เปิดพิกัด Walking Bangkok เที่ยวเสาชิงช้า ตามรอยพราหมณ์ขอพรสายมูเทพฮินดู

02 พ.ย. 2568 | 03:16 น.
อัปเดตล่าสุด :02 พ.ย. 2568 | 03:16 น.

แม้จะพ้นกลิ่นอาย เทศกาล “ดีวาลี” (Diwali) หรือ “เทศกาลแห่งแสงสว่าง”ไปแล้ว แต่การได้ตามรอยพราหมณ์ขอพรสายมูเทพฮินดู ระหว่างเดินเที่ยวเสาชิงช้า มีจุดไหว้เทพฮินดู ที่ไม่ควรพลาด เราจะพาไปปักหมุด 3 จุดหมายสำคัญ

เทศกาลดีวาลี (Diwali) หรือ “เทศกาลแห่งแสงสว่าง” ถือเป็นหนึ่งในเทศกาลที่ยิ่งใหญ่และมีความสำคัญที่สุดของศาสนาฮินดู เปรียบเสมือนวันขึ้นปีใหม่ของชาวอินเดีย เต็มไปด้วยแสงไฟ ความสุข และการเฉลิมฉลองแห่งความหวัง เชื่อกันว่าช่วงเวลานี้เป็นฤกษ์งามยามดีในการเริ่มต้นสิ่งใหม่ พร้อมรับพลังแห่งความเจริญรุ่งเรืองจากองค์เทพ

เปิดพิกัด Walking Bangkok เที่ยวเสาชิงช้า ตามรอยพราหมณ์ขอพรสายมูเทพฮินดู

ดีวาลียังมีความเชื่อเชื่อมโยงกับ “พระแม่ลักษมี” เทพีแห่งความมั่งคั่ง และ “พระพิฆเนศ” เทพแห่งปัญญาและการเริ่มต้น ผู้คนจึงนิยมประกอบพิธีบูชาทั้งสองพระองค์ร่วมกันในพิธีที่เรียกว่า “ลักษมี–คเณศ ปูชา (Lakshmi–Ganesha Puja)” เพื่อขอพรให้ชีวิตเปี่ยมด้วยความสำเร็จ ความสมหวัง และความราบรื่นในทุกด้าน ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของเทศกาลดีวาลี

นอกจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จะจัดเทศกาลดีวาลี 2025 หรือ Amazing Thailand Grand Diwali Festival 2025” ที่เพิ่งผ่านพ้นไป ททท.ยังชวนสายมู ไปปักหมุด “จุดไหว้เทพฮินดู” บริเวณใกล้เคียงกับการจัดงาน Amazing Thailand Grand Diwali Festival 2025 ที่ไม่ควรพลาดใน 3 จุดหมายสำคัญ ในย่าน “เสาชิงช้า

เสาชิงช้า

วัดเทพมณเฑียร สมาคมฮินดูสมาช

ปักหมุดกันบริเวณชั้น 3 ของ “อาคารเทพมณเฑียร” วัดเทพมณเฑียร สมาคมฮินดูสมาช ศูนย์รวมแห่งศรัทธาที่ประดิษฐานมหาเทพหลากองค์ตามความเชื่อของศาสนาพราหมณ์–ฮินดู กว่า 100 ปี เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ถือเป็นสถานที่เปี่ยมพลังศักดิ์สิทธิ์ ปฏิมากรรมหินอ่อนองค์เทพทั้งหมดอัญเชิญมาจากประเทศอินเดีย 

เปิดพิกัด Walking Bangkok เที่ยวเสาชิงช้า ตามรอยพราหมณ์ขอพรสายมูเทพฮินดู

องค์ประธานของวัดคือ “พระนารายณ์” และ “พระแม่ลักษมี” ประดิษฐานเคียงคู่กันบริเวณกึ่งกลาง เปรียบเสมือนพลังแห่งความสำเร็จและความอุดมสมบูรณ์ และพระแม่อุมาเทวี โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบทมิฬและพิธีบูชาในแบบอินเดียใต้ ช่วงเทศกาล นวราตรี และ ดีปาวลี จะมีงานเฉลิมฉลองใหญ่สวยงามและคึกคักเป็นพิเศษ

ตามความเชื่อของชาวฮินดู พระนารายณ์ทรงเป็นผู้ปกปักษ์รักษาและประทานพรให้ประสบความสำเร็จ ส่วนพระแม่ลักษมีคือเทพีแห่งความมั่งคั่ง โชคลาภ และความเจริญรุ่งเรือง การประดิษฐานทั้งสององค์คู่กันนั้น เชื่อว่าจะช่วยเสริมพลังบารมีและความเป็นสิริมงคลแก่ผู้มากราบสักการะ

