เขาโอบน้ำ วิถีธรรมชาติ “คีรีวงศ์”

21 พ.ค. 2560 | 08:00 น.
mp32-3263-9 “..ย่างเข้าเดือนหก ฝนก็ตก พรำ พรำ กบมันก็ร้อง งึมงำ ระงมไปทั่ว ท้องนา” หนึ่งท่อนทำนองสุดคลาสลิคจากบทเพลงฝนเดือนหกผสมผสานกับความชุ่มชื้นของเม็ดฝนที่โปรยปรายตั้งแต่ต้นฤดู ทำให้เราคิดถึงชุมชนแห่งหนึ่งที่เพียบพร้อมไปด้วยความสวยงามจากธรรมชาติ และความสมดุลของวิถีชีวิตที่เรียบง่าย การันตีด้วยสมญานาม “หมู่บ้านที่มีอากาศดีที่สุดในประเทศไทย” ถือได้ว่าหากใครจินตนาการสวรรค์ไม่ออกว่ามีภาพรวมเป็นอย่างไร “คีรีวง” คือ คำตอบ

mp32-3263-6 คีรีวง หมู่บ้านเก่าแก่ของจังหวัดนครศรีธรรมราช ตั้งอยู่บริเวณ หุบเขาหลวง ซึ่งตอนแรกชาวบ้านเรียกดินแดนแห่งนี้ว่า หมู่บ้าน 5 ขุนน้ำ หรือ บ้านขุนน้ำ เนื่องจากชุมชนดังกล่าวตั้งบ้านเรือนอยู่บริเวณต้นน้ำนั้นเอง อย่างไรก็ดีในช่วงเวลาต่อมาหมู่บ้านแห่งนี้ได้เปลี่ยนชื่อเป็น “บ้านคีรีวง” โดยตั้งตามชื่อวัดประจำท้องถิ่นที่สร้างขึ้นมา ซึ่งมีความหมายว่า “บ้านที่อยู่ภายในวงล้อม (วง) ของภูเขา (คีรี)

mp32-3263-7 หมอกจางๆ เสียงน้ำเบาๆ คือ การทักทายอย่างเป็นกันเองระหว่างความงดงามจากธรรมชาติและความสุขใจของผู้มาเยือน โดยความอุดมสมบูรณ์ของหมู่บ้านแห่งนี้เกิดจากลำธารต้นน้ำที่ไหลลงมาจากเขาหลวง ดูสดชื่น สะอาดและบริสุทธิ์ สามารถมองเห็นโขดหิน การไหลของน้ำ รวมทั้งการแหวกว่ายของกลุ่มปลาเจ้าถิ่น ทั้งนี้ความชุ่มชื่นของน้ำยังเกิดจากการไหลเวียงของคลอง 3 สาย ได้แก่ คลองปง คลองท่าหา และคลองท่าชาย ซึ่งลำคลองทั้งสามไหลมาบรรจบกันที่บริเวณด้านหน้าของหมู่บ้านพอดีมีชื่อว่า “คลองท่าดี” กลายเป็นสะพานข้ามคลองสุดคลาสลิคที่ใครๆเมื่อมาเยือนต้องบันทึกภาพที่จุดนี้

mp32-3263-1 วิถีชีวิตของชาวคีรีวงทำสวนไม้ผสมหรือที่เรียกว่า “สวนสมรม” ซึ่งปลูกต้นไม้หลากหลายชนิดไว้ด้วยกัน อาทิ มังคุด เงาะ ทุเรียน ปลูกสลับกันไปโดยรอบ ทำให้บรรยากาศภายในหมู่บ้านมีความสวยงาม ร่มรื่น น่าอยู่อาศัย จากการพูดคุยกับชาวสวนในคีรีวงถึงวิธีการปลูกผลไม้ดังกล่าวทราบว่า เพียงคุณกินผลของมังคุดจนหมดแล้วโยนเมล็ดลงสู่พื้นดิน หลังจากนั้นไม่นานต้นมังคุดจะเติบโตขึ้นเองตามธรรมชาติ เป็นสิ่งอัศจรรย์ที่มีอยู่จริงที่รอคุณไปสัมผัสในทุกวัน

mp32-3263-5 นอกจากการขายผักและผลไม้สดๆจากชุมชน ชาวบ้านคีรีวงได้รวมกลุ่มกันสร้างศูนย์ Otop ชุมชน ซึ่งประกอบไปด้วย กลุ่มใบไม้ ดำเนินการย้อมสีเสื้อผ้า กระเป๋าและของตกแต่งต่างๆด้วยสีที่ทำมาจากเปลือกไม้และใบไม้ในชุมชน สามารถสร้างรายได้และอาชีพให้กับชาวสวนหลังจากการเพาะปลูก ถัดมาคือกลุ่มสมุนไพร ชาวบ้านกลุ่มนี้ได้นำเอาเปลือกมังคุดที่เหลือจากการรับประทานและแปรรูปมาตกผลึกภูมิปัญญาสร้างสรรค์เป็นชิ้นงานด้วยผลิตภัณฑ์สบู่ สมุนไพร สร้างทั้งรายได้และชื่อเสียงให้ชุมชน ต่อมา กลุ่มลูกไม้ สมาชิกกลุ่มนี้ได้มองเห็นถึงความสำคัญของ ลูกสวาด ลูกหมามุ้ยมาร้อยเรียงเป็นเครื่องประดับ จำพวก สร้อยคอ สร้างคอมือ และของตกแต่งบ้าน แสดงออกถึงวิถีชีวิตที่สัมพันธ์กับธรรมชาติได้อย่างแน่นแฟ้น และกลุ่มสุดท้ายคือ ลายเทียนผ้าบาติก โดยกลุ่มนี้ได้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะด้วยการใช้ประโยชน์จากสีธรรมชาติ แสดงออกถึงความผูกพันระหว่างผู้เขียนผ้าบาติกและธรรมชาติได้อย่างนุ่มลึก สามารถสร้างโอกาสให้เยาวชนได้เรียนรู้กับวิชาศิลป์พร้อมๆไปกับการปลูกฝังการรักษ์ธรรมชาติให้เป็นวัฒนธรรมฐานรากของชุมชนต่อไป

mp32-3263-4 ความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศและศิลปะการใช้ชีวิตของชาวบ้านที่มุ่งเน้นการพึ่งพาการอยู่อาศัยที่ดีงามกับธรรมชาติ ทำให้ชุมชนคีรีวงแห่งนี้ได้รับการยกย่องให้เป็นชุมชนต้นแบบในการจัดการธุรกิจท่องเที่ยวเชิงนิเวศ รวมทั้งรางวัล ยอดเยี่ยมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว (Thailand Tourism Award) ประจำปี 2541 ประเภทเมืองและชุมชน และสิ่งหนึ่งที่มหัศจรรย์เมื่อไปเยือนชุมชนแห่งนี้ในทุกครั้งคือ ความเข้มแข็งของภูมิปัญญา ซึ่งแม้ว่า กระแสสังคม วัตถุนิยม และวัฒนธรรมที่หลากหลายต่างไหลลงสู่ดินแดนแห่งนี้ ชาวคีรีวงได้ยึดมั่น ถือมั่น และดูแลรักษาผืนดินแห่งนี้ให้เจริญงอกเงยตามวิถีได้อย่างงดงาม

mp32-3263-3 สำหรับผู้ที่สนใจจนอดใจไม่ไหวที่จะไปเยือนชุมชนแห่งนี้ สามารถศึกษาและหาข้อมูลดีๆ ทั้ง ศูนย์ Otop ชุมชน สถานที่พักจำพวกโฮมสเตย์ ร้านอาหาร และเส้นทางการไปท่องเที่ยวได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยหรือศูนย์การท่องเที่ยวประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช อย่าปล่อยให้ชุมชนแห่งนี้เป็นเพียงเรื่องเล่า ร่วมไปสัมผัสวิถีชีวิตและธรรมชาติกับสถานที่ท่องเที่ยวของไทย ซึ่งเก๋ ไก๋ มีสไตล์ไม่เหมือนใคร

mp32-3263-2 mp32-3263-8 จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,263 วันที่ 21 - 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2560