น้ำตาลเปรียบเสมือนยาเสพติดของเด็ก ไม่ต่างจากผู้ใหญ่ที่ดื่มแอลกอฮอล์
แต่ประเด็นที่สำคัญก็คือน้ำตาลนั้นมีอันตรายยิ่งกว่า
นพ.จิรรุจน์ ชมเชย กุมารแพทย์เชี่ยวชาญโรคระบบหายใจ กลุ่มงานกุมารเวชกรรม โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Jiraruj Praise โดยมีข้อความระบุว่า
น้ำตาลฟรุคโตส และ แอลกอฮอล์ ส่งผลต่อ ระบบเผาผลาญของร่างกาย ในระยะยาวที่เหมือนกันก็คือ
จะมีภาวะดื้อต่ออินซูลิน นำไปสู่ความดันโลหิตสูงและเบาหวานชนิดที่ 2 หรือโรคเรื้อรัง ( ncd ) ต่างๆ
ฟรุคโตส >> ทำให้เกิดไขมันเกาะตับ หรือ fatty liver จากนั้นเซลล์ตับจะลดการตอบสนองอินซูลิน เกิดภาวะดื้ออินซูลินตามมา
แอลกอฮอล์ >> กระบวนการจัดการของแอลกอฮอล์ ทำให้เกิดภาวะไขมันเกาะตับ จากนั้นเซลล์ตับจะลดการตอบสนองอินซูลิน เกิดภาวะดื้ออินซูลินตามมา
ที่เคยพูดว่า น้ำตาลฟรุกโตสเนี่ย อาจจะฆ่าเราได้มากกว่าแอลกอฮอล์ นั่นก็เพราะว่า
เราดื่มเหล้า มากถึงจุดหนึ่งเราก็จะเมาแล้วเลิก สลบหลับไป ถ้าไม่แย่ถึงขนาดเป็นโรคติดสุราเรื้อรัง ซึ่งพวกนั้นสร่างเมาก็กินใหม่
แต่ในขณะที่ น้ำตาลฟรุกโตส ความหวานของมัน ทำให้เราเกิดการเสพติด โดยที่ไม่รู้สึกมึนเมา มิหนำซ้ำ ยังรู้สึกสดชื่นที่ได้กินของหวาน และต้องการมันมากขึ้นถี่ขึ้นเรื่อยๆ
ดังนั้น ทางเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และน้ำตาลฟรุกโตส จึงเป็นสิ่งที่ต้องเลิกให้ได้ หรือลดมันให้ได้มากที่สุด
และปัญหาสำคัญ ที่เป็นอุปสรรค ที่ทำให้การ เพิ่มช่วงเวลางดกิน ประสบความล้มเหลว นั่นคือ
"การติดน้ำตาล ติดหวาน" นั่นแหละ