เปิดเวทีเสวนา ตระหนักรู้เรื่องหัวใจ-คุณภาพการนอน ต้นเหตุเสียชีวิตเฉียบพลัน

03 ต.ค. 2568 | 11:38 น.
อัปเดตล่าสุด :03 ต.ค. 2568 | 11:47 น.

เปิดเวทีเสวนา หัวข้อ "พลิกวิกฤต Sudden Death สร้างชีวิตยืนยาวด้วยการดูแลหัวใจและการนอน"ิในงาน Sustainability Expo 2025 (SX 2025) ชี้สาเหตุเสียชีวิตเฉียบพลัน ป้องกันได้ด้วยการหมั่นเช็คอาการหัวใจและคุณภาพการนอน

KEY

POINTS

  • การเสียชีวิตเฉียบพลันมีสาเหตุหลักจากโรคหัวใจและคุณภาพการนอนที่ไม่มีประสิทธิภาพ โดยเกณฑ์อายุผู้มีความเสี่ยงลดลงจาก 45 ปี เหลือ 35 ปี
  • สาเหตุในกลุ่มคนอายุน้อยมักเกิดจากโรคหัวใจทางพันธุกรรม เช่น โรคกล้ามเนื้อหัวใจหนาผิดปกติ และโรคใหลตาย (Brugada) ส่วนในผู้สูงอายุมักเกิดจากไขมันอุดตันในเส้นเลือด
  • ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnea) เป็นภัยเงียบที่ทำให้ร่างกายขาดออกซิเจน และเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้เกิดการเสียชีวิตเฉียบพลันระหว่างนอนหลับได้
  • แพทย์แนะนำให้สังเกตอาการเตือน เช่น แน่นหน้าอก ใจสั่น อ่อนเพลีย หรือมีปัญหาการนอน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและลดความเสี่ยง

พญ.สุรีย์รัตน์ ปันยารชุน อายุรแพทย์โรคหัวใจและหลอดเลือด และ ผศ.นพ.จิรยศ จินตนาดิลก อายุรแพทย์ด้านเวชศาสตร์การนอนหลับ โรงพยาบาลเมดพาร์ค ร่วมเสวนาบนเวทีภายในงาน Sustainability Expo 2025 (SX 2025) ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เมื่อเร็วๆ นี้ ในหัวข้อ "พลิกวิกฤต Sudden Death สร้างชีวิตยืนยาวด้วยการดูแลหัวใจและการนอน" 

พญ.สุรีย์รัตน์ กล่าวว่า การเกิด Sudden Death หรือการเสียชีวิตเฉียบพลัน มีสาเหตุได้ทั้งจากโรคหัวใจ หรือโรคทางสมอง บางรายอาจเสียชีวิตจากภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน (Sudden Cardiac Death) หรือ ภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน (Acute Heart Attack) และเกณฑ์อายุของคนที่มีโอกาสเสียชีวิตแบบฉับพลันก็ต่ำลงจากเดิม 45 ปี เหลือ 35 ปี 

การเสียชีวิตเฉียบพลันในกลุ่มคนอายุน้อย มักเกิดจากโรคทางพันธุกรรม ได้แก่ โรคกล้ามเนื้อหัวใจหนาผิดปกติทั้งห้องซ้ายหรือห้องขวา เซลล์กล้ามเนื้อหัวใจห้องขวาผิดปกติการหลั่งฮอร์โมนผิดปกติ และโรคใหลตาย (Brugada) และ Long QT syndrome  โรคกล้ามเนื้อผนังหัวใจหนาผิดปกติ จะทำให้เกิดการอุดตันเส้นเลือดที่ออกจากหัวใจ บางครั้งทำให้เกิดหัวใจเต้นพลิ้ว และเสียชีวิตฉับพลันได้ 

เปิดเวทีเสวนา ตระหนักรู้เรื่องหัวใจ-คุณภาพการนอน ต้นเหตุเสียชีวิตเฉียบพลัน

“กรณีที่นักกีฬาเสียชีวิตเฉียบพลัน ส่วนมากจะเกิดจากโรคนี้ หากใครที่มีอาการแน่นหน้าอก เหนื่อยหอบ เหนื่อยง่ายเวลาออกแรง ใจสั่นหวิวๆ วิงเวียนศีรษะ หน้ามืด เป็นลม รีบบอกญาติให้ส่งตัวมาพบแพทย์โดยเร็วที่สุด เซลล์กล้ามเนื้อหัวใจห้องขวาผิดปกติ เพราะถูกแทนที่ด้วยเนื้อเยื่อไขมัน หรือพังผืด จะทำให้กระแสไฟฟ้าหัวใจเต้นผิดจังหวะ ซึ่งเราสามารถตรวจหาความผิดปกตินี้ได้จากยีน รวมถึงการหลั่งฮอร์โมนที่ผิดปกติ ทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะตอนออกกำลังกาย และเกิดหัวใจเต้นพลิ้ว (Ventricular Fibrillation) ถ้าเกิน 10 วินาที 20 วินาที ก็เสียชีวิตได้แล้วหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที”

ยังมีที่เรียกว่า โรคใหลตาย (Brugada) มักจะพบในภาคอิสานและคนอายุยังน้อย ซึ่งเกิดจากหัวใจมีเซลล์ผิดปกติ ทำให้คลื่นไฟฟ้าหัวใจผิดปกติ และเสียชีวิตเวลานอน ซึ่งไม่เกี่ยวกับการกินข้าวเหนียว ตามความเชื่อของคนในภาคอิสานแต่อย่างใด แต่เกิดจาก Long QT syndrome หรือภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะที่เกิดจากพันธุกรรม จะทำให้ช่วง QT Interval บนคลื่นไฟฟ้าหัวใจยาวกว่าปกติ จนเสี่ยงต่อการเกิดหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันทำให้หลับตายได้ หากมีอาการใจสั่น วิงเวียนศีรษะ เป็นลมหมดสติบ่อย ควรเจาะเลือดตรวจดูพันธุกรรมเพราะอาจเป็นอาการของโรคนี้ได้ 

สำหรับผู้ป่วยที่มีอายุมากกว่า 45 ปี ถ้าเส้นเลือดหัวใจมีการสะสมