เปิดพิกัด "จุดชมทะเลหมอก"ท้าความเย็นยะเยือก หน้าหนาวนี้

18 ธ.ค. 2565 | 02:22 น.

เปิดพิกัด "จุดชมทะเลหมอก" ชอบจังเลย ประเทศไทยอากาศหนาวมาแล้ว คงฟินสุดๆหากหนาวแรก ได้ออกเดินทางขึ้นยอดดอย ไปท้าความเย็นยะเยือก คว้าหมอกขาวแค่เอื้อม สัมผัสธรรมชาติอันงดงามของคลื่นทะเลหมอก ไล่ล่าแสงแรกของพระอาทิตย์ยามเช้า

คอลัมภ์ “ดีแต่เที่ยว” ฉบับนี้เลยขอชี้เป้า “ทะเลหมอกจุดชมทะเลหมอก หน้าหนาวในปีนี้ โดยเฉพาะทะเลหมอกในภาคเหนือ ที่ช่วงหน้าหนาว เป็นจุดปักหมุดที่ฮ้อตฮิตที่สุดในซีซั่นส์นี้เลย เราจะมาชวนคุณใส่เสื้อหนาว แล้วไปปักหมุดเที่ยวกันในช่วงลองวีคเอนท์นี้กัน

 

หนาวสะท้านรับทะเลหมอก

เริ่มกันที่เหนือสุดแดนสยาม อย่าง “จังหวัดเชียงราย” เป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่ไปทางเดียวกัน ซึ่งจะมีหลาย โลเคชั่นในการชมทะเลหมอก ที่ให้ฟิลลิ่งสวยแตกต่างกันไป

 

จุดชมทะเลหมอกห้ามพลาด คือ “ภูชี้ฟ้าจ.เชียงราย

 

ด้วยความสูง 1,628 เมตร ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า อ.เทิง จ.เชียงราย ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ มีภูมิประเทศเป็นพื้นที่ราบสลับกับเนินเขาเตี้ยๆ ตลอดไปจนถึงภูเขาสูงชัน พื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นภูเขาสลับกันไป มีเอกลักษณ์ทางธรรมชาติอยู่ที่หน้าผา ลักษณะปลายยอดแหลมเป็นแนวยาว ชี้ไปบนฟ้าทางฝั่งประเทศลาว จึงเป็นที่มาของชื่อเรียกว่า “ภูชี้ฟ้า”

 

ภูชี้ฟ้า

 

ถัดจากอำเภอเทิง ก็จะเข้าสู่อำเภอเวียงแก่น ซึ่งก็อยู่ไล่ๆกัน ก็จะเป็น “ภูชี้ดาว” ใครชอบชมทะเลหมอกแบบ 360 องศาห้ามพลาด ขึ้นมาที่นี่มองเห็นทั้งภูชี้ฟ้า ภูชี้เดือน และดอยผาหม่นเลย

 

ภูชี้ดาว

หนาวมากมายแต่ได้ฟิว

 

ดอยผาหม่น” เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวทะเลหมอกสองฝั่งโขงที่อยู่ตรงกลางระหว่างภูชี้เดือนและดอยผาตั้ง บริเวณเส้นแบ่งเขตแดนธรรมชาติระหว่างไทย-ลาว สามารถมองเห็นทัศนียภาพได้กว้างไกล 360 องศา ไม่ว่าจะยืนอยู่ตรงมุมไหนก็จะได้เห็นวิวธรรมชาติที่สวยงามและแตกต่างกันไปตามช่วงเวลา

 

ดอยผาหม่น

 

ยามเช้าตรู่ได้ชมวิวทะเลหมอกยามเช้า เคล้าแสงอาทิตย์สีส้ม ช่วงสายเมื่อหมอกจางไปแล้วจะเห็นวิวแม่น้ำโขงไหลคดเคี้ยวไปตามหุบเขาเบื้องล่าง ยามเย็นฝั่งทิศตะวันตกยังสามารถชมวิวพระอาทิตย์ตกดินท่ามกลางทิวเขาฝั่งไทยได้อีกด้วย

 

ถัดไปหน่อยก็จะเป็นที่ตั้งของ “ดอยผาตั้ง” ด้วยความที่เป็นแนวเขาคดเคี้ยวและสลับซับซ้อน เราเลยมองเห็นทั้งทะเลหมอก และเมื่อพระอาทิตย์ขึ้น จะมองเห็นแม่น้ำโขง ที่ไหลเป็นพรมแดนระหว่างไทย-ลาว สวยบาดใจ

 

ดอยผาตั้ง

 

ดอยผาตั้ง จ.เชียงราย เป็นจุดชมทะเลหมอกของจังหวัดเชียงรายที่มีชื่อเสียงในช่วงฤดูหนาว อีกทั้งยังเดินง่าย ใช้เวลาไม่นาน มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาดอยผาหม่น ซึ่งเป็นเทือกเขาแนวพรมแดนไทย-ลาว สูง 1,800 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง สามารถชมวิวได้ในช่วงเช้าสัมผัสกับทะเลหมอกสีขาวโพลนตัดกับแสงอาทิตย์สีส้ม และช่วงเย็นเป็นจุดชมพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าที่มองเห็นวิวแม่น้ำโขงและชายแดนฝั่งลาวได้อีกด้วย

 

ส่วนใครไป “จังหวัดเชียงใหม่” แลนด์มาร์กอยู่ที่ “ดอยอินทนนท์” ยอดเขาที่สูงที่สุดของประเทศไทย ณ โลเคชั่นอ.จอมทอง ซึ่งยอดเขานี้เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาหิมาลัย มีจุดชมทะเลหมอกหลายจุด