เปิดพิกัด Walking Bangkok เที่ยวเสาชิงช้า ตามรอยพราหมณ์ขอพรสายมูเทพฮินดู

เทคนิคการขอพรองค์เทพ ต้องเริ่มต้นด้วยการสักการะ “พระพิฆเนศ” เป็นลำดับแรก เป็นองค์ปฐมเทพผู้เปิดทางแห่งความสำเร็จ พระองค์ทรงเป็นบุตรแห่งพระศิวะมหาเทพสูงสุด มีลักษณะเศียรช้าง อันเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ สติปัญญา และพลังในการขจัดอุปสรรค อีกทั้งยังทรงเป็นเทพแห่งศิลปะและความคิดสร้างสรรค์ ผู้คนจึงนิยมขอพรด้านการงาน การเรียน และการเริ่มต้นสิ่งใหม่

เปิดพิกัด Walking Bangkok เที่ยวเสาชิงช้า ตามรอยพราหมณ์ขอพรสายมูเทพฮินดู

นอกจากองค์เทพประธานแล้ว ภายในวัดยังประดิษฐานเทพสำคัญอีกหลายองค์ให้ประชาชนได้สักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล ได้แก่

  • พระศิวะ มหาเทพผู้ทำลายสิ่งชั่วร้าย เป็นหนึ่งในตรีมูรติแห่งจักรวาล
  • พระพรหม ผู้สร้างโลกและลิขิตชะตาชีวิต ประทานพรด้านความสมหวังและการเริ่มต้นใหม่
  • พระแม่ทุรคา เทวีแห่งพลังและความกล้าหาญ อวตารของพระแม่อุมาเทวี ชายาของพระศิวะ
  • พระกฤษณะ และ พระแม่ราธาเทวี อวตารของพระวิษณุ ผู้ประทานธรรมะและความรักอันบริสุทธิ์

เปิดพิกัด Walking Bangkok เที่ยวเสาชิงช้า ตามรอยพราหมณ์ขอพรสายมูเทพฮินดู

  • พระราม และ นางสีดา สัญลักษณ์แห่งความจงรักภักดีและคุณธรรม
  • พระหนุมาน อวตารของพระศิวะ ผู้เปี่ยมด้วยพละกำลัง ความซื่อสัตย์ และความกล้าหาญ

เปิดพิกัด Walking Bangkok เที่ยวเสาชิงช้า ตามรอยพราหมณ์ขอพรสายมูเทพฮินดู

  • ศิวลึงค์ สัญลักษณ์แห่งการกำเนิดเกิดใหม่ของสรรพสิ่งในจักรวาล ศิวลึงค์แทนองค์พระศิวะ ส่วนฐานโยนี แทนพระแม่อุมาเทวี เคล็ดลับการมู จุดธูปบูชาพระแม่อุมาเทวี ขอพรเรื่องความรัก ครอบครัว และพลังปกป้องคุ้มครอง

เปิดพิกัด Walking Bangkok เที่ยวเสาชิงช้า ตามรอยพราหมณ์ขอพรสายมูเทพฮินดู

ที่นี่เปิดทุกวันจันทร์–ศุกร์ เวลา 06.00–20.00 น.วันเสาร์–อาทิตย์ เวลา 08.30–20.30 น.

เทวลัยพระวิษณุ

ตั้งอยู่บริเวณเกาะกลางถนนระหว่างวัดสุทัศน์เทพวราราม และโรงเรียนเบญจมราชาลัยฯ สร้างขึ้นสมัยสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ครบ 200 ปี เป็นสถานที่ที่มีพระรูปปฏิมากรรมพระวิษณุซึ่งอัญเชิญมาจากอินเดีย เชื่อว่าเป็นเทพผู้ดูแลรักษาทุกสรรพสิ่ง ผู้คนจึงมักมาสักการะ กราบไหว้ขอพร ทั้งชาวไทยและชาวอินเดีย

เปิดพิกัด Walking Bangkok เที่ยวเสาชิงช้า ตามรอยพราหมณ์ขอพรสายมูเทพฮินดู

ทั้งนี้เนื่องจาก วัดเทพมณเฑียร ในช่วงแรกยังไม่เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้ามาสักการะองค์เทพ เทวาลัยแห่งนี้จึงถูกสร้างขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้คนได้มาสักการะ พระนารายณ์ (วิษณุ) ขอพร และเสริมสิริมงคลแก่ชีวิต

ภายในปรากฏองค์พระนารายณ์ประทับบน อนันตนาคราช แกะสลักจากหินอ่อน ลงสีและประดับเครื่องแต่งกายแบบอินเดียเหนือ

