กลับมาอีกครั้งสำหรับ “เทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ 2568” หรือ Bangkok Design Week 2025 งานนี้เราจะสัมผัสได้ถึงทุกความครีเอทีฟ หลากหลายรูปแบบทั้ง การจัดแสดงและนิทรรศการ, เสวนา, เวิร์กช็อป, อีเวนต์ ,ดนตรีและการแสดง ,ทัวร์ , ตลาดสร้างสรรค์ และโปรโมชัน สะท้อนพลังของการออกแบบ ซึ่งสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลง ทั้งด้านวิถีชีวิตของผู้คน และเมืองของเรา
แพลนเที่ยวยาวได้ถึง 16 วัน ตั้งแต่วันที่ 8 - 23 กุมภาพันธ์ 2568 ในพื้นที่การจัดงานครอบคลุม 7 ย่านสร้างสรรค์ และพื้นที่อื่น ๆ ทั่วกรุงเทพ มากกว่า 180 สถานที่จัดงาน เริ่มจาก Bangkok Design Week Phase 1 ได้แก่ เจริญกรุง - ตลาดน้อย, เยาวราช - ทรงวาด, ปากคลองตลาด และพื้นที่อื่น จัดแสดงเฉพาะในวันที่ 8 - 16 ก.พ.นี้เท่านั้น และย่านหัวลำโพงและบางโพ ที่มีเฉพาะวันเสาร์และอาทิตย์ ถึงวันที่ 23 ก.พ.นี้
ก่อนจะไปต่อกับ Bangkok Design Week Phase 2 ได้แก่ ย่านพระนคร, บางลำพู - ข้าวสาร และพื้นที่อื่น ๆ ซึ่งจะรับช่วงต่อในวันที่ 15 - 23 กุมภาพันธ์ 2568
ไฮไลท์ย่านนี้ เริ่มจาก “ TCDC กรุงเทพฯ” พบกับ “สินค้าเนเบอร์มาร์ท” คัดสรรสินค้าสร้างสรรค์ชั้นดี สินค้าดีไซน์คิดใหม่ทำใหม่ มากกว่า 50 ร้าน จาก 20 ย่าน ทั้งย่านเยาวราช ตลาดน้อย ทรงวาด ปากคลองตลาด วงเวียนใหญ่ คลองสาน บางโพ ฯลฯ
ปักหมุดกันที่ “คูลคลองมาร์เก็ต” เติมเต็มกิจกรรมใหม่ ๆ ให้กับพื้นที่สาธารณะบริเวณริมคลองผดุงกรุงเกษม มีเฉพาะวันเสาร์และวันอาทิตย์
เจ๋งมากกับ We! Revitalise Underused Space ที่ได้นำความเชี่ยวชาญด้านการวางผังเมืองและการออกแบบ เน้นการใช้ทรัพยากรน้ำอย่างมีประสิทธิภาพของชาวเนเธอร์แลนด์มาประยุกต์ใช้ เน้นการเปลี่ยนพื้นที่รกร้าง บริเวณพื้นที่ “ใต้ทางด่วนถนนสุรวงศ์” ให้กลายเป็นสวนสาธารณะมีชีวิต
ใครชอบนิทรรศการเก๋ๆ ไปพร้อมบวกได้เลย กับ “WONDER OF FABRIC” นิทรรศการที่รวบรวมผลงานเชิงทดลองและแนวคิดใหม่ ณ “อาคารเวิลด์ แทรเวล เซอร์วิส (ปันยารชุน)” กับการค้นหาความเป็นไปได้ใหม่ ๆ และวิธีการใช้งานกับ ‘ผ้า’ ที่แตกต่าง ผ่านการนำเสนอจากนักออกแบบ สถาปนิก และแบรนด์สินค้า รวม 8 โปรเจ็กต์
