คนไทยเสียชีวิต "ฮีทสโตรก" เพิ่ม 2 เท่าเทียบปี 66

25 เม.ย. 2567 | 05:30 น.

กรมควบคุมโรค เผยคนไทยเสียชีวีต "ฮีทสโตรก" 30 ราย เพิ่มขึ้น 2 เท่าเมื่อเทียบกับปี 66 แนะ กลุ่มเสี่ยง งด ลด เลี่ยง กิจกรรมกลางแจ้งช่วงที่อากาศร้อนจัด

จากการแถลงข่าว "เกาะติดสถานการณ์โรคและภัยสุขภาพที่เป็นปัญหา" ซึ่งเป็นโรคที่มักเกิดขึ้นในช่วงหน้าร้อน หรือ โรคอื่นที่มีการระบาดเพิ่มขึ้นหลังเทศกาลสงกรานต์ โดย นพ.วีรวัฒน์ มโนสุทธิ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ โฆษกกรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์โรคลมร้อน (Heat stroke)  ช่วงเดือนมีนาคม -เมษายน 2567 ระบุว่า เพียง 2 เดือน พบผู้เสียชีวิตแล้ว 30 ราย เทียบปี 2566 ช่วงเดือนมีนาคม-มิถุนายน  4 เดือนเสียชีวิต 37 ราย ปีนี้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 2  เท่า

สำหรับโรคฮีทสโตรก เกิดจากภาวะร่างกายร้อนจัดจนส่งผลกระทบต่อระบบต่าง ๆ เป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ กลุ่มเสี่ยงเป็นผู้สูงอายุ เด็กเล็กวัยทารกถึงอนุบาลเนื่องจากระบบระบายอากาศในร่างกายยังไม่สมบูรณ์ กลุ่มที่มีโรคเรื้อรังเช่น โรคหัวใจ โรคปอด โรคอ้วน รวมถึงอาชีพเสี่ยงทั้งในกลุ่มคนทำงานกลางแจ้ง ทหาร ตำรวจ และ รปภ. เป็นต้น

ทั้งนี้ นพ.วีรวัฒน์ แนะนำว่า ควรลดกิจกรรมช่วงเวลา 11.00 น.ไปจนถึง 15.00 น. หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง  ถ้าต้องออกไปข้างนอก ให้ดื่มน้ำบ่อยๆ ทุกชั่วโมง  1-2 ชั่วโมงดื่ม 2-4 แก้ว เสียเหงื่อมากดื่มน้ำเกลือแร่เพิ่มขึ้น บางคนไปดื่มแอลกอฮอล์ กาแฟมีคาเฟอีน การระบายความร้อนลดน้อยลง ให้หลีกเลี่ยงช่วงอากาศร้อนจัด สวมเสื้อผ้าระบายความร้อน ระบายอากาศได้ดีมีสีอ่อน

 

คนไทยเสียชีวิต \"ฮีทสโตรก\" เพิ่ม 2 เท่าเทียบปี 66

อย่างไรก็ดี สามารถสังเกตอาการได้ หากหน้ามืด เวียนศีรษะ คลื่นไส้ หายใจเร็วใจสั่นหน้าแดง เหงื่อไม่ค่อยออก เป็นอาการเตือนความเสี่ยงฮีทสโตรก ต้องรีบปฐมพยาบาลเบื้องต้น รีบพาเข้าพักในที่อุณหภูมิเย็น อากาศถ่ายเท ใช้น้ำเย็นหรือน้ำแข็งปะคบตามซอกพับ หน้าผาก คลายเสื้อผ้า ดื่มน้ำถ้ายังมีสติ น้ำเย็น ถ้าไม่มีน้ำธรรมดาเพื่อระบายความร้อน ถ้าหมดสติให้รีบส่งโรงพยาบาลทันที