ทิวทัศน์ภูเขาหินปูนกลางทะเล อายุหลายร้อยล้านปี ซึ่งเกิดจากการเคลื่อนตัวของเปลือกโลก ผ่านกาลเวลา หลากหลายเกาะไล่เลียงกัน จนก่อให้เกิดรูปร่างแปลกตา รายล้อมด้วยป่าโกงกาง อีกทั้งยังมีเกาะถ้ำต่างๆรอบอ่าวพังงา อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา
เราสามารถพายเรือแคนูลอดผ่านได้ ชมหินงอกหินย้อย และทิวทัศน์อันภายในถ้ำทะเล สร้างความรู้สึกแปลกตาและลึกลับ ความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติอันงาม ได้ฟีลค้นพบโลกลี้ลับของอ่าวพังงา ความสวยงามที่ซุกซ่อนอยู่ในถ้ำน้อยใหญ่ กลางอันดามัน
ทริปนี้เรามาเที่ยว ‘ภูเก็ต’ เลยพ่วงไปสัมผัสธรรมชาติอ่าวพังงา กับ “จอห์น เกรย์ ซี แคนู”(John Gray's Sea Canoe) ผู้สร้างตำนานการท่องโลกสำรวจถ้ำ ด้วยเรือแคนูให้กับ “อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา”
เปิดประสบการณ์ท่องทะเลในรูปแบบใหม่ กับ แพ็กเกจ “ห้อง บายสตาร์ไลท์” (Hong by Starlight) เปิดประสบการณ์ใหม่กับการล่องอ่าวพังงาตั้งแต่กลางวันยันค่ำ (11.30-21.30 น.) ซึ่งช่วงนี้เขามีโปรโมชั่นอยู่ที่ 3,490 บาทถ้วน สำหรับผู้ใหญ่ และเด็กอายุ 6-12 ปี อยู่ที่ 1,975 บาท ส่วนเด็กที่อายุน้อยกว่า 6 ปีเที่ยวฟรี ถึงวันที่ 31 ตุลาคมนี้ เราเลยจัดไป
การผจญภัยเล็กๆ ได้เริ่มต้นขึ้นท่ามกลางทะเลสีครามของอ่าวพังงา หลังเรือโดยสารลำใหญ่ขนาด 2 ชั้นนำเราเดินทางจากท่าเรืออ่าวปอ
มุ่งหน้าสู่เกาะแก่งต่างๆรอบอ่าวพังงา ระหว่างทางจะมีบริการอาหารไทยมื้อกลางวัน บอกเลยว่าอิ่มอร่อยถูกใจทุกเมนู โดยปรุงสดใหม่บนเรือ และเลือกใช้วัตถุดิบที่ปราศจากสารเคมี หลีกเลี่ยงการใช้ภาชนะใช้แล้วทิ้งที่ทำจากพลาสติกอีกด้วย
จากนั้นเรือจะนำเราแวะเที่ยวชมจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจ รวมถึง ‘เขาตะปู’ ซึ่งเป็นไฮไลท์จากภาพยนตร์ชื่อดังระดับโลก ‘จูราสสิคเวิลด์’ และ ‘เจมส์บอนด์ พยัคฆ์ร้าย 007’
แล้วก็ถึงเวลามุ่งหน้าสู่เกาะแก่งต่างๆรอบอ่าวพังงา ไกด์ท้องถิ่นที่มีความชำนาญเส้นทาง จะนำเรานั่งแคนู พายลัดเลาะไปตามเกาะแก่งหินผา เสาะแสวงจนเจอถ้ำน้อยใหญ่ที่แฝงตัวอยู่หลังชะง่อนหิน และเมื่อเรือแคนนูล่องผ่านถ้ำ และความมืดมิด ลากูนสีเขียวมรกตโอบล้อมไว้ สวรรค์บนดินงดงามจนมิอาจละสายตาได้ปรากฏขึ้นอยู่เบื้องหน้า
ชอบมากกับ “เกาะพนัก”ซึ่งเป็นเกาะใหญ่ที่มีถ้ำทะเลและหินงอกหินย้อยสวยงาม ในหลาย ๆ จุดสามารถเข้าชมได้ด้วยเรือแคนูเท่านั้น ช่วงที่เราไปถึงเจอครอบครัวลิง ที่เตรียมรอเวลาจะลงมาหากุ้งหอยปูปลา กินตอนช่วงน้ำลด
