บำรุงราษฎร์ หนุนเวที FNM 2024 แลกเปลี่ยนความรู้แพทย์ระบบประสาท

ภญ. อาทิรัตน์ จารุกิจพิพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เปิดเผยว่า การสนับสนุนการจัดงาน FNM 2024 งานประชุมวิชาการระดับนานาชาติด้านระบบประสาทและการเคลื่อนไหว ของระบบทางเดินอาหารในครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของรพ. ในการพัฒนาการรักษาด้านระบบประสาทและระบบทางเดินอาหารอย่างต่อเนื่อง ซึ่งงานดังกล่าวเป็นการเปิดโอกาสให้บุคลากรทางการแพทย์จากประเทศไทยและทั่วโลก ได้เรียนรู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และสร้างเครือข่ายกับนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญชั้นนำด้านระบบประสาทและระบบทางเดินอาหาร

การจัดงาน FNM 2024 ในประเทศไทย ยังเป็นการยกระดับมาตรฐานด้านสาธารณสุขของประเทศ และสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพจัดงานประชุมระดับนานาชาติ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ มุ่งหวังให้งาน FNM 2024 จะส่งเสริมให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางความเป็นเลิศทางการแพทย์ด้านระบบประสาทและระบบทางเดินอาหารระดับโลก

นพ. สุเทพ กลชาญวิทย์ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านระบบประสาทและการเคลื่อนไหวของระบบทางเดินอาหาร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และหัวหน้าศูนย์เฉพาะทางด้านการทำงานระบบทางเดินอาหาร โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กล่าวว่า สถานการณ์ความรุนแรงของโรคตับในประเทศไทยและต่างประเทศ ซึ่งน่ากังวลอย่างยิ่ง ปัจจัยเสี่ยงที่พุ่งสูงขึ้น ได้แก่

• น้ำหนักตัว: ปัญหาภาวะน้ำหนักเกินและอ้วนพุ่งสูงขึ้น ส่งผลต่อความเสี่ยงในการเกิดโรคตับเรื้อรัง โดยเฉพาะโรคไขมันพอกตับ
• พฤติกรรมการกิน: อาหารรสจัด อาหารแปรรูป อาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง ล้วนเป็นตัวเร่งให้เกิดโรคตับ
• กรดไหลย้อน: โรคกรดไหลย้อนเรื้อรัง ส่งผลต่อระบบย่อยอาหาร กระตุ้นให้เกิดโรคตับ
• สังคมเมือง: วิถีชีวิตเร่งรีบ ขาดการออกกำลังกาย พักผ่อนไม่เพียงพอ ส่งผลต่อระบบเผาผลาญและสุขภาพโดยรวม
• ความเครียด: ส่งผลต่อระบบย่อยอาหาร กระตุ้นให้เกิดโรคตับ

นพ. ยุทธนา ศตวรรษธำรง หัวหน้าศูนย์ทางเดินอาหาร-ตับ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กล่าวว่า โรคระบบทางเดินอาหารและตับเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยและเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย เนื่องจากพฤติกรรมการทานอาหาร สภาพแวดล้อมและการดำเนินชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปของคนในปัจจุบัน ทำให้พบผู้ที่มีอาการผิดปกติหรือเป็นโรคในระบบทางเดินอาหารและตับมากขึ้นทุกปี เช่น โรคกรดไหลย้อน โรคกระเพาะอาหารเรื้อรัง โรคลำไส้แปรปรวน โรคตับ โรคตับอ่อน เป็นต้น

ศูนย์ทางเดินอาหารและตับ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เราตระหนักถึงปัญหา และมุ่งหวังที่จะช่วยรักษาผู้ที่มีอาการหรือมีความผิดปกติในระบบทางเดินอาหารและตับอย่างครอบคลุม ทั้งโรคทั่วไปและโรคที่มีความซับซ้อน ที่ผ่านมา เรามุ่งมั่นพัฒนาตัวเราให้เป็นหนึ่งในใจของคนไทยและคนทั่วโลก