 

ดอยอินทนนท์

 

มาขึ้นดอยอินทนนท์แล้ว นอกจากขึ้นไปสักการะเจดีย์คู่ พระมหาธาตุเจดีย์นภเมทนีดล และพระมหาธาตุเจดีย์นภพลภูมิสิริ

 

พระมหาธาตุเจดีย์นภเมทนีดล และพระมหาธาตุเจดีย์นภพลภูมิสิริ

 

ต่อด้วยการเดินชมธรรมชาติ ณ “กิ่วแม่ปาน” อากาศหนาวแบบนี้ชิลล์มากเลย กับการได้เดินป่า ที่อยู่สูงถึง 2,000 เมตร จากระดับน้ำทะเล เส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ที่มีทางเดินลาดชันสลับขึ้นลงและทางเดินลัดเลาะไปตามริมเขาให้ได้เพลิดเพลินกับ ธรรมชาติ ลำธารและจุดชมวิวเป็นระยะ

 

เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน

 

รวมถึงจุดไฮไลท์จุดชมทะเลหมอกได้กว้างสุดลูกหูลูกตา สภาพป่าโดยรอบเป็นป่าดิบชื้น อากาศเย็นสบายตลอดเส้นทาง เนื่องจากเส้นทางเดินมีความสลับซับซ้อนและเดินเลียบเขาจึงต้องมีไกด์ท้องถิ่นนำเดิน ถือเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวที่ใครๆ ใฝ่ฝันอยากจะมา

 

อีกไฮไลต์จุดชมวิวทะเลหมอก ในเชียงใหม่ ที่ต้องมา คือ “อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง” อ.แม่แตง สภาพป่าและธรรมชาติอุดมสมบูรณ์เป็นภูเขาสูงชันสลับซับซ้อน นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมขึ้นไปพักค้างแรมที่ “จุดชมวิวดอยกิ่วลม” จากจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น สามารถมองเห็นดอยหลวงเชียงดาวท่ามกลางทะเลหมอกในยามเช้า

 

อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง

 

 

ทั้งที่นี่เป็นที่ตั้งของศูนย์บริการนักท่องเที่ยว มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันไม่ว่าจะเป็นบ้านพักอุทยานและลานกางเต็นท์ ห้องน้ำ ร้านอาหาร เพียงแค่ตื่นเช้า เดินออกมาจากที่พักก็ได้สัมผัสอากาศหนาว ชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกที่รับรองว่า สวยตราตรึงใจไม่แพ้ที่ไหนๆ แน่นอน

 

สำหรับใครมีแพลนเที่ยว “จังหวัดแม่ฮ่องสอน” เสน่ห์ของแม่ฮ่องสอน มาหน้าหนาวนี่ใช่เลย แนะนำให้เดินทางไปบ้านแม่สามแลบ อ.สบเมย เพื่อสัมผัสกับ จุดชมวิวทะเลหมอกสองแผ่นดิน “กลอเซโล” ในภาษาปกาเกอะญอ หมายถึง ดินแดนแห่งต้นไม้เป็นหมู่บ้านตามแนวชายแดน ไทย-เมียนมา ฝั่งแม่น้ำสาละวินที่โอบล้อมด้วยขุนเขา และเป็นจุดชมวิวทะเลหมอกที่ใช้คำว่าสวยได้เปลืองมาก ไฮไลท์ของที่นี่

 

กลอเซโล

 

นักท่องเที่ยวสามารถกางเต็นท์ได้ในบริเวณจุดชมวิวทำให้ตื่นมาช่วงเช้าสามารถชมหมอกขาวโพลนได้จากเต็นท์ของตัวเอง

 

สำหรับใครที่จะไปปักหมุดเมืองเล็กๆ อย่าง “จังหวัดพะเยา” พลาดไม่ได้กับ “ภูลังกา” อำเภอปง จุดชมวิวทะเลหมอกที่มีเสน่ห์ธรรมชาติไม่เป็นสองรองใคร “ดอยภูลังกา” ภูเขาสูงชันอยู่บนเทือกเขาสันปันน้ำเป็นสันเขาแคบๆ ที่มีทิวทัศน์ทางทิศตะวันตกเป็นป่าดงดิบ และทิศตะวันออกเป็นหน้าผาสูงชันมีหญ้าปกคลุม เมื่อขึ้นไปบนยอดดอยชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกยามเช้าได้สวยงาม และยังสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของประเทศลาวได้อีกด้วย

 

ภูลังกา

 

ปิดท้ายด้วยการตามล่าหาทะเลหมอกหน้าฝน ณ อ.หล่มเก่า กันที่ “ภูทับเบิก” จุดชมวิวสูงสุดของเพชรบูรณ์แวดล้อมไปด้วยทัศนียภาพแบบทะเลภูเขาและหมอกขาวฟุ้งกระจายตลอดทั้งวัน ทั้งยังมีจุดท่องเที่ยวในภูทับเบิกอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ผาหัวสิงห์ ภูแผงม้า ตลาดม้ง ภูทับเบิก วัดป่าภูทับเบิก ทุ่งกังหันลม ที่ไหนๆมาแล้วต้องแวะไป

 

หนาวนี้เลือกได้เลยจะไปจุดชมหมอกหน้าหนาว ชมทะเลหมอกกันที่ไหน รับรองฟินสุดๆ

 

CR: ภาพบางส่วนจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)

 

หน้า 17 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,843 วันที่ 11 - 14 ธันวาคม พ.ศ. 2565