ดาวโจนส์ปิดลบ 66 จุด นักลงทุนขายหุ้นวัฏจักรวิตกโควิดสายพันธุ์เดลตาระบาด

19 ส.ค. 2564 | 23:47 น.

ดาวโจนส์ปิดลบเมื่อคืนนี้ (19 ส.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,894.12 จุด ลดลง 66.57 จุด นักลงทุนเทขายหุ้นวัฏจักร (Cyclical Stocks) ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (19 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นวัฏจักร (Cyclical Stocks) ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq และ S&P500 ปิดในแดนบวก โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,894.12 จุด ลดลง 66.57 จุด หรือ -0.19% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,405.80 จุด เพิ่มขึ้น 5.53 จุด หรือ +0.13% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,541.79 จุด เพิ่มขึ้น 15.87 จุด หรือ +0.11%

ดัชนีดาวโจนส์ได้รับแรงกดดันจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ภายในปีนี้ รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา โดยล่าสุดโกลด์แมน แซคส์ได้ปรับลดคาดการณ์ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐในไตรมาส 3 เหลือเพียง 5.5% จากเดิม 9% เนื่องจากการระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดลตาได้ส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายผู้บริโภคและภาคการผลิตของสหรัฐ

นักลงทุนเทขายหุ้นวัฏจักรซึ่งเป็นหุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยหุ้นดังกล่าวรวมถึงหุ้นกลุ่มธนาคาร และกลุ่มอุตสาหกรรม 

หุ้นกลุ่มสายการบินและกลุ่มธุรกิจเรือสำราญร่วงลง ท่ามกลางความกังวลที่ว่าการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดลตาอาจทำให้การเปิดเศรษฐกิจเป็นไปอย่างล่าช้า 

หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากราคาน้ำมัน WTI ดิ่งลงติดต่อกัน 6 วันทำการ 

อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq และ S&P500 ปิดตลาดในแดนบวก โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี 

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงสู่ระดับ 348,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว โดยเป็นการปรับตัวลงเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน และเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 17 เดือน นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐเมื่อเดือนมี.ค.2563 จากระดับ 377,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้

ด้านธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟีย เปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจในภูมิภาคมิด-แอตแลนติกร่วงลงสู่ระดับ 19.4 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2563 จากระดับ 21.9 ในเดือนก.ค. โดยดัชนีภาวะธุรกิจปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 โดยได้รับผลกระทบจากภาวะตึงตัวของอุปทาน

นักลงทุนจับตาการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 26-28 ส.ค.นี้ โดยคาดว่าเฟดจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งแนวโน้มการปรับลดวงเงิน QE ในการประชุมดังกล่าว