KEY
POINTS
รศ.นพ. จำรูญเกียรติ ลีลเศรษฐพร แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกและข้อ โรงพยาบาล เอส สไปน์ แอนด์ จอยท์ กล่าวว่า โรคข้อเข่าเสื่อมเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุสูญเสียความคล่องตัว และลดคุณภาพชีวิตอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมหรือตัดสินใจผ่าตัด ไม่ควรขึ้นกับภาพเอกซเรย์เพียงอย่างเดียว แต่ต้องประเมินร่วมกับปัจจัยอื่น ๆ
เช่น แนวขา (ขาโก่ง/ขาแอ่น) สภาพเอ็นรอบข้อ ลักษณะการใช้ชีวิต และโรคประจำตัวของผู้ป่วย เพราะแม้ข้อจะเสื่อมแต่หากผู้ป่วยยังใช้ชีวิตได้ดีหรือมีข้อจำกัดทางการแพทย์ อาจไม่ต้องผ่าตัดทันที ในทางกลับกัน ผู้ที่ปวดมาก เดินลำบาก หรือมีแนวขาผิดรูปชัดเจน การผ่าตัดอาจช่วยคืนคุณภาพชีวิตได้อย่างชัดเจน
1. แบบ UKA (Unicompartmental Knee Arthroplasty) การผ่าเข่าครึ่งข้อ
แนวคิด: เปลี่ยนเฉพาะส่วนที่เสื่อม เก็บโครงสร้างดีไว้ให้มากที่สุด (การผ่าตัดแบบอนุรักษ์ข้อ)
เหมาะกับ: ผู้ที่เสื่อมเฉพาะด้านเดียว เอ็นไขว้หน้ายังแข็งแรง ต้องการความคล่องตัว เช่น ขึ้น–ลงบันได คุกเข่า นั่งพับเพียบ
ข้อดี: แผลเล็ก เจ็บน้อย ฟื้นตัวเร็ว ข้อเคลื่อนไหวใกล้เคียงธรรมชาติ เสียเนื้อกระดูกน้อย
ข้อควรระวัง: ต้องการการวินิจฉัยที่แม่นยำ เพราะการเลือกผู้ป่วยผิดอาจลดประสิทธิผล
2. แบบ TKA (Total Knee Arthroplasty) หรือการผ่าเข่าเต็มข้อ
รศ.นพ. จำรูญเกียรติ กล่าวว่า ในโรงพยาบาล เอส สไปน์ แอนด์ จอยท์ จะนำเทคโนโลยี Robotic-Assisted Surgery มาใช้ทั้งใน UKA และ TKA เพื่อเพิ่มความแม่นยำของการผ่าตัด ซึ่งเทคโนโลยีและการวินิจฉัยที่ถูกต้องคือหัวใจของผลลัพธ์ เพราะการรักษาไม่ใช่เพียงแค่ ‘ผ่า’ แต่คือการคืนคุณภาพชีวิตให้ผู้ป่วยอย่างปลอดภัย