สธ.จัดซ้อมแผนตอบโต้ภัยพิบัติอาเซียน ยกระดับมาตรฐานช่วยเหลือร่วม

13 ก.พ. 2568 | 06:45 น.
อัปเดตล่าสุด :13 ก.พ. 2568 | 06:47 น.

"สมศักดิ์" เปิดการฝึกซ้อมแผนตอบโต้ภัยพิบัติด้านการแพทย์ฯ ครั้งที่ 6 พร้อมผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียนและญี่ปุ่น มุ่งสร้างความร่วมมือรับมือภัยพิบัติในภูมิภาค ตามวิสัยทัศน์ One ASEAN, One Response

13 กุมภาพันธ์ 2568 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานพิธีเปิดการประชุมสรุปผลการฝึกซ้อมแผนตอบโต้ภัยพิบัติด้านการแพทย์และสาธารณสุขระหว่างประเทศ ในภูมิภาคอาเซียน ครั้งที่ 6 (The 6th Regional Collaboration Drill) จัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-14 กุมภาพันธ์ 2568 ณ โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ

โดยมีนายทัตสึฮิ นิชิโอกะ รองหัวหน้าคณะผู้แทนทางการทูตและอัครราชทูตผู้แทนถาวรประจำเอสแคป (ESCAP) สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย นายโยสุเกะ โคบายาชิ เลขานุการเอก สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ทีมปฏิบัติการฉุกเฉินทางการแพทย์จากประเทศสมาชิกอาเซียน ผู้บริหารและผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ปัจจุบันภัยพิบัติมีความถี่และความรุนแรงเพิ่มขึ้น เช่น พายุ น้ำท่วม แผ่นดินไหว ภูเขาไฟปะทุ สร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินอย่างมากที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขและสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) ร่วมกับองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) ดำเนินการฝึกซ้อมแผนตอบโต้ภัยพิบัติด้านการแพทย์และสาธารณสุขระหว่างประเทศในภูมิภาคอาเซียนมาตั้งแต่ปี 2559 เพื่อให้สามารถรับมือกับภาวะฉุกเฉินและภัยพิบัติได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

สธ.จัดซ้อมแผนตอบโต้ภัยพิบัติอาเซียน ยกระดับมาตรฐานช่วยเหลือร่วม

สร้างความเข้มแข็งและพัฒนาศักยภาพทีมแพทย์ในการตอบโต้ภัยพิบัติร่วมกันระดับอาเซียนและทีมญี่ปุ่น ซึ่งเป็นไปตามปฏิญญาผู้นำอาเซียนด้านการจัดการภัยพิบัติทางการแพทย์และสาธารณสุข และปฏิญญาอาเซียนหนึ่งเดียวตอบโต้ภัยพิบัติทั้งในและนอกภูมิภาค หรือ One ASEAN One Response ที่เน้นย้ำความสำคัญของความเป็นปึกแผ่น การประสานงานและการลงมือปฏิบัติร่วมกันในการรับมือภัยพิบัติ

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การฝึกซ้อมแต่ละครั้ง ประเทศสมาชิกอาเซียนจะหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพ โดยการฝึกซ้อมแผนฯ ครั้งที่ 6 นี้ ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพดำเนินการ มีการจำลองสถานการณ์เหตุภัยพิบัติขนาดใหญ่ (ระดับ 4) ที่เสมือนจริงที่สุดตั้งแต่กระบวนการที่สนามบิน ทดสอบกระบวนการสำคัญในการรับทีมแพทย์ มีการฝึกซ้อมแผนภาคสนาม 3 จังหวัด 3 พื้นที่ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี และนนทบุรี 

การซ้อมเคลื่อนย้ายลำเลียงผู้ป่วยทางบก น้ำ อากาศ และความร่วมมือกับกองทัพ รวมถึงการกำจัดสารพิษ การประเมินความต้องการด้านสุขภาพ สุขภาพจิต โรคติดต่อ และโรคไม่ติดต่อ ซึ่งนอกจากเป็นการประเมินขีดความสามารถของประเทศไทยในการประสานรับทีมฉุกเฉินต่างชาติในภาวะภัยพิบัติ ยังช่วยพัฒนาความพร้อมของระบบสาธารณสุขและการแพทย์ฉุกเฉินไทยเมื่อเกิดภัยพิบัติ 

สธ.จัดซ้อมแผนตอบโต้ภัยพิบัติอาเซียน ยกระดับมาตรฐานช่วยเหลือร่วม

"การฝึกซ้อมแผนในครั้งนี้ช่วยให้ประเทศไทยและอาเซียนได้เตรียมความพร้อม ฝึกประสานงานเมื่อต้องประสบภัยพิบัติและต้องขอรับความช่วยเหลือจากนานาประเทศ เป็นโอกาสแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และแนวปฏิบัติที่ดีระหว่างประเทศอาเซียน สามารถนำบทเรียนไปพัฒนาประเทศของตนเองให้ดียิ่งขึ้นและร่วมมือกันเผชิญกับภัยพิบัติ

ลดการสูญเสียของประชาชนและสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ต้องขอขอบคุณญี่ปุ่นและประเทศสมาชิกอาเซียนที่ทำให้การฝึกซ้อมในครั้งนี้บรรลุผลสำเร็จ และเกิดความร่วมมือในการบริหารจัดการภัยพิบัติด้านการแพทย์และสาธารณสุขอย่างยั่งยืน" 

สธ.จัดซ้อมแผนตอบโต้ภัยพิบัติอาเซียน ยกระดับมาตรฐานช่วยเหลือร่วม

สำหรับหน่วยงานที่เข้าร่วมฝึกซ้อมแผนครั้งนี้ นอกจากสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ยังมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ สำนักการแพทย์ กทม. ศูนย์เอราวัณ ศูนย์ภัยพิบัติเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรมศุลกากร กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมแพทย์ทหารบก กรมแพทย์ทหารอากาศ WHO ประเทศไทย และ WHO ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

 

สธ.จัดซ้อมแผนตอบโต้ภัยพิบัติอาเซียน ยกระดับมาตรฐานช่วยเหลือร่วม