| Take a Trip : เว่อร์วัง! ตระการตา "ณ สัทธา เฟสติวัล 2018"
| โดย ธนวรรณ วินัยเสถียร
……………….
ความงดงามอลังการของไฟประดับหลากสีสัน ฉายแสงเจิดจรัสในความมืด ท่ามกลางบรรยากาศอันอบอวนไปด้วยวิถีแห่งศิลปะและวัฒนธรรม ภายใน
"ณ สัทธา อุทยานไทย" แหล่งท่องเที่ยวเก่าแก่ ซึ่งตั้งอยู่ใน อ.บางแพ จ.ราชบุรี ซึ่งถูกรีเมกโฉมใหม่ ด้วยการเปลี่ยนวิธีการนำเสนอ โดยนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาผสานกับเอกลักษณ์ความเป็นอุทยานแห่งการเรียนรู้และอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยได้อย่างลงตัว
ทำเอาเราชิลล์สุด ๆ และสัมผัสได้ถึง
"มหัศจรรย์แห่งความเบิกบาน" กับ กิจกรรม
"ณ สัทธา เฟสติวัล 2018" ครั้งแรกก็ว่าได้ ที่แหล่งท่องเที่ยวเมืองรองแห่งนี้ได้เนรมิตรเทศกาลเฉลิมฉลองรับเทศกาลแห่งความสุข
"ส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่" จัดเต็มกิจกรรมหลากหลายให้คุณเลือกเที่ยวได้ทั้งกลางวันและกลางคืน หรือจะพ่วงเที่ยวควบ 2 ช่วงเวลาเลยก็ได้ มาที่นี่แนะนำเลยว่า ควรใส่
"ชุดไทย" มาเดิน หรือจะมาเช่าที่นี่ก็ได้ เขาคิดค่าเช่า 250-450 บาท เลือกได้เลยว่าชอบชุดสไตล์ไหน ให้คุณใส่ได้ทั้งวัน แล้วคุณจะฟินมากมายยามได้แชะ&แชร์ แหมมันเข้ากับบรรยากาศมาก ๆ เลยขอบอก
เข้ามาถึง ... ถ้าจะให้ได้อรรถรสในการเที่ยวชม ต้องลงทะเบียน Wifi ฟรีกันก่อน จากนั้นให้ดาวน์โหลดแอพพลิเคชัน "
ณ สัทธา / NASATTA" ดาวน์โหลดได้ทั้งระบบปฏิบัติการ IOS และ Android จากนั้นพร้อมลุยเที่ยวจุดจัดแสดงต่าง ๆ ภายใน ณ สัทธา ที่แบ่งออกเป็น 8 โซนหลัก ซึ่งในแต่ละจุดให้คุณใช้มือถือแสกน QR Code หรือบางจุดก็เทคโนโลยีอื่น อย่าง Projector Mapping 270 องศา, เทคนิค AR ภาพจำลองเสมือนจริง, วีดีโอ แอนิเมชัน ทำเอาเราก้าวไปค้นพบความสนุนสนานกับการสอดแทรกเนื้อหา ที่นำเสนอผ่าน Audio Guide จึงไม่ได้มีแค่เสียง แต่มาทั้งวีดีโอและการ์ตูนแอนิเมชัน ให้เรียนรู้ในแบบง่าย ๆ กระชับ และสนุกสนานไม่เบื่อเลย
เราไล่เที่ยวเรียงกันทั่วพื้นที่ 42 ไร่ โดยเริ่มจากจุดที่ 1 คือ
"มหาราชกษัตรา" ร่วมระลึกถึง 3 บูรพมหากษัตริย์ผู้กอบกู้เอกราชไทย
ต่อด้วยจุดที่ 2
"ณ สัทธานุสรณ์" แล้วคุณจะทึ่งกับความปราณีตของหุ่นขี้ผึ้งไฟเบอร์กลาส ที่เนียนและเหมือนจริงมาก ของบุคคลสำคัญผู้เป็นต้นแบบคนดีของแผ่นดินกว่า 14 ท่าน จะมีท่านใดบ้าง ... ต้องไปหาคำตอบกันเองจะลุ้นกว่า
จุดที่ 3
"ณ สัทธาปฏิมา" ร่วมบูชาพระพุทธรูป 3 สมัย คือ สุโขทัย, อยุธยา และเชียงแสน ไฮไลต์ห้ามพลาด คือ การจัดแสดงไลท์แอนด์ซาวด์และการใช้เทคนิค Mapping แสดงภาพบนผนังโบสถ์และองค์พระพุทธรูป ภายในวิหารสมัยสุโขทัย ที่จะนำคุณย้อนอดีตไปยังสมัยอาณาจักรสุโขทัย เพื่อรับรู้เรื่องราวการเดินทางของพระพุทธศาสนาสู่ประเทศไทย