พลาดไม่ได้กับ “STITCH Rhythm of the Threads By Sirivannavari Atelier & Academy” ณ “บ้านเลขที่ 1” ซอยเจริญกรุง 30 จัดแสดงเรื่องราวของประณีตศิลป์แห่งงานปักผ้าจาก Sirivannavari Atelier & Academy ที่ผสมผสานงานเทคนิคฝรั่งเศสและจินตนาการแบบไทยเข้าด้วยกันอย่างประณีตงดงามและมีเอกลักษณ์
โดยบอกเล่าผ่านชุด 13 ชุด, 1 ฉลองพระองค์ และ 4 ช่างฝีมือ รวมถึงฉลองพระองค์ขององค์ดีไซเนอร์ “สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา” พร้อมมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์ผลงานปักด้วยตัวเอง
พบกับ “สนามประลองวิทยายุทธ” ณ “ลาน Vintage Vespa Thailand” ที่ได้เปลี่ยนพื้นที่ตามซอยแคบหรือศาสนสถาน ให้กลายเป็น “ลานกิจกรรม”แห่งใหม่ของย่านนี้ ทั้งการออกกำลังกาย พบปะสังสรรค์ พูดคุย กระชับความสัมพันธ์ในชุมชนให้แน่นแฟ้นขึ้น
สัมผัสกับ “สารพัดสำเพ็ง” บริเวณ “อาคาร ลุก โฮสเทล” บอกเล่าเสน่ห์ของสินค้าในสำเพ็ง และกลิ่นอายของความเป็นงานคราฟต์
โดยนำเสนอผ่านธีมร้านอาหารที่ใช้สายพานและร้านกาชาปอง เป็นอีกหนึ่งรูปแบบไอเดียการขายแก่ผู้ประกอบการในย่านสำเพ็ง รับมือกับความเปลี่ยนแปลงจากการซื้อขายออนไลน์และการลงทุนของต่างชาติ
ตื่นตาไปความงดงามของดอกไม้ในมุมมองใหม่ อย่างการประดับสะพานให้สดใสด้วยประติมากรรมดอกไม้สีสันสดใสขนาดใหญ่ ที่ทำจากวัสดุรีไซเคิลภายในปากคลอง (Bloom Boom Bridge), การนำเสนอผ่านภาพเงาเชิงสัญลักษณ์บนผนัง เล่าเรื่องราวชีวิตและความทรงจำในปากคลองตลาด ณ “ตลาดยอดพิมาน”
ชวนชมนิทรรศการ “Immersive Flower Experience” ที่จะพาไปรับรู้ประสบการณ์ใหม่ในพื้นที่ปิดร้าง อย่าง “ไปรสนียาคาร” ผ่านรูปแบบ Interactive Projection Mapping เพื่อส่งต่อความรู้สึกด้วยดอกไม้จากใจสู่ผนังคอนกรีต
ทั้งยังมีนิทรรศการดอกไม้จากผู้รักดอกไม้ , เวิร์กช็อปสร้างสรรค์จากดอกไม้ ทั้งเชฟท้องถิ่นจากปากคลองตลาด นำภาพวาดดอกไม้ที่ถูกส่งต่อจากผู้ที่ชื่นชอบดอกไม้และปากคลองตลาด มาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์อาหารกล่องมื้อกลางวันสุดพิเศษ และเปิดบ้านศิลปินสำหรับงานนี้ ณ “เนื้อหอม คาเฟ่”
สัมผัสเรื่องเล่าจากชุมชนหัวลำโพง ที่ครั้งหนึ่งเต็มไปด้วยเสียงรถไฟและการสัญจรของผู้คน จาก “เก้าอี้” ที่รังสรรค์ด้วยเศษวัสดุเหลือใช้ในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นเศษกระดาษปฏิทินจีนน่ำเอี๊ยง ขวดพลาสติก หรือเศษเหล็กจากบ้านเหล็กอิตาลี ซึ่งเก้าอี้เหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงผลงานออกแบบ แต่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของชีวิตผู้คนในย่านนี้ ตั้งแต่เวลา 13.00 -15.00 น. บริเวณ “ตรอกนิลประดับข้างทางด่วน”
อีกหนึ่งนิทรรศการศิลปะจัดวางที่ใช้เทคนิคเขาวงกต จากงาน Planetary Seed เพื่อเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ไทย โดยเฉพาะบทบาทของบริษัทอัศวินภาพยนตร์ในช่วงปี 2500 ผู้ริเริ่มการใช้ฟิล์ม 35 มม. สโคป ในการถ่ายทำและสร้างผลงานที่มีอิทธิพลมากมาย ในวงการภาพยนตร์ เรือนแพ และ เพลงประกอบภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียง
นิทรรศการนี้นำข้อมูล เอกสาร ภาพถ่าย และอุปกรณ์ ที่เกี่ยวกับสำนักงานอัศวินภาพยนตร์ ซึ่งถูกทิ้งร้างมานานกว่า 30 ปี มาเปิดเผยประวัติศาสตร์ที่ไม่เคยเปิดเผยมาก่อน ไปชมกันได้ ที่ “ตึกอัศวิน”ตั้งแต่เวลา 11.00 - 22.00 น.
มุมมองการถ่ายทอดเรื่องราวกระดาษไหว้เจ้าผ่านมุมมองของนักออกแบบ นักสร้างสรรค์ ช่างภาพ จนเกิดเป็นผลงานที่แตกต่างและสร้างมิติที่หลากหลาย เป็นอีกหนึ่งนิทรรศการที่น่าสนใจ ณ ร้านเพลย์สเปซ เปิดให้เข้าชมเฉพาะวันเสาร์และวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 11.00 - 22.00 น.
งานดีไซน์จากนักออกแบบรุ่นใหม่ ต่อยอดให้บางโพ เป็นศูนย์รวมของอุตสาหกรรมไม้ พบกับงานดีไซน์จากฝีมือนักออกแบบรุ่นใหม่ สร้างสรรค์เฟอร์นิเจอร์และสเปซ ให้ดีกว่าเดิม ณ “ Income Creative Corner”
เช่นเดียวกับ โปรเจ็กต์ทำ “ธูป” จากขี้เลื่อยไม้สัก วัสดุเหลือใช้ในย่านบางโพสำหรับสักการะเจ้าแม่ทับทิม นำกลับมาออกแบบและแปรรูปจนเกิดเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่อย่าง“ธูป สัก สิทธิ์” ที่ไม่เหมือนใคร ไปชมกันได้ที่ “BangPho Green Space” เฉพาะวันเสาร์และวันอาทิตย์
พลาดไม่ได้กับงานอนุรักษ์ อัตลักษณ์ “งานช่างทอง” ที่กำลังจะสูญหายไป ถนนสายไม้บางโพจึงร่วมกับวิทยาลัยเพาะช่าง จัดเวิร์กช็อปงานปิดทองคำเปลวบนชิ้นงานไม้กลึง เจดีย์ผอบ หรือพระพุทธรูปไม้แกะสลัก ณ“ณรงค์การช่าง” เฉพาะวันเสาร์และวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00 - 19.00 น.
เรามาเรียนรู้เรื่องราวของ The old town’s favourite หรือ 5 ของโปรดชาวพระนคร ซึ่งจัดแสดงที่ “ถนนมหรรณพ” พบกับพัฒนาการของตัวพิมพ์ไทย ตั้งแต่รากฐานที่ได้รับจากบาทหลวงฝรั่งเศส จนถึงยุคสมัยใหม่ โดยเน้นช่วงเวลาสำคัญ เช่น การเข้ามาของคณะมิชชันนารี การเผยแพร่ตำรา ‘จินดามณี’ และผลกระทบจากเทคโนโลยีตัวพิมพ์แบบ ‘Romain du Roi’ จากฝรั่งเศส จัดแสดง ทีคราฟส์แมนโรสเตอรี่ สาขาโอลด์ทาวน์
ตื่นตากับ ‘Mega Mat’ เสื่อพลาสติกรีไซเคิลผืนยักษ์มาปูไว้เต็ม “ลานคนเมือง” หน้า “ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร” มุมหนึ่งนำเสนอนิทรรศการที่บอกเล่าถึงข้อมูลต่าง ๆ ของเสื่อ ขณะที่เสื่อส่วนที่เหลือขนาด 860 ตารางเมตร นั้นออกแบบให้ทุกคนสามารถแวะเข้ามานั่งพักผ่อน เป็นเสมือนห้องนั่งเล่นของเมือง
โดยรูปทรง ลวดลาย และสีของเสื่อได้รับแรงบันดาลใจจากหลังคาของวัดสุทัศนเทพวราราม สีสันของเสื่อจะไล่ระดับให้เข้าใกล้จุดศูนย์กลางสีเขียว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงเป้าหมายการไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน ทั้งยังมีการนำเสนอเรื่องราวและความเคลื่อนไหวทางความคิดของผู้คนในเมือง ผ่าน Projection Mapping ฉายบนศาลาว่าการกรุงเทพมหานครอีกด้วย
ครั้งแรกของการสร้างสรรค์งานดีไซน์ในย่านนี้ พบกับ ผลงาน 4 หมวด 15 ไอเดีย ที่จุดประกายความสร้างสรรค์ร่วมกับเยาวชน ผ่านงานศิลปะที่กระตุ้นให้ตื่นรู้และสร้างแรงบันดาลใจเพื่อการเปลี่ยนแปลง! ณ “พิพิธบางลำพู”
รวมไปถึงการเนรมิต “ห้างนิวเวิลด์” ให้คุณดื่มด่ำประสบการณ์อาหารบางลำพู ผ่านรสชาติของอาหารทานเล่นตามแบบฉบับของย่านนี้ ท่ามกลางบรรยากาศแสงและศิลปะที่สร้างสรรค์มาเพื่อกระตุ้นประสาทสัมผัสทั้ง 5 พร้อมกับฟังเรื่องราวรากเหง้าทางวัฒนธรรมของชุมชนเก่าแก่ในทุกประสาทสัมผัส
Pop-Up Park ผลงานการสร้างพื้นที่สีเขียวแบบใหม่ โดยทดลองเปลี่ยนพื้นที่ของภาคเอกชนมาเป็นสวนสาธารณะที่รองรับกิจกรรมสำหรับทุกคน เพื่อสร้างความตระหนักรู้ว่า การพัฒนาพื้นที่สีเขียวไม่จำเป็นต้องทำบนพื้นที่รัฐเท่านั้น แต่ทุกคนก็สามารถมีส่วนร่วมในการพัฒนาเมืองได้ จัดแสดงที่ลานห้างบางลำพู (เดิม)
รวมถึงยังมีโปรแกรมขนส่งสาธารณะทางเลือกของเมือง ได้แก่ “Go Go Bus” รถบัสไฟฟ้าบริการฟรีเชื่อมต่อจุดต่าง ๆ ได้แก่ ย่านเยาวราช - ทรงวาด, ปากคลองตลาด, พระนคร, เจริญกรุง - ตลาดน้อย “BIKE BUS ปั่นตามกัน” ปั่นจักรยานไปพร้อมกับอาสาสมัครของภาคีจักรยานเมืองกรุงเทพฯ
ไม่ว่าจะนำจักรยานมาเอง หรือใช้จักรยานสาธารณะ ร่วมเดินทางไปในระยะทางสั้น ๆ ระหว่างสถานที่จัดเทศกาลฯ ได้แก่ MRT วัดมังกร, สนามไชย และสามยอด เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอีกเพียบ เข้าไปดูรายละเอียดโปรแกรมการจัดงานในสถานที่ต่างๆ คลิ๊ก