เริ่มแล้ว "ตรวจเช็คสภาพรถฟรี" ก่อนเที่ยวสงกรานต์ 2567 ถึง 15 เม.ย.นี้

28 มี.ค. 2567 | 09:14 น.

รัฐบาลเชิญชวนประชาชน "ตรวจเช็คสภาพรถฟรี" ก่อนเที่ยวสงกรานต์ จากวันที่ 28 มีนาคม ถึงวันที่ 15 เมษายน 2567 เพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนาหรือท่องเที่ยวอย่างปลอดภัย

รัฐบาลเชิญชวนเจ้าของรถ "ตรวจเช็คสภาพรถฟรี" ก่อนเที่ยว-ก่อนการเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จากวันที่ 28 มีนาคม 2567 ถึงวันที่ 15 เมษายน 2567 นี้ 

การเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์เป็นเวลาที่คนไทยมักจะขับรถเพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนาหรือท่องเที่ยว ซึ่งเป็นเหตุผลที่มีการใช้รถและถนนอย่างหนัก การเตรียมความพร้อมของรถก่อนการเดินทางจึงมีความสำคัญในการรักษาความปลอดภัยสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร

นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกิจกรรม "ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย" ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือระหว่างรัฐบาลและภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน ซึ่งจัดขึ้นเพื่อให้บริการตรวจสอบสภาพความพร้อมของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ก่อนการเดินทาง โดยมีรายการตรวจเช็คมากกว่า 20 รายการ เช่น ระบบเบรก ยาง และเครื่องยนต์ เป็นต้น โดยไม่เสียค่าบริการใด ๆ

"การตรวจเช็คสภาพรถก่อนการเดินทางมีความสำคัญอย่างมากในการป้องกันอุบัติเหตุ และมีประสิทธิภาพในการลดอุบัติเหตุที่เกิดจากปัญหาของรถ" นายคารม เพิ่มเติม

เจ้าของรถสามารถนำรถของตนมาใช้บริการตรวจสอบได้ที่ศูนย์บริการของภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศ ซึ่งสามารถรับบริการตรวจสอบสภาพรถฟรีภายในช่วงเวลาที่กำหนด

การเช็คสภาพรถก่อนการเดินทางจะเป็นการเตรียมความพร้อมที่สำคัญเพื่อให้การเดินทางของท่านเป็นไปอย่างปลอดภัยและสะดวกสบาย

 

"ดังนั้น ไม่ควรพลาดที่จะเข้ารับบริการตรวจเช็ครถฟรีก่อนการเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ครั้งนี้ อย่างคาดหวังว่า การเช็คสภาพรถนี้จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับทุกคนที่เดินทางไปในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้" นายคารม กล่าว

 

“ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย”

ก่อนหน้านี้กระทรวงคมนาคม กรมการขนส่งทางบก ร่วมกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน จัดกิจกรรม “ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย” เพื่อให้บริการตรวจสภาพความพร้อมของรถยนต์และรถจักรยานยนต์เบื้องต้นก่อนเดินทางช่วงสงกรานต์ กว่า 20 รายการ โดยไม่คิดค่าบริการ เช่น การตรวจระบบเบรก สภาพยาง การทำงานของเครื่องยนต์ ระดับน้ำมันเครื่องและความสกปรกของน้ำมันเครื่อง หม้อน้ำและรอยรั่ว ไส้กรองอากาศ การทำงานของไฟส่องสว่างและไฟสัญญาณต่างๆ เป็นต้น

ซึ่งเจ้าของรถยนต์และรถจักรยานยนต์สามารถนำรถเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการของภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศที่มีป้ายประชาสัมพันธ์ว่า “ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย” ได้ตั้งแต่วันนี้ - 15 เม.ย.67

โดยกิจกรรมนี้ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่มีความห่วงใยและต้องการส่งมอบความปลอดภัยให้แก่ประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง ได้แก่

  • สมาคมผู้ประกอบการรถจักรยานยนต์ไทย
  • สมาคมการค้าไทย - ยุโรป (TEBA)
  • สมาคมตรวจสภาพรถเอกชนไทย
  • สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย
  • สถาบันยานยนต์
  • บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด
  • บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด
  • บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
  • บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด
  • บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด
  • บริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด
  • บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด
  • บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด
  • บริษัท คาวาซากิ มอเตอร์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัด
  • บริษัท ซูซูกิโมโตเซลส์คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด
  • บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด
  • บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน)
  • บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
  • บริษัท บี - ควิก จำกัด
  • บริษัท ฟอร์ซเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด (ศูนย์บริการ AUTO QUIKS)
  • บริษัท ทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัด
  • บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด
  • บริษัท คาร์เวิลด์ คลับ จำกัด
  • บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด
  • บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย)
  • บริษัท สยามมิชลิน จำกัด โดยศูนย์บริการรถยนต์ไทร์พลัส (TYREPLUS)
  • บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน)
  • บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด (ให้บริการในวันที่ 1 – 10 เม.ย.67)

โดยสามารถสอบถามรายละเอียดและสาขาให้บริการกับหน่วยงานได้โดยตรง

ทั้งนี้ควรหมั่นตรวจเช็กสภาพความพร้อมของรถ เครื่องยนต์และอุปกรณ์ส่วนควบของรถก่อนการเดินทางทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางระยะใกล้หรือไกล เนื่องจากการใช้งานรถที่มีสภาพไม่พร้อมหรือเครื่องยนต์ของรถทำงานผิดปกติ อาจเป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้

 

การเตรียมความพร้อมของผู้ขับขี่ก่อนการเดินทางไกล

  • ควรพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงก่อนเดินทางไกล
  • หากมีอาการเหนื่อยล้าระหว่างขับขี่ควรจอดรถหยุดในพักจุดปลอดภัย เช่น ตามปั๊มน้ำมันต่าง ๆ เป็นต้น
  • ปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด
  • เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นเมื่อต้องขับขี่ในเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย