svasdssvasds
logo-pwa

เพิ่ม thansettakij

ลงในหน้าจอหลักของคุณ

ติดตั้ง
ปิด
thansettakij

ทำความรู้จัก "ต้นรวงผึ้ง" Yellow Star ต้นไม้ประจำพระองค์ในหลวงรัชกาลที่10

27 กรกฎาคม 2565

"ต้นรวงผึ้ง" เป็นต้นไม้ประจำพระองค์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 เอกลักษณ์อันโดดเด่นคือ ดอกสีเหลืองส่งกลิ่นหอม ฤดูกาลออกดอกตรงกับในช่วงเดือนพระบรมราชสมภพพอดี จัดเป็นพรรณไม้ไทยแท้อันทรงคุณค่า เรามาทำความรู้จัก “ต้นรวงผึ้ง” กัน  

ต้นรวงผึ้ง หรือชื่อในภาษาอังกฤษว่า Yellow Star ถือเป็นพรรณไม้อันทรงคุณค่าและมีเกียรติชนิดหนึ่ง ถูกยกให้เป็น พรรณไม้ประจำสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 เนื่องจากดอกรวงผึ้งจะออกดอกในช่วงเดือนพระบรมราชสมภพ พอดี นอกจากนี้ สีเหลืองของดอกรวงผึ้งยังเป็นสีประจำวันพระบรมราชสมภพอีกด้วย (วันจันทร์) ในยามที่พระองค์เสด็จฯ ไปประกอบพระราชกรณียกิจ ทรงมักจะปลูกต้นรวงผึ้งไว้ตามสถานที่ต่าง ๆ ที่พระองค์เสด็จฯ ไป เพื่อพระราชทานไว้ให้เป็นตัวแทนแห่งพระองค์ท่านและเป็นสิริมงคลแก่ราษฎร

 

ประวัติต้นรวงผึ้ง

โดยทั่วไปจะเรียกต้นไม้ชนิดนี้ว่า "ต้นรวงผึ้ง" แต่ต้นไม้ชนิดนี้ ยังมีชื่อเรียกอื่น ๆ ตามท้องถิ่นต่าง ๆ เช่น ต้นน้ำผึ้ง ต้นสายน้ำผึ้ง หรือดอกน้ำผึ้ง เป็นชื่อเรียกของคนท้องถิ่นที่มักได้ยินกันบ่อยในแถบกรุงเทพฯ และภาคเหนือ

 

ต้นรวงผึ้ง มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Yellow Star และชื่อวิทยาศาสตร์คือ Schoutenia glomerata King subsp. peregrina (Craib) Roekm. & Hartono เป็นพรรณไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย พบมากในป่าทางภาคเหนือ ความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,000-1,100 เมตร

Yellow Star

ลักษณะอันเป็นเอกลักษณ์

ต้นรวงผึ้งเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก ความสูงประมาณ 5 เมตร ทนแดด และชอบขึ้นในที่แล้งหรือค่อนข้างแล้ง ลำต้นแตกกิ่งต่ำ ลักษณะลำต้นเป็นทรงพุ่มมน ออกใบเดี่ยวเรียงสลับกัน ด้านหน้าใบจะเป็นสีเขียวและหลังใบเป็นสีน้ำตาลนวล ดอกรวงผึ้งส่งกลิ่นหอมคล้ายน้ำผึ้งตลอดทั้งวัน และมีสีเหลืองอร่ามดูโดดเด่น ออกดอกเป็นช่อสั้นตามซอกใบ ลักษณะดอกมีกลีบเลี้ยง 5 แฉกคล้ายรูปดาวติดกับโคนกลีบและเป็นฐานรองกระจุกเกสรตัวผู้ ไม่มีกลีบดอก ดอกจะบานได้นาน 7-10 วัน โดยจะผลิดอกในเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม ส่วนผลของต้นรวงผึ้งมีขนาดเล็ก เส้นผ่านศูนย์กลาง 1 เซนติเมตร เป็นทรงกลม ผลแห้ง และมีขน

 

วิธีปลูกและการดูแลรักษา

ต้นรวงผึ้งสามารถขยายพันธุ์ได้ทั้งการเพาะเมล็ด ตอนกิ่ง และปักชำกิ่ง แต่วิธีปลูกต้นรวงผึ้งที่นิยมมากที่สุดคือ การตอนกิ่ง ด้วยการควั่นกิ่งและลอกเปลือกออก จากนั้นนำดินเหนียวและกาบมะพร้าวชุบน้ำมาหุ้มแผลเอาไว้ ห่อด้วยแผ่นพลาสติกและมัดเชือกปิดมิด ดูแลรดน้ำตามปกติ อาจจะใช้ฮอร์โมนเร่งรากด้วยก็ได้ รอรากงอกออกมาภายใน 2-3 วัน จึงค่อยตัดไปปลูกลงในหลุมดินร่วน เพื่อให้ได้ผลดีแนะนำให้ปลูกในที่กลางแจ้ง เนื่องจากเป็นพืชที่ชอบแดดและทนแล้งได้ดี รดน้ำปานกลาง และปลูกไว้บริเวณแสงแดดส่องถึงตลอดทั้งวัน ต้นก็จะเจริญเติบโตให้ความร่นรื่น ออกดอกสวยงาม แถมใบไม่ร่วงมากด้วย

ลักษณะลำต้น (ขอบคุณภาพจากเว็บอุทยานหลวงราชพฤกษ์ www.royalparkrajapruek.org)

ประโยชน์ของต้นรวงผึ้ง

แม้จะไม่ใช่ไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ แต่ก็ช่วยบังแดดและให้ร่มเงาได้ มีรูปลักษณ์และสีสันสวยงาม มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ เพื่อปรับบรรยากาศให้สดชื่น นอกจากนี้ ยังเป็นไม้มงคลที่เหมาะจะนำมาปลูกประดับสวนภายในบ้านและตามสถานที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะบ้านที่มีคนธาตุไฟ ต้นรวงผึ้งก็จะช่วยเสริมความเป็นสิริมงคลให้มากยิ่งขึ้น สำหรับคนที่สนใจอยากจะปลูกไว้ในสวนสักต้น ก็สามารถหาซื้อได้ตามตลาดต้นไม้ทั่วไป ส่วนราคาของต้นรวงผึ้งนั้นมีตั้งแต่หลักร้อยถึงหลักพัน ขึ้นอยู่กับขนาดของต้นไม้

 

ปัจจุบัน ต้นรวงผึ้งเริ่มได้รับความสนใจจากราษฎร นำมาปลูกเพาะพันธุ์กันมากขึ้นและสร้างรายได้ในอนาคตได้ แต่มีข้อควรระวังอยู่ด้วย เพราะต้นรวงผึ้งมีลักษณะตามชื่อ คือ ความหอมหวานของดอกทำให้มักมีผึ้งมาตอม เมื่อตอนออกดอกคราวละมากๆ จึงควรต้องระวังให้ดี อีกทั้งมีระยะเวลาในการออกดอกค่อนข้างสั้น และถ้าเป็นพันธุ์ไม้ขนาดใหญ่ ก็อาจต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะเริ่มออกได้ นอกจากนี้ ยังต้องการพื้นที่ปลูกค่อนข้างมากด้วย จึงอาจไม่เหมาะสำหรับผู้คิดเพาะปลูกในระยะเวลาสั้นๆ แต่เหมาะจะอนุรักษ์ไว้ในระยะยาวมากกว่า