กรุงเทพมหานคร เตรียมจัดกิจกรรม Kick Off โครงการ "กทม. กระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างอาชีพ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ให้กับประชาชน” ในวันที่ 20 – 22 ส.ค. 67 ณ บริเวณโดยรอบไปรสนียาคาร ย่านปากคลองตลาด ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และ บริเวณวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เชื่อมไปย่านกุฎีจีน
อนึ่งโครงการ"กระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างอาชีพ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ให้กับประชาชน”เกิดขึ้นจากรัฐบาลมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วง Low Season ที่จะช่วยให้ผู้ค้าและประชาชนมีรายจ่ายที่น้อยลงและรายได้ที่มากขึ้น ดังนั้นกทม.จึงตอบสนองนโยบายของรัฐบาลพร้อมดำเนินการทันที
สำหรับกรุงเทพมหานครมี 4 หน่วยงานสำคัญที่เกี่ยวข้องกับมิติทางเศรษฐกิจ คือ สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต สำนักงานตลาด สำนักงานสถานธนานุบาล และสำนักพัฒนาสังคม ที่จะร่วมกันขับเคลื่อนโครงการตามนโยบายฯ
นายแสนยากร อุ่นมีศรี ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาสังคม กล่าวว่า กรุงเทพมหานคร โดยสำนักพัฒนาสังคมร่วมกับสำนักงานเขต 50 เขต จัดงานกระตุ้นเศรษฐกิจ จำหน่ายสินค้า ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ให้กับประชาชน ตั้งแต่วันที่ 20 ส.ค. 67 – 31 ต.ค. 67 พร้อมเชื่อมย่านสร้างสรรค์เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติกระตุ้นเศรษฐกิจทั่วกรุงเทพมหานคร โดยการจัดงานแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ
1. สำนักงานเขตทุกเขตเปิดพื้นที่ให้กับผู้ผลิต ผู้ประกอบการรายเล็ก และผู้ประกอบการชุมชน จำหน่ายสินค้าภายในสำนักงานเขต เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้กับผู้ประกอบการเกิดรายได้ และประชาชนได้ลดรายจ่ายในการซื้อสินค้าราคาถูก
2. สำนักพัฒนาสังคมร่วมกับ 6 กลุ่มเขต กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ผู้ประกอบการภาคีเครือข่าย จัดงานจำหน่ายสินค้า ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ กลุ่มเขตละ 2 ครั้งต่อเดือน จำนวน 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 20 ส.ค. 67 – 31 ต.ค. 67
นายศรชัย โตวานิชกุล รองผู้อำนวยการสำนักงานตลาดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า สำนักงานตลาดกรุงเทพมหานคร จัดกิจกรรมกระตุ้นเศรษฐกิจ BMA Market Grand Sale พร้อมแคมเปญ “ลด แลก แจก แถม” คือ
พร้อมกับจัดกิจกรรมอีกมากมาย ณ 8 ตลาดของกรุงเทพมหานคร คือ ตลาดนัดจตุจักร ตลาดนัดมีนบุรี ตลาดธนบุรี ตลาดประชานิเวศน์1 ตลาดเทวราช ตลาดหนองจอก ตลาดบางกะปิ ตลาดพระเครื่องวงเวียนเล็ก
นายชนาธิป ล.วีระพรรค ผู้อำนวยการสำนักงานสถานธนานุบาลกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า สำนักงานสถานธนานุบาลกรุงเทพมหานคร จัด “โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ลดดอกเบี้ย เพื่อช่วยเหลือประชาชน” โดยกำหนดอัตราดอกเบี้ยรับจำนำ เหลือเพียงร้อยละ 0.05 บาทต่อเดือน เงินต้นไม่เกิน 5,000 บาท โดยจำกัดวงเงินรับจำนำไม่เกิน 100,000 บาท ต่อ 1 ราย บุคคลและต่อสถานธนานุบาล 1 แห่ง ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 67 – 31 ต.ค. 67