จากกรณี สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สุ่มตรวจพบผลิตภัณฑ์ “โบโลน่าแซนวิช”เลขสารบบอาหาร 10-1-05734-5-0206 ผลิตโดยห้างหุ้นส่วนจำกัด ไส้กรอก ดี.ดี. ซอสเซส พบกรดเบนโซอิกเกินค่าความปลอดภัย อยู่ที่ 2,193 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมนั้น
"ฐานเศรษฐกิจ" พามาทำความรู้จัก“กรดเบนโซอิก” ว่า คืออะไร ทำไมจึงต้องใส่ลงไปในอาหาร และ เมื่อรับประทานเข้าไปแล้ว จะส่งผลเสียอย่างไรต่อร่างกาย
กรดเบนโซอิก คืออะไร
กรดเบนโซอิก และ เกลือเบนโซเอต เป็นวัตถุกันเสียชนิดหนึ่ง มีการนำมาใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2487 นิยมใส่ในอาหารและเครื่องดื่มเพื่อคงสภาพอาหารไม่ให้เน่าเสีย โดยกรดเบนโซอิกจะเข้าไปขัดขวางกระบวนการที่จำเป็นในการดำรงชีพของจุลินทรีย์ ทำให้จุลินทรีย์ไม่สามารถเจริญต่อไปได้
ปริมาณกรดเบนโซอิก ที่อนุญาตให้ใส่ในอาหารแต่ละชนิด
ปริมาณกรดเบนโซอิกที่อนุญาตให้ใส่ได้ไม่เกิน 3,000 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากผักบด ถั่วบด หรือเมล็ดพืชบด แต่ไม่รวมผลิตภัณฑ์ที่ใช้ป้ายขนม เช่น เนยถั่ว
ปริมาณกรดเบนโซอิกที่อนุญาตให้ใส่ได้ไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ได้แก่
ผลิตภัณฑ์ผัก หรือสาหร่ายในน้ำส้มสายชู น้ำเกลือ หรือซีอิ๊ว
ปริมาณกรดเบนโซอิกที่อนุญาตให้ใส่ได้ไม่เกิน 1,000 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ได้แก่
นอกจากนั้น ซุปและซุปใส สามารถใส่ได้ไม่เกิน 500 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ,ขนมหวานที่ทำจากนม สามารถใส่ได้ไม่เกิน 300 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม และ เครื่องดื่มสามารถใส่ได้ไม่เกิน 200 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
ผลของการบริโภคกรดเบนโซอิก
หากรับกรดเบนโซอิก เข้าสู่ร่างกายในปริมาณที่ไม่มากเกินค่ามาตรฐาน ตามปกติร่างกายจะสามารถขับออกได้ทางปัสสาวะ โดยหากรับประทานกรดเบนโซอิก 0.7-1.7 กรัม/วัน ร่างกายจะสามารถขับออกได้ทางปัสสาวะประมาณ 1.0-2.5 กรัม/วัน
หากรับประทานกรดเบนโซอิกมากเกินไป จะทำให้เกิดอาการปวดท้อง ท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน และส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานของตับ และไตลดลง หรืออาจพิการได้ หากสูดดม หรือสัมผัสไอระเหยจะทำให้เกิดการระคายเคืองทางเดินหายใจ และแสบตาได้
ซึ่งตามพ.ร.บ.อาหาร มาตรา 26 ระบุโทษว่า อาหารที่มีสิ่งที่น่าจะเป็นอันตรายแก่สุขภาพเจือปนอยู่ ต้องโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