เหนื่อยแน่นหน้าอกโรคหัวใจหรือโควิด

22 เม.ย. 2563 | 09:48 น.

เหนื่อยหอบ แน่นหน้าอก แยกอย่างไรโรคหัวใจหรือโควิด-19

โรคเดียวที่พูดถึงกันไปทั่วโลกในขณะนี้ หนีไม่พ้นเรื่องการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19  ซึ่งเกิดจากเชื้อ SARS Coronavirus -2  มาตั้งแต่ปลายปี2562  โดยหนึ่งในอาการ หากติดเชื้อโควิด-19 คือ เหนื่อยหอบแน่นหน้าอก ซึ่งใกล้เคียงกับอาการของโรคหัวใจบางประเภท  มาดูวิธีสังเกตุอาการว่าจะแยกออกจากโรคหัวใจได้อย่างไร

นพ.ชาติทนง  ยอดวุฒิ อายุรแพทย์หัวใจ รพ.หัวใจกรุงเทพ กล่าวว่า ทำความเข้าใจก่อนว่าอาการของการติดเชื้อโควิด-19 คือการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ  โดยจะมีอาการที่ทางเดินหายใจส่วนบนเป็นอันดับแรก  เช่น คัดจมูกน้ำมูกไหลไอเจ็บคอร่วมกับอาการไข้จนถึงไข้สูงหนาวสั่น  ปวดเมื่อยตามตัวปวดหัวปวดตามข้อ  หลังจากนั้นอาการจะมีการเปลี่ยนแปลงและลุกลามไปจนถึงการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนล่าง คือ ปอดจุดนี้ที่จะทำให้คนไข้เริ่มมีอาการเหนื่อย เกิดภาวะเมตาบอลิซึมสูงร่วมกับการติดเชื้อในปอดทำให้ออกซิเจนในเลือดลดต่ำลง  คนไข้จะหายใจหอบเหนื่อยหัวใจเต้นเร็ว  ซึ่งจะมีความแตกต่างจากอาการเจ็บหน้าอกจากโรคเส้นเลือดหัวใจตีบคือ อาการเริ่มต้นจะไม่มีอาการของไข้หวัดมาก่อน  โดยมากอาการเจ็บหน้าอกจากเส้นเลือดตีบจะสัมพันธ์โดยตรงกับการออกแรงและออกกำลังกาย

เหนื่อยแน่นหน้าอกโรคหัวใจหรือโควิด

ขณะที่อาการเหนื่อยจากภาวะหัวใจล้มเหลวหรือน้ำท่วมปอดนั้น หากเกิดขึ้นจากภาวะน้ำเกิน  จะไม่มีอาการเป็นไข้หวัดนำมาก่อนหรือร่วมด้วยแต่ลักษณะอาการของโรคหัวใจล้มเหลวหรือน้ำท่วมปอดนั้น  จะเป็นตอนขณะที่นอนราบและอาการจะมากขึ้นจนถึงนอนราบไม่ได้  นอนลงไปแล้วจะมีอาการไอต้องนอนหมอนสูงหลายใบและหนักสุดคือ  นั่งหลับเพราะนอนราบไม่ได้สิ่งสำคัญที่ควรระวังคือ คนที่เป็นโรคหัวใจอยู่ก่อนแล้ว หากติดเชื้อโควิด-19 จะไปกระตุ้นให้อาการของโรคหัวใจกำเริบจนแยกอาการได้ค่อนข้างยาก

ผู้ป่วยโรคหัวใจหากติดเชื้อโควิด-19 อาการจะรุนแรง มีอัตราการเสียชีวิตได้สูงกว่าคนทั่วไป  ทั้งนี้ ความรุนแรงของอาการหากติดเชื้อไม่ได้เฉพาะในคนที่เป็นโรคหัวใจเท่านั้น  แต่ในกลุ่มดังต่อไปนี้ได้แก่  อายุมากกว่า 65 ปีมีโรคประจำตัว เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคปอดเรื้อรังเดิม โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง โรคไต โรคตับแข็ง และโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องอยู่เดิม  ล้วนแต่เป็นภาวะที่จะทำให้การติดเชื้อโควิด-19 รุนแรงและมีอัตราการเสียชีวิตสูงได้ ดังนั้นผู้ป่วยควรมีความระมัดระวังอย่างยิ่งในการดูแลตัวเองไม่ให้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19  โดยปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด  เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนที่รักษาโรคได้โดยตรง การดูแลตัวเองจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ

เหนื่อยแน่นหน้าอกโรคหัวใจหรือโควิด

คนที่เป็นโรคหัวใจอยู่แล้ว  จะมีอาการแสดงมากขึ้นหลังจากติดเชื้อโควิดคือ โรคกล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแรง  หรือล้มเหลว  ถ้าได้รับเชื้อเข้าไปจะทำให้ระบบการทำงานของร่างกายเมตาบอลิซึมสูงขึ้น  จนกระทั่งกระตุ้นให้โรคหัวใจล้มเหลวกำเริบติดเชื้อโควิดรุนแรงจนทำให้ไตวายและไตไม่สามารถขับน้ำออกจากร่างกายได้  จนเป็นเหตุให้น้ำท่วมปอด  ซึ่งทั้งสองภาวะนี้ล้วนแล้วแต่เป็นสาเหตุต้นๆ ที่ทำให้เสียชีวิตหรือภาวะแทรกซ้อนต่างๆ  จนต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลนาน  และทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ตามมามากมาย

คำแนะนำที่ดีที่สุดและได้ผลที่สุดสำหรับผู้ที่เป็นโรคหัวใจควรปฎิบัติคือ Social distancing ห่างจากคนอื่นอย่างน้อย 2 เมตรใส่หน้ากากอนามัย  หมั่นล้างมือให้สะอาดสม่ำเสมอ  หรือใช้เจลแอลกอฮอล์   ล้างมือกินร้อน ใช้ช้อนไม่ปนกับใคร แยกของใช้ และไม่ไปในแหล่งระบาดแหล่งชุมชน  มีประกาศไม่ให้ผู้สูงอายุออกจากบ้านที่สำคัญคือ ลูกหลานต้องไม่เอาเชื้อจากนอกบ้านไปติดผู้สูงอายุในบ้าน  ผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจและมีอาการหรือจำเป็นต้องเข้าโรงพยาบาลเพื่อรักษา  หรือติดตามอาการในช่วงนี้

เหนื่อยแน่นหน้าอกโรคหัวใจหรือโควิด

ควรจะปฏิบัติอย่างเคร่งครัดมีการตรวจคัดกรองโรคสวมหน้ากากอนามัย  ไม่ควรจะไม่มาพบแพทย์หรือเลี่ยงไม่มาปรึกษาแพทย์ถ้าอาการยังไม่สงบและยังมีอาการอยู่   และที่สำคัญที่สุดไม่ควรขาดยา  ถ้ามาโรงพยาบาลไม่ได้ควรเตรียมยาให้พอดีหรือใช้วิธีปรึกษาแพทย์ผ่านช่องทางอื่นเช่น การปรึกษาแพทย์ออนไลน์ หรือโทรศัพท์ปรึกษาแพทย์ผ่านอุ่นใจสายด่วนของโรงพยาบาลกรุงเทพเป็นต้น

สำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจหากเกิดการติดเชื้อโควิด-19 อาจต้องสังเกตอาการของตนเองอย่างดี ตั้งแต่เริ่มต้น เช่น อาการที่คล้ายหวัดคัดจมูกน้ำมูกไหลไอเจ็บคอร่วมกับอาการไข้จนถึงไข้สูงหนาวสั่น   ปวดเมื่อยตามตัวปวดหัวปวดตามข้อควรจะต้องรีบติดต่อสถานพยาบาล  และเตรียมพร้อมที่จะมาตรวจเพื่อรักษาอาการตั้งแต่เริ่มต้น หากปล่อยไว้นานอาจเป็นอันตรายได้