ส่วน “เกาะค้างคาว” ล่องแคนูเข้าไปจะมี 2 ลากูนอยู่ข้างใน และมีต้นโกงกางธรรมชาติยืนต้นตระหง่าน เป็นมุมถ่ายรูปเก๋ๆ ทั้งด้วยบรรยากาศเงียบสงบเรายังสัมผัสได้ถึงเสียงธรรมชาติฮีลใจไปเต็มๆ
ขณะที่ “เกาะห้อง” โดดเด่นด้วยลากูน หรือทะเลใน ในช่วงน้ำขึ้นสูง น้ำทะเลจะเป็นสีเขียวมรกตล้อมรอบด้วยเขาหินปูนสูงชัน มองใต้ทะเลบางจุดจะเห็นประการังสมอง ประการังอ่อนด้วย
เรือแคนูของที่นี่ไม่เหมือนใคร เพราะถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ โดย จอห์น เกรย์ และสั่งผลิตจากประเทศสหรัฐอเมริกา เรือยาวและกว้างกว่าเรือทั่วไป ทำให้นั่งสบาย ขยับตัวได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเวลาที่เราต้องนอนราบเพื่อลอดใต้ถ้ำหรือโขดหิน สามารถเหยียดขาได้อย่างเต็มที่ ทรงเรือเพรียวลม ทำให้ลัดเลาะซอกมุมต่างๆ ได้ดี บังคับง่ายกว่าแคนูทั่วไป
ทั้งเรือยังใช้วัสดุชั้นดีเหนียว คงทน ไม่แตกหรือฉีกขาดง่าย เมื่อกระทบของแข็งหรือเหลี่ยมคม ส่วนท้องเรือสามารถล้อไปตามคลื่นทะเล ช่วยสร้างสมดุล ทำให้เรือไม่พลิกคว่ำเมื่อต้องกระทบคลื่นทะเล รวมทั้งไกด์ท้องถิ่นก็มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 20 ปี และเชี่ยวชาญการนำล่องเรือเป็นอย่างดี เราไปนั่งมาแล้วปลอดภัยแน่นอน
ถ้าโชคดีระหว่างทางเราอาจโชคดีได้เจอสัตว์ป่า และสัตว์ทะเลหายาก เช่น ฉลามวาฬ, ปลากระเบน, ปลาตีน, ปลาดาว, ปลิงทะเล, นกเงือก, เหยี่ยวแดง, นกนางแอ่น และลิงแสม ฯลฯ ที่ไม่ค่อยปรากฏตัวให้เห็น ทั้งยังได้เรียนรู้เรื่องราว และเกร็ดความรู้ต่างๆของระบบนิเวศ และการอนุรักษ์ธรรมชาติของที่นี่อีกด้วย
หลังพายแคนูล่องเกาะแก่งอย่างเพลิดเพลิน เผลอแป็ปเดียวใกล้แดดร่มลมตก ถึงเวลาสนุกสนานกับการ “ทำกระทง” D.I.Y. ซึ่งเราคลีเอดกระทงของตัวเองออกมาได้ตามความชอบ เพื่อเตรียมลอยกระทง สืบสานประเพณีไทย หรือ ใครจะว่ายน้ำ หรือเล่นแพดเดิ้ลบอร์ด ก็ได้ตามสะดวก
แล้วก็ถึงช่วงดินเนอร์ เราทานอาหารไทยสไตล์บุฟเฟ่ต์บนเรือ พร้อมชมวิวพระอาทิตย์ตกที่อ่าวพังงา
ทานอิ่มก็มืดพอดี ถึงเวลาลงเรือแคนู ไปยังหน้าถ้ำ เพื่อนำกระทงไปลอยในทะเล (ลอยแค่เป็นพิธีเท่านั้น ลอยเสร็จก็นำกระทงกลับขึ้นเรือ)
พร้อมกันนี้เราจะยังได้เห็นความมหัศจรรย์ของ “แพลงก์ตอน” ยามที่เราใช้มือกวักน้ำทะเลในค่ำคืนอันมืดมิด จะมองเห็นแสงสีฟ้าเรืองแสงระยิบระยับ เป็นไฮไลท์ในยามค่ำคืนที่แสนงดงามและหาดูได้ยาก เป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ไม่ควรพลาด
ขากลับเรานั่งเรือใหญ่มองแสงจันทร์ประชันแสงดาว ท่ามกลางลมเย็นๆ บนดาดฟ้าเรือ ระหว่างส่งเรากลับขึ้นฝั่ง ท่าเรืออ่าวปอ ฟินมาก ชักเริ่มรู้สึกว่าการล่องทะลตอนกลางคืนมีเสน่ห์น่าหลงใหลไปอีกแบบ ดูรายละเอียด คลิ๊ก