เปิดคำแนะนำจาก WHO "วัคซีนโควิด 19" ควรใช้อย่างไร เช็คที่นี่

21 พ.ค. 2566 | 02:28 น.

เปิดคำแนะนำจาก WHO "วัคซีนโควิด 19" ควรใช้อย่างไร เช็คที่นี่มีคำตอบ หมอธีระแนะใช้ชีวิตอย่างมีสติ ป้องกันตัวอย่างสม่ำเสมอ ไม่ประมาท ใส่หน้ากากอย่างถูกต้อง จะช่วยลดความเสี่ยงลงไปได้มาก

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ (หมอธีระ) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Thira Woratanarat (ป๊ามี้คีน)" โดยมีข้อความระบุถึงความรู้สำคัญเรื่องวัคซีนจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ซึ่งได้มีการออกแถลงการณ์เกี่ยวกับวัคซีนโรคโควิด-19 เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งมีสาระสำคัญดังนี้

  • ปัจจุบันประชากรโลกมีระดับภูมิคุ้มกันที่หลากหลายมาก เพราะมีทั้งจากที่ได้รับวัคซีนที่แตกต่างกันหลายประเภท และที่เคยมีประวัติติดเชื้อมาก่อน
  • สายพันธุ์หลักที่ระบาดทั่วโลกขณะนี้คือ Omicron สายพันธุ์ย่อย XBB.1 (รวมทั้ง XBB.1.5, XBB.1.16, XBB.1.9) ในขณะที่ข้อมูลจากการสุ่มตรวจสายพันธุ์ไวรัส พบว่าสายพันธุ์ดั้งเดิม และสายพันธุ์อัลฟ่า เบต้า แกมม่า และเดลต้านั้น คาดว่าไม่ได้มีการระบาดในคนแล้ว
  • ไวรัสตระกูล XBB นั้นมีสมรรถนะการหลบหลีกภูมิคุ้มกันได้สูงมาก โดย XBB.1.5 นั้นถือเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ย่อยที่ดื้อต่อภูมิคุ้มกันมากที่สุด
  • ข้อมูลเกี่ยวกับประสิทธิผลของวัคซีนต่อไวรัส Omicron สายพันธุ์ย่อย XBB.1 นั้นมีจำกัด และมีทั้งที่พบว่าได้ผลพอๆ กับ BA.5 และที่พบว่าประสิทธิผลลดลงกว่าตอน BA.5 ระบาด
  • ระดับภูมิคุ้มกันในน้ำเลือด หรือแอนติบอดี้ ของคนที่ได้รับวัคซีน 2-4 เข็ม รวมถึงเข็มกระตุ้นจากวัคซีนสองสายพันธุ์ (Bivalent vaccine) นั้นพบว่า XBB.1 ดื้อต่อภูมิมากกว่าสมัย BA.5 ระบาด ในขณะที่คนที่เคยได้รับวัคซีน และเคยติดเชื้อมาก่อน จะมีระดับภูมิคุ้มกัน (Hybrid immunity) ที่สูงกว่าคนที่ไม่เคยติดเชื้อ 
  • ผลการศึกษาในห้องปฏิบัติการ มีรายงานพบปรากฏการณ์ Immune imprinting ซึ่งหมายถึงการที่ระบบภูมิคุ้มกันระดับเซลล์ ประเภท B-cells มีการจดจำแอนติเจนจากวัคซีนที่ใช้สายพันธุ์เดิม และอาจทำให้การตอบสนองต่อแอนติเจนไวรัสสายพันธุ์ใหม่ได้น้อยลง อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีข้อมูลยืนยันผลกระทบทางคลินิกในชีวิตจริง

เปิดคำแนะนำจาก WHO เกี่ยวกับวัคซีนโควิด 19 ควรใช้อย่างไร

  • ข้อมูลที่ทางบริษัทวัคซีนแชร์ให้กับทางองค์การอนามัยโลก พบว่าการใช้วัคซีนใหม่ ที่ใช้แอนติเจนสายพันธุ์ไวรัส XBB.1 โดยตรง จะกระตุ้นให้เกิดภูมิคุ้มกันในน้ำเลือดได้สูงกว่าวัคซีนเดิมที่ใช้กันในปัจจุบัน

หมอธีระ บอกว่า ข้อสรุปจากทาง WHO นั้นแนะนำว่า ในอนาคตแต่ละประเทศควรพิจารณาใช้วัคซีนที่เป็นแบบสายพันธุ์เดียว (monovalent vaccine) ที่ปรับสายพันธุ์ให้ตรงกับสายพันธุ์ที่ระบาด และไม่ควรใช้วัคซีนที่มีการบรรจุสายพันธุ์ดั้งเดิมซึ่งเป็นรุ่นเก่าด้วยเหตุผลจากข้อมูลวิชาการต่างๆ ข้างต้น แม้ว่าวัคซีนรุ่นเดิมๆ จะยังช่วยลดความรุนแรงของโรคได้ก็ตาม

อย่างไรก็ดี หมอธีระ บอกอีกว่า คำแนะนำข้างต้นคงเป็นข้อเสนอที่ท้าทายสำหรับแต่ละประเทศ ในการนำไปวางแผนจัดการระบบวัคซีนสำหรับประชาชนในระยะยาว
ทิศทางแนวโน้มเรื่องวัคซีนในอนาคตนั้น การฉีดปีละครั้ง และปรับตามสายพันธุ์ที่ระบาดหรือคาดการณ์ว่าจะระบาด คงมีความเป็นไปได้มากที่สุด 
 

แต่ด้วยศักยภาพปัจจุบัน การคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ยังไม่สามารถทำได้อย่างแม่นยำ การปรับวัคซีนให้ตามสายพันธุ์ไวรัสให้ทันจึงท้าทายอย่างยิ่ง 

และที่ท้าทายยิ่งกว่าคือ การผลิต การจัดหา และจัดบริการ ให้ทันกับสถานการณ์ระบาด เพียงแค่สำหรับกลุ่มเสี่ยงต่อการป่วยรุนแรง ก็ทำให้ครอบคลุมได้ยากทีเดียว
ดังนั้น พฤติกรรมการป้องกันตัวระหว่างใช้ชีวิตประจำวันนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่ง 

สำหรับไทยเรา การระบาดยังมีมากภายในประเทศ สิ่งที่ทำได้คือ การใช้ชีวิตอย่างมีสติ ป้องกันตัวอย่างสม่ำเสมอ ไม่ประมาท 

การใส่หน้ากากอย่างถูกต้อง จะช่วยลดความเสี่ยงลงไปได้มาก