ต่อกันเลยกับจุดที่ 4
"ถ้ำพุทธชาดก" ถ้ำจำลองแต่สุดล้ำ เล่าขานเรื่องราวขององคุลีมาลเถระ มหาโจรที่ปล้นฆ่าและตัดนิ้วมือคนมากถึง 999 คน ก่อนจะกลับใจเข้าสู่ธรรมะและบรรลุเป็นพระอรหันต์ ซึ่งมีการนำเสนอผ่านเทคนิคแสง สี เสียง ตระการตา ย่นย่อเรื่องราวยาก ๆ มาสรุปได้ในแบบง่าย ๆ เพียงไม่กี่นาที ถ้ำนี้ถือเป็นอีกจุดหนึ่งที่ห้ามพลาดเช่นกัน
จุดที่ 5
"อริยสัทธา" จัดแสดงหุ่นขี้ผึ้งไฟเบอร์กลาสส์พระอริยสงฆ์ ซึ่งเป็นที่เลื่อมใสทั่วไทย
จุดที่ 6
"สัทธาถิ่นเรือนไทย" จำลองวิถีชีวิตและวัฒนธรรมไทยเสมือนจริง กับการใช้ชีวิตของผู้คนจากบ้านไทย 4 ภาค
จุดที่ 7
"ลานภิรมย์" ลานกลางแจ้งรายล้อมด้วยต้นบอนไซหลากหลายขนาด
จุดที่ 8
"ลานอวโลสัทธา" ลานจัดแสดงพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรปางมหาราชลีลา จำลองจากศิลปะของราชวงศ์ซ้องของจีน
ยิ่งมาเที่ยวในช่วงนี้ ที่มีการจัดกิจกรรม ณ สัทธา เฟสติวัล 2018 จะรู้เลยว่า ฟิลลิ่งยามมาเที่ยวช่วงกลางวันกับกลางคืนสวยงามแตกต่างกันอย่างชัดเจน ถ้าเป็น ...
ตอนกลางวัน จะเริ่มตั้งแต่
เวลา 08.30-17.00 น. นอกจากจะมีเวลาเต็มที่ในการท่อง 8 โซนหลักดังกล่าวมาแล้ว คุณจะเบิกบานไปกับกิจกรรมมาก ๆ ที่จัดมาเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น การถ่ายภาพกับสถานที่ที่ตกแต่งพิเศษต้อนรับปีใหม่ สวยงามทั้งอุทยาน, ไหว้พระขอพรปีใหม่ ในโซน ณ สัทธาปฏิมา 3 สมัย เวิร์คช็อปต่าง ๆ อาทิ จัดสวนกระบะ Snow Globe Salad To Go การแสดงนาฏมวยไทย การแสดงจาก
"ทีมบันได" รองชนะเลิศจากรายการไทยแลนด์ ก็อต ทาเล้นท์ 2018 การแสดงโขน รำโทน รำไทย 4 ภาค และฟังเพลงชิว ๆ สไตล์ Bossa nova จากวงมโน ราคาบัตรเข้าชมกลางวันอยู่ที่ 200 บาท
ขณะที่ การเข้าชม ...
ตอนกลางคืน จะเริ่มใน
เวลา 18.00 - 22.00 น. ประทับใจจริง ๆ กับความงดงามของไฟประดับหลากสีหลายรูปแบบ ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกที่ชุบชีวิตอุทยานแห่งนี้ ในยามค่ำคืนให้กลับมาสว่างไสวไปทั่ว สมกับธีม
"เส้นแสงแห่งสัทธา : NaSatta Alive"
จุดปักหมุดชมไฟประดับอยู่ที่ 4 จุดใหญ่ แต่ละจุดมีแนวคิดการตกแต่งไฟประดับแตกต่างกัน จุดที่ 1 คือ
"มหาราชกษัตรา" ที่มาในธีม
"แผ่นดินทอง" Golden Siam สื่อถึงความรุ่งเรืองของพุทธศาสนา นำมาซึ่งความร่มเย็นเป็นสุขบนผืนแผ่นดินไทยทุกยุคทุกสมัย ลายเส้นไฟประดับจึงร้อยเรียงเป็นภาพวัดสำคัญในแต่ละยุคสมัย ตั้งเด่นเป็นฉากหลังของ 3 มหาราชไทยที่ประดิษฐานเป็นสง่า ณ ลานมหาราชกษัตรา
