรายละเอียดของจดหมาย และทำความเข้าใจในเจตนาของบริษัทว่า จดหมายเพื่อบอกความเป็นจริงกับลูกค้าว่า  บริษัทประสบสภาวะเรื่องสภาพคล่อง โดยไม่ได้ปิดบัง"”นายอริญกล่าว

เห็นได้จากยอดเคลมที่เข้ามาจำนวนมาก โดยจ่ายเบี้ยประกันภัยไปแล้ว 2,500 ล้านบาท จำนวนลูกค้าเกือบ 30,000คน  คงเหลือเบี้ยประกันอีก 1,000 ล้านบาท ลูกค้าอีกราว 20,000คน ในจำนวนนี้เป็นกรมธรรม์เจอจ่ายจบอีก  400 กว่าล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้สื่อสารกับลูกค้าว่าจะพยายามทยอยจ่ายให้แล้วเสร็จภายในไตรมาสแรกปี2565

ประเด็นของการออกจดหมายอยู่ที่ว่า   หากสถานการณ์โควิด-19 ยังเป็นแบบเดิมหรืออนาคตเกิดการระบาดระลอก 4-5 บริษัทอาจจะรับภาระไม่ไหว  และลูกค้าจะได้ไม่เสียประโยชน์  จึงเสนอทางเลือกว่า สามารถจะเปลี่ยนความคุ้มครอง จากกรมธรรม์เจอจ่ายจบ เป็นกรมธรรม์ใหม่คุ้มครองภาวะโคม่า  หรือ จะเลือกเปลี่ยนเป็นประกันภัยอุบัติเหตุ  ซึ่งบริษัทเสนอความคุ้มครองให้เป็น 10เท่า 

หรือถ้าหากลูกค้าไม่เชื่อมั่นบริษัท ลูกค้าก็สามารถบอกยกเลิกกรมธรรม์ และรับคืนเบี้ยประกันภัยทั้ง 100% ได้   ซึ่งบริษัทได้เสนอ 3-4 ทางเลือกเพื่อให้ลูกค้า “เลือก” และแจ้งกลับมา  โดยยืนยันว่า ทุกแนวทางที่แจ้งลูกค้าไปนั้น บริษัทไม่ได้บังคับลูกค้าแต่อย่างใด  

นอกจากนี้กรณีที่บริษัทขอให้ลูกค้าเลือกและแจ้งกลับมาภายใน 7 วันนั้น เพื่อการบริหารจัดการของบริษัท  หากลูกค้าเลือกแนวทางไหนลูกค้าก็จะได้สิทธิตามแนวทางนั้น  แต่ลูกค้ารายที่ไม่ได้เลือก กรมธรรม์ของลูกค้าก็ยังคงสถานะเดิม

“ผมเสนอให้ลูกค้าเป็นคนเลือกตามหลักการประกันภัย  ผมบอกให้ลูกค้าเลือก โดยไม่ได้บังคับลูกค้า  หากลูกค้าไม่เลือก ลูกค้าก็ยังสถานภาพเดิมของกรมธรรม์อยู่แล้ว”นายอรัญกล่าว