โดยได้พัฒนาการรักษาอย่างต่อเนื่อง ในปี 2565 ศูนย์ทางเดินอาหารและตับ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ร่วมมือกับ ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านระบบประสาทและการเคลื่อนไหวของระบบทางเดินอาหาร คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นศูนย์ที่ให้บริการตรวจและรักษาความผิดปกติของการทำงานของระบบทางเดินอาหารอันดับหนึ่งของประเทศไทยและมีชื่อเสียงระดับโลก เพื่อยกระดับมาตรฐานการรักษาให้ดียิ่งขึ้น

และต่อมาในปี 2566 ศูนย์ทางเดินอาหารและตับ ได้ต่อยอดขยายคลินิกเฉพาะทาง เพื่อพัฒนาการรักษาให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น และทัดเทียมมาตรฐานโลก โดยมีคลินิกเฉพาะทางต่าง ๆ ประกอบไปด้วย คลินิกโรคทางเดินอาหารทั่วไป, ศูนย์เฉพาะทางด้านการทำงานระบบทางเดินอาหาร, ศูนย์ส่องกล้องทางเดินอาหาร, โปรแกรมตับอ่อน, คลินิกพันธุกรรมโรคระบบทางเดินอาหาร, คลินิกโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง, คลินิกโรคตับ และคลินิกไมโครไบโอมแบบบูรณาการ 

การประชุม FNM  จะนำนักวิจัยและแพทย์ที่มีความรู้ความชำนาญเกี่ยวกับโรคทางเดินอาหารทำงานผิดปกติกว่า 1,000 คน จากทั่วโลกมารวมตัวกัน โดยมุ่งหวังที่จะเสริมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการเชื่อมโยงที่ซับซ้อนระหว่างระบบประสาทและระบบทางเดินอาหาร

เพื่อพัฒนานวัตกรรมสำหรับการวินิจฉัยและการรักษาโรคที่เกิดจากทางเดินอาหารทำงานผิดปกติที่คนทั่วไปรู้จักกันดี ได้แก่ โรคกรดไหลย้อน โรคกระเพาะอาหาร ภาวะกระเพาะอาหารเคลื่อนไหวช้า โรคลำไส้แปรปรวน ภาวะท้องผูกเรื้อรัง เป็นต้น ความผิดปกติในระบบทางเดินอาหาร ถือเป็นปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยมากในคนไทยและคนทั่วโลก ซึ่งมีผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นในแต่ละปี ทั้งนี้ เนื่องจากที่ผ่านมามีการแพร่ระบาดของโควิด-19 การประชุม FNM ครั้งที่ 5 จึงถูกเลื่อนจากปี 2565 เป็น 2567

จะจัดขึ้นในกรุงเทพฯ ประเทศไทย ในวันที่ 6-8 พฤศจิกายน 2567 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยในงานจะมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิมากกว่า 100 ท่าน มานำเสนอการค้นพบและผลงานวิจัยล่าสุด ตั้งแต่การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานไปจนถึงการปฏิบัติทางคลินิก มีการประชุมสัมมนาเจาะลึกในหัวข้อที่น่าสนใจ เช่น หัวข้อ ‘การรับประทานอาหารและจุลินทรีย์ในลำไส้มีอิทธิพลต่อการเกิดโรคและการจัดการโรคที่เกิดจากปฏิสัมพันธ์ของสมองและลำไส้อย่างไร’

และ หัวข้อ ‘Asian focus’ ที่รวมประเด็นสำคัญเกี่ยวกับปัญหาด้านการทำงานของระบบทางเดินอาหารในเอเชียและตะวันออกกลาง เป็นต้น ซึ่งผู้เข้าร่วมจะได้เรียนรู้ผ่านมุมมองใหม่ที่สร้างสรรค์ สามารถนำความรู้ไปพัฒนาต่อ และสร้างเครือข่ายที่ยั่งยืนได้ในอนาคต