ไม่ว่าจะเป็น วัดอรุณราชวรารามฯ ซึ่งเป็นวัดในเขตพระราชฐานประจำรัชสมัย เบื้องหลังสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช, วัดใหญ่ชัยมงคล จ.พระนครศรีอยุธยา วัดเด่นสมัยอยุธยา เบื้องหลังสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร วัดประจำรัชกาลที่ 5 เบื้องหลังพระบรมรูปสมเด็จพระปิยมหาราช
จุดที่ 2 คือ
ทางเดินหน้าอาคาร ณ สัทธานุสรณ์ กับธีม
"เส้นทางสู่สวรรค์" Paradise Route ซึ่งตลอดทางเดินและพื้นที่โดยรอบประดับประดา ตกแต่งไปด้วยเม็ดไฟสีน้ำเงิน-ขาว ทั่วบริเวณ เสมือนกำลังเดินในแดนสวรรค์ ให้ความรู้สึกรื่นรมย์ สบายตา ปลุกพลังบวก
จุดที่ 3 คือ
ณ สัทธาปฏิมา 3 สมัย พบกับประติมากรรมกลีบบัว บริเวณลานสนามหญ้าหน้าฐานพระ ซึ่งไฟประดับรูปดอกบัว เป็นสัญลักษณ์แห่งความดี ความบริสุทธิ์ จิตใจที่ผ่องแผ้ว ขณะที่ ฐานพระสมัยอยุธยา-อู่ทอง จะอบอวนไปด้วยแสงเทียนส่องสว่าง สื่อถึง
"ประทีปแห่งปัญญา" เปรียบเสมือนแสงสว่างแห่งธรรมะของสัมมาสัมพุทธเจ้า และดอกบัวประดับไฟสีชมพู บริเวณฐานพระสมัยเชียงแสน เรืองรองทั่วบริเวณเพื่อบูชาองค์สัมมาสัมพุทธเจ้า สื่อถึง
"แสงแห่งศรัทธา"
จุดที่ 4
"ลานภิรมย์" ตื่นตากับอุโมงค์ประดับไฟลายดอกไม้สว่างไสวสวยงาม ราวกับกำลังเดินในความฝันอันงดงาม
จุดที่ 5
"ลานอวโลสัทธา" ที่รอบบริเวณต้นไม้ใหญ่ หน้าลานแห่งนี้ ได้ถูกเนรมิตให้เป็น
"ต้นไม้แห่งการอธิฐาน" ที่ประดับเป็นม่านไฟสีชมพู เชื่อมโยงกับสีดอกกัลปพฤกษ์ ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำ จ.ราชบุรี และจัดเป็นดอกไม้มงคล มีประวัติเกี่ยวข้องกับความเชื่อทางพุทธศาสนามาต่อเนื่องยาวนาน และไฟประดับ
"ผีเสื้อโบยบิน" ร้อยเลื้อยจากพื้นดิน สู่ผืนฟ้า ซึ่งผีเสื้อมีความหมายที่แตกต่างกันไปในแต่ละวัฒนธรรม บางความเชื่อว่ากันว่า ผีเสื้อเป็นตัวตนของเทพธิดา คุณแม่ผู้ยิ่งใหญ่ที่สามารถให้และใช้ชีวิตได้ และผีเสื้อมักถูกมองว่าเป็น
"สัญลักษณ์แห่งความงาม" โดยธรรมชาติ
ไม่เพียงชมไฟประดับยามค่ำคืนเท่านั้น ยังมีการแสดงจาก
ครูนาย มานพ มีจำรัส ศิลปินรางวัลศิลปาธร สาขาศิลปการแสดง และทีมสะบัดลาย จากรายการไทยแลนด์ ก็อต ทาเล้นท์ เลือกซื้อสินค้า ร่วมสนุกกับกิจกรรมสอยดาวลุ้นของรางวัล และชิมอาหาร ของดีของอร่อยเจ้าดังใน จ.ราชบุรี อาทิ ไก่ย่างบางตาล บะหมี่หยู่ไอ่ โพธาราม เฉาก๋วยโบราณ บ้านโป่ง เต้าทึงหวานเวอร์ตลาดริมน้ำโพธาราม ทานอาหารอร่อยพร้อมฟังเพลงเพราะ ๆ สไตล์ Bossa Nova จากวงมโน ซึ่งสนทราคาบัตรชมงานกลางคืน อยู่ที่ 350 บาท แต่หากรวมคูปองอาหารมูลค่า 200 บาทด้วย ราคาบัตรเข้าชมงานกลางคืนจะอยู่ที่ 500 บาท
ความเบิกบานกับ ณ สัทธา เฟสติวัล 2018 เริ่มแล้ว คุณมีเวลาเลือกไปเที่ยวในอีก 2 ช่วง คือ
วันที่ 29-30 ธ.ค. 2561 และ
วันที่ 1, 5-6 ม.ค. 2562 สนใจคลิ๊กไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
www.nasatta.com