โดยองค์พระหันไปทางทิศตะวันตก เพื่อให้ความคุ้มครองความเป็นสุขร่วมกับวัดสุทัศน์ฯ และโบสถ์พราหมณ์ สะท้อนถึงรากวัฒนธรรม ความผูกพันของผู้คนกับเมือง และบทบาทของศาสนาในการดำรงอยู่ร่วมกับวิถีชีวิตของสังคมไทยมาตั้งแต่สมัยโบราณ

เทวสถาน โบสถ์พราหมณ์

รากเหง้าของการประกอบพระราชพิธีต่างๆ ของกรุงรัตนโกสินทร์ ศูนย์กลางของสรรพวิทยาการในทางพราหมณ์ฮินดูของราชสำนักไทย สร้างขึ้นใน ปี 2327 โดยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 ซึ่งกรมศิลปากร ได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานสําคัญของชาติ เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2492

เปิดพิกัด Walking Bangkok เที่ยวเสาชิงช้า ตามรอยพราหมณ์ขอพรสายมูเทพฮินดู

สถาปัตยกรรมเป็นแบบก่ออิฐถือปูนที่ประกอบไปด้วยโบสถ์ 3 หลัง ประดิษฐานเทวรูปพระอิศวรประทับยืนและประทับนั่ง พระอุมาเทวี พระพรหม พระมหาวิฆเณศวร (พระคเณศ) พระนารายณ์ รวมไปถึงรูปปั้นโคนนทิ

  • สถานพระอิศวร (อยู่ด้านหลังพระพรหม)

เทวสถานสำคัญของพระศิวะหรือพระอิศวรประดิษฐาน พระศิวะ ปางประทานพร ทรงยืนตรง มีสายประคำ พระเนตรที่ 3 และทรงมงกุฎ พระพักตร์รูปไข่แบบสุโขทัย แฃะยังมี ศิวะนาฎราชย์ หรือปางร่ายรำของพระศิวะที่แสดงถึงการหมุนเวียนของจักรวาล

เปิดพิกัด Walking Bangkok เที่ยวเสาชิงช้า ตามรอยพราหมณ์ขอพรสายมูเทพฮินดู

  • สถานพระพิฆเนศ (โบสถ์กลาง)

สร้างตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 ปัจจุบันมี 3 องค์เป็นโลหะจากสมัยสุโขทัย ประดับสร้อยสังวาลย์ งู มงกุฎ งาหักข้างขวา แต่ยังคงความงดงามและศักดิ์สิทธิ์ตามแบบดั้งเดิม เหมาะแก่การสักการะเพื่อขอพรด้านปัญญา ความสำเร็จ และการเริ่มต้นสิ่งใหม่

  • สถานพระนารายณ์ (โบสถ์ริมขวาสุด)

เทวสถานสำคัญสำหรับการสักการะ พระนารายณ์ หรือพระวิษณุ ผู้ปกปักษ์รักษาความสงบและความสมดุลของสรรพสิ่ง และภายในโบสถ์พราหมณ์ยังมีสัญลักษณ์สำคัญอีกประการคือ ศิวลึงค์ แทนการกำเนิดชีวิต ส่วนฐานโยนีแทนพลังสตรี ส่วนใหญ่ทำจากหินชนวน สะท้อนพลังการสร้างจักรวาล เปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันจันทร์–อาทิตย์ เวลา 09.00-16.30 น.

เปิดพิกัด Walking Bangkok เที่ยวเสาชิงช้า ตามรอยพราหมณ์ขอพรสายมูเทพฮินดู

เดินมูกันเหนื่อยในย่านนี้ก็มีอาหารอินเดียให้ลิ้มลอง ไม่ว่าจะเป็น “ร้าน Royal India” ภัตตาคารสไตล์อินเดียแห่งแรกในไทย มีตำนานมากว่า 64 ปี ชิมเมนูอร่อยตามแบบต้นตำรับ อาทิ ซาโมซา ไก่ย่างทันดูรี แกงแพะ มาซาล่า  ข้าวหมกแบบอินเดีย นานอบกระเทียม และอาหารหวาน ราสมาลัย พร้อมชาอินเดีย “ร้าน Basmati International” (บัสมาติ อินเตอร์เนชั่นแนล) ร้านอาหารมังสวิรัติสไตล์เซาท์อินเดียและร้านขนมและเครื่องดื่มอินเดียดั้งเดิม

ปิดท้ายกันที่ “Punjab Sweets” ร้านขนมอินเดียชื่อดังแห่งพาหุรัด มีทั้งลาดดู บูร์ฟี และมิลก์เพดา หอมหวานตามสูตรปัญจาบแท้ๆ ทั้งมูทั้งดื่มดำวัฒนธรรมการกินในแบบอินเดียอิ่มอกอิ่มใจกันไปเลย