"กระทุ่มแบน"วิกฤต โรงงานปล่อยน้ำเสียลงคลอง ชาวบ้านรวมตัวร้องรัฐเอาจริง

19 มี.ค. 2567 | 06:25 น.

ชาวบ้านคลองมะเดื่อ จ.สมุทรสาคร สุดทน น้ำในคลองกระทุ่มแบนเน่าเสีย ส่งกลิ่นเหม็น สาเหตุกลุ่มโรงงานย่านนี้ไม่มีประสิทธิภาพในการบำบัดน้ำทิ้ง รวม 424 รายชื่อยื่นอุตสาหกรรมจังหวัด กำหนดมาตรการแก้ไข

จากกรณีที่นายจิระศักดิ์  สุขสายชล  ตัวแทนกลุ่มฟื้นฟูคลองกระทุ่มแบน  อ.กระทุ่มแบน  จ.สมุทรสาคร  ได้ทำจดหมายลงวันที่ 8 มีนาคม  2567  พร้อมนำรายชื่อของประชาชนจำนวน  424 รายชื่อ เข้ายื่นต่อนายพุทธิกรณ์  วิชัยดิษฐ์  อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร กรณีโรงงาน 3 แห่งที่ตั้งในพื้นที่ หมู่ที่ 4 ต.คลองมะเดื่อ อ.กระทุ่มแบน  จ.สมุทรสาคร  ได้ปล่อยน้ำเสียที่มีกลิ่นเหม็นมาก  ลงในคลองกระทุ่มแบนและคลองสาขาในพื้นที่ ต.คลองมะเดื่อ ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนด้านสุขภาพอนามัย  สุขภาพจิต คุณภาพชีวิต  และสิ่งแวดล้อมที่วิกฤตจากกลิ่นเน่าเหม็นมากของน้ำในคลองกระทุ่มแบน  

"กระทุ่มแบน"สุดวิกฤต โรงงานปล่อยน้ำเสียลงคลอง  ชาวบ้านรวมตัวร้องรัฐเอาจริง

 กระทั่งเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2567 นายบรรพต จันทรวงษ์ นายอำเภอกระทุ่มแบน   ร่วมกับนายพุทธิกรณ์ วิชัยดิษฐ อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง รวมถึงภาคประชาชนผู้เดือดร้อน  ได้เข้าตรวจสอบและประชุมแก้ไขปัญหา กรณีเรื่องร้องเรียน การปล่อยน้ำเสียและส่งกลิ่นเหม็น ของ บริษัทแห่งหนึ่ง
 

คลองยังคงเน่า-เหม็น

จากการตรวจสอบพบว่าระบบบำบัดน้ำเสียของกลุ่มโรงงานดังกล่าวยังไม่มีประสิทธิภาพ  จึงได้มีการประชุมหารือกันเพื่อดำเนินการกับระบบบำบัดน้ำเสียของกลุ่มโรงงานดังกล่าว  ตามข้อสรุปคือ

1.ทางกลุ่มโรงงานและสถานประกอบการขอระยะเวลาในการปรับปรุงระบบน้ำเสียเพิ่มเติม  โดยใช้เวลา 6 เดือน  โดยจะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามแผนระยะเวลาดำเนินการที่วางไว้

2.ในเรื่องของกลิ่นเหม็น-แอมโมเนีย  ให้อ้างอิงจากประกาศกรมควบคุมมลพิษ  โดยระดับ 1 มีเกณฑ์แอมโมเนีย NH3  ที่  30 PPM  ซึ่งข้อสรุปจากการประชุมหารือได้ตกลงว่าหากมีกลิ่นที่จุดระบายน้ำและบ่อข้างโรงงานเกิน  15 PPM  ให้หยุดการระบายน้ำ  โดยทางกลุ่มโรงงานแจ้งยินยอมที่หยุดการระบายน้ำจนกว่าจะแก้ไขปัญหาได้

"กระทุ่มแบน"สุดวิกฤต โรงงานปล่อยน้ำเสียลงคลอง  ชาวบ้านรวมตัวร้องรัฐเอาจริง

3.ทางสถานประกอบการดังกล่าวจะต้องจัดทำป้ายแสดงค่าน้ำในช่วงเวลาต่างๆของทุกวัน  เพื่อแจ้งให้ประชาชนที่อยู่อาศัยใกล้เคียง  ซึ่งได้รับความเดือดร้อน  ให้ได้ทราบถึงสภาพน้ำที่โรงงานปล่อยออกมา

