เทรนด์ใหม่ "ประกันสุขภาพ" พนักงานองค์กร ต้องตอบโจทย์ความคุ้มค่า

03 ต.ค. 2567 | 10:47 น.
อัปเดตล่าสุด :03 ต.ค. 2567 | 12:12 น.

BVTPA ตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าองค์กรเพิ่มอีก 30 รายในปี 2568 เผยแนวโน้มแผนประกันสุขภาพและสวัสดิการ พนักงานในองค์กรยุคใหม่ เน้นการออกแบบเฉพาะเจาะจง ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการสวัสดิการ ในรูปแบบ Self-Insured

นายแพทย์สุธร ชุตินิยมการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บลูเวนเจอร์ ทีพีเอ จำกัด (BVTPA) กล่าวว่า เทรนด์สวัสดิการสุขภาพของพนักงานในปัจจุบัน มีความต้องการแผนสวัสดิการที่หลากหลายและยืดหยุ่นมากขึ้น เนื่องจากมีไลฟ์สไตล์และความคาดหวังที่แตกต่างกันตามช่วงวัย องค์กรที่ต้องการดึงดูดและรักษาบุคลากรที่มีความสามารถ จึงต้องออกแบบแผนสวัสดิการที่ตรงใจพนักงาน สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ เพื่อเพิ่มขวัญกำลังใจ ลดอัตราการลาออก และทำให้พนักงานมีส่วนร่วมกับองค์กรมากขึ้น จากการสำรวจความต้องการด้านสวัสดิการของพนักงานในแต่ละเจเนอเรชัน ดังนี้

Baby Boomers

ต้องการการดูแลสุขภาพที่ครอบคลุม ทั้งการรักษาโรคเรื้อรังและการป้องกันโรค เนื่องจากช่วงวัยนี้เริ่มเผชิญกับปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับอายุ ทำให้การเข้าถึงการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพและการป้องกันโรคมีความสำคัญมาก

Gen X

มองหาสวัสดิการที่ยืดหยุ่นและครอบคลุมทั้งการดูแลสุขภาพของตนเองและครอบครัว รวมถึงการสนับสนุนด้านสุขภาพจิต และโปรแกรมส่งเสริมสุขภาพต่างๆ เช่น การออกกำลังกายและโภชนาการ เพื่อรักษาสมดุลระหว่างการทำงานและการใช้ชีวิตส่วนตัว

Millennials

ชื่นชอบบริการสุขภาพดิจิทัล เช่น การแพทย์ทางไกล (Telemedicine) และแอปพลิเคชันด้านสุขภาพที่สามารถเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการส่งเสริมทักษะด้านต่างๆ และกิจกรรมที่ช่วยป้องกันโรค เช่น การออกกำลังกายหรือกิจกรรมพัฒนาตนเอง

Gen Z

เน้นการดูแลสุขภาพจิต การเข้าถึงบริการสุขภาพที่ยืดหยุ่น และแพลตฟอร์มดิจิทัลที่สะดวกสบาย เช่น แอปพลิเคชันที่สามารถนัดหมายพบแพทย์หรือรับคำปรึกษาออนไลน์ได้ รวมถึงการเข้าถึงข้อมูลสุขภาพส่วนบุคคลได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย

เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการที่หลากหลาย BVTPA จึงพัฒนาบริการ TPA Employee Benefits Management มุ่งเน้นการให้บริการในรูปแบบ Self-Insured ที่องค์กรสามารถออกแบบแผนสวัสดิการ ที่ปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของพนักงานแต่ละกลุ่ม ทั้งด้านสุขภาพกายและสุขภาพจิต โดยพนักงานสามารถใช้บริการได้สะดวกสบายผ่าน TPACare Mobile Application เพื่อตรวจสอบสิทธิประโยชน์ของแผนสุขภาพ, ติดตามสถานะการเคลม, ค้นหาสถานพยาบาลเครือข่าย, พบแพทย์ออนไลน์, และเข้ารับบริการได้ที่เครือข่ายสถานพยาบาลทั่วประเทศโดยไม่ต้องสำรองจ่าย

นายแพทย์สุธร กล่าว่า บริการ TPA Employee Benefits Management ไม่เพียงช่วยให้องค์กรสามารถออกแบบสวัสดิการได้ตามงบประมาณ แต่ยังช่วยควบคุมค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยประมวลผลผ่านระบบและทีมงานผู้เชี่ยวชาญ เพื่อลดภาระงานด้านเอกสารและค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น รวมถึงการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อเสนอแนะการปรับปรุงแผนสวัสดิการ หรือออกแบบโปรแกรมส่งเสริมสุขภาพเพิ่มเติมสำหรับพนักงาน 

เทรนด์ใหม่ "ประกันสุขภาพ" พนักงานองค์กร ต้องตอบโจทย์ความคุ้มค่า บริการนี้ช่วยให้พนักงานเลือกเบิกสวัสดิการได้เองผ่านแผน Flexible Benefits ที่ไม่ได้จำกัดแค่การเบิกค่ารักษาพยาบาล แต่รวมถึงค่าแว่นตา ค่าฟิตเนส ค่าอุปกรณ์กีฬา ค่าเดินทางท่องเที่ยว และอื่นๆ อีกมากมาย พร้อมด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น แพลตฟอร์มสุขภาพออนไลน์ ระบบ e-claim และการพบหมอออนไลน์โดยไม่ต้องสำรองจ่าย ซึ่งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง

“จุดแข็งของบริการ TPA Employee Benefits Management เกิดจากประสบการณ์กว่า 18 ปีของบริษัท บลูเวนเจอร์ ทีพีเอ จำกัด ในเครือ บมจ.บลูเวนเจอร์กรุ๊ป (BVG) คือการเป็นผู้นำด้านบริการ Third Party Administration (TPA) ในอุตสาหกรรมประกันภัยในประเทศไทย ในการให้บริการแก่ลูกค้าองค์กร ผนวกกับความร่วมมือกับเครือข่ายสถานพยาบาลทั่วประเทศ และการพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง เรามุ่งมั่นที่จะยกระดับการบริการให้ลูกค้าของเราได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด และได้เปิดตัวบริการนี้อย่างเป็นทางการในงาน Thailand HR TECH 2024 ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากองค์กรชั้นนำหลากหลายกลุ่ม ปัจจุบันมีลูกค้าด้าน Employee Benefits Management มากกว่า 30 กลุ่มบริษัท ตั้งเป้าขยายฐานลูกค้ากลุ่มนี้ เป็น 60 รายในปี 2568 และ 100 รายภายในปี 2570"

นอกจากบริการบริหารสิทธิประโยชน์พนักงาน (TPA Employee Benefits Management) แล้ว บริษัท บลูเวนเจอร์ ทีพีเอ (BVTPA) ยังมีแผนขยายธุรกิจสู่ตลาดการวางแผนและให้คำปรึกษาด้านสุขภาพ ด้วยการเปิดตัวบริการใหม่ภายใต้ บริษัท บลูเวนเจอร์ เอชซีเอ็ม จำกัด (BVHCM) และบริการนี้จะเป็นการให้บริการช่วยเหลือทางการแพทย์ส่วนบุคคล (Personal Medical Concierge Services) ครอบคลุมทุกขั้นตอนของการดูแลสุขภาพและรักษาพยาบาล ตั้งแต่การให้คำปรึกษาแนะนำทางการแพทย์ การวางแผนการรักษา การจัดการนัดหมาย 

รวมถึงการประสานงานกับสถานพยาบาลต่างๆ ตลอดการดูแลรักษา เน้นกลุ่มเป้าหมายชาวต่างชาติที่ต้องการเข้ารับการรักษาในประเทศไทย (Medical Tourism) และกลุ่มลูกค้าระดับ High-end ที่ต้องการการดูแลรักษาพยาบาลเฉพาะทาง พร้อมพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การบริการที่เหนือกว่า โดยคาดว่าแนวโน้มธุรกิจประกันสุขภาพในประเทศไทยจะมีมูลค่าสูงถึง 1.21 ล้านล้านบาทภายในปี 2569 ซึ่งถือเป็นโอกาสสำคัญในการเติบโตและขยายธุรกิจ