 

ระดมหาทางแก้ไข 

อย่างไรก็ตาม  ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา  ทางกลุ่มไลน์รักษ์คลองกระทุ่มแบน  ของชาวบ้านที่ร้องทุกข์  ก็ยังรายงานถึงปัญหาความเดือดร้อนจากน้ำทิ้งที่มีฟองและกลิ่นเหม็น  อยู่ตลอดเช่นเดิม  โดยขณะนี้ทุกวันชาวบ้านได้บันทึกภาพ VDO และตรวจวัดค่าน้ำ-ตรวจดูสภาพน้ำที่ปล่อยออกมาจากโรงงาน  ทั้งมีการบันทึกภาพที่สงสัยว่าโรงงานที่ถูกร้องเรียน  ทำการลักลอบสูบน้ำที่ยังไม่ได้บำบัดนำทิ้งลงในบ่อพักน้ำสุดท้ายหรือระบายลงคลองสาธารณะ  

ขณะที่นายพุทธิกรณ์  วิชัยดิษฐ อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร  ให้ความเห็นว่า  ด้วยสภาพความจำเป็นในการตรวจคุณภาพน้ำของทางกรมโรงงานอุตสาหกรรม  ต้องใช้เวลานานถึง 15 วัน  จึงจะเข้ามาบังคับใช้กฎหมายควบคุมโรงงานได้  ดังนั้นหากเกิดปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในระยะเร่งด่วน  อาจจำเป็นต้องผนวกอำนาจการใช้กฎหมายของหน่วยงาน อื่นๆ เข้ามาช่วยแก้ปัญหา  เช่น  เทศบาลท้องถิ่นสามารถใช้กฎหมายด้านสาธารณสุข  ได้เลย  เช่นเดียวกับกรมชลประทานที่สามารถใช้กฎหมายในการควบคุมดูแลแหล่งน้ำ  แม่น้ำ  ลำคลอง  เข้ามาดำเนินการได้โดยเร็ว  เช่นกัน

\"กระทุ่มแบน\"วิกฤต โรงงานปล่อยน้ำเสียลงคลอง  ชาวบ้านรวมตัวร้องรัฐเอาจริง

ด้านนายบรรพต  จันทรวงษ์  นายอำเภอกระทุ่มแบน  มอบหมายให้  นายวงศ์มงคล  มั่งมี  กำนันตำบลคลองมะเดื่อ  ร่วมกับภาคประชาชน  ได้แก่ กลุ่มรักษ์กระทุ่มแบนและชาวบ้านกลุ่มรักษ์คลองกระทุ่มแบน  ออกสำรวจปัญหา  พร้อมตรวจเยี่ยมและขอความร่วมมือจากโรงงานต่างๆให้เน้นความสำคัญของการบำบัดน้ำเสีย  และเฝ้าระวัง-พึงคำนึงถึงผลเสียจากการปล่อยน้ำเน่าหรือน้ำทิ้งที่ยังไม่ได้ผ่านการบำบัดตามเกณฑ์มาตรฐาน  ลงในลำคลอง  ซึ่งจะก่อผลร้ายอย่างมากต่อสิ่งแวดล้อมและชีวิตของประชาชนที่อาศัยอยู่ในชุมชนตลอดแนวคลอง  

นายวงศ์มงคล  มั่งมี  กำนันตำบลคลองมะเดื่อ  เปิดเผยว่า  จากการออกสำรวจสภาพคลองกระทุ่มแบนในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2567  ปรากฏว่าได้รับเสียงร้องเรียนจากประชาชนในเขตตำบลคลองมะเดื่อเป็นอย่างมาก  และเมื่อได้พบเห็นสภาพน้ำในคลองกระทุ่มแบน  รวมถึงได้เข้าพบตรวจเยี่ยมโรงงานต่างๆแล้ว  ก็เตรียมเสนอนายบรรพต  จันทรวงษ์  นายอำเภอกระทุ่มแบน  ให้จัดงบประมาณและเร่งแก้ปัญหาเบื้องต้นด้วยการผันน้ำจากแม่น้ำท่าจีนตอนบน  ผ่านคลองสาขา  ลงมาไล่น้ำเสียในคลองกระทุ่มแบน  ให้ไหลไปลงทางคลองสี่วาพาสวัสดิ์  เพื่อดันน้ำเสียให้ไหลไปลงในแม่น้ำท่าจีนตอนล่างต่อไป    

นอก \"กระทุ่มแบน\"วิกฤต โรงงานปล่อยน้ำเสียลงคลอง  ชาวบ้านรวมตัวร้องรัฐเอาจริง จากนั้นการเข้าพบกับโรงงานต่างๆย่านคลองกระทุ่มแบน มีการหารือกันในเรื่องการทำกิจกรรมเพื่อสังคม  ซึ่งเป็นไปได้หรือไม่ที่ทางโรงงานจะหันมาเน้นทำในเรื่องการรักษาสภาพแวดล้อม  การบำบัดน้ำเสีย  และการแก้ปัญหาน้ำเน่าเสียในคลองกระทุ่มแบน  รวมถึงการขอให้โรงงานที่มีมาตรการในการบำบัดน้ำเสียและจัดการปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมได้ดีตามมาตรฐานอยู่แล้ว  ให้รวมกลุ่มกันเพื่อเฝ้าระวังร่วมกับภาคประชาชน  ในการดูแลตรวจสอบ  แจ้งเตือนโรงงานที่ยังละเลยการรักษาสิ่งแวดล้อมหรือทำผิดกฎหมายของกรมโรงงานอุตสาหกรรม  ทำผิดพ.ร.บ.สาธารณสุขของเทศบาลฯ  หรือทำผิดกฎหมายอื่นๆ  ของกรมควบคุมมลพิษ – กรมชลประทาน  หรือทำผิดกฎหมายด้านสาธารณสุข-สิ่งแวดล้อม  ของหน่วยราชการอื่นๆ    ซึ่งเป็นเสมือนการกำกับดูแลกันเองในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมร่วมกับภาคประชาชนในเขตตำบลคลองมะเดื่อ 

ปัญหาน้ำในคลองภาษีเจริญและคลองกระทุ่มแบน  อยู่ในสภาพวิกฤต โดยเฉพาะบางพื้นที่ในเขตตำบลคลองมะเดื่อ  อ.กระทุ่มแบนจ.สมุทรสาคร   นอกจากจะเน่าเสียพร้อมส่งกลิ่นเหม็นสร้างความเดือดร้อน  ก่อปัญหาด้านสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่ตลอดแนวคลองแล้ว  ยังส่งผลกระทบอื่นๆ ให้กับอำเภอกระทุ่มแบนโดยรวม  เช่น  ความเสื่อมโทรมด้านสิ่งแวดล้อม  การขาดโอกาสด้านพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวของชุมชน  ความสกปรกและน้ำเน่าเสีย ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่อื่นๆและภาคส่วนอื่นๆ  ทำให้กระแสการเติบโตทางเศรษฐกิจขาดการเชื่อมโยงมายังชุมชน  

ความน่าสนใจในเรื่องธุรกิจที่อยู่อาศัยและอสังหาริมทรัพย์ลดลง  การย้ายออกของคนในชุมชนมีมากขึ้น  น้ำเน่าและมลพิษเหล่านี้ยังอาจถูกระบายไปสร้างผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ของแม่น้ำท่าจีนและแหล่งน้ำอื่นๆ ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครกับจังหวัดใกล้เคียง  ซึ่งสาเหตุหลักคาดว่าอาจจะเกิดจากปัญหาการปล่อยน้ำเสียออกมาจากโรงงานอุตสาหกรรมที่อยู่ในย่านคลองกระทุ่มแบน  นั่นเอง

ทั้งนี้ ปัญหาความเน่าเสียของน้ำในคลองกระทุ่มแบนและในเขตตำบลคลองมะเดื่อ  ที่นับวันยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น   หากทางราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  ไม่เร่งมาให้ความสนใจและยังล่าช้าในการแก้ไข  ปัญหาเหล่านี้อาจบานปลายกลายเป็นความขัดแย้งที่เป็นข้อพิพาทหนักขึ้น  ระหว่างภาคประชาชนกับผู้ประกอบการโรงงาน  ซึ่งอาศัยอยู่ร่วมกันในชุมชนแห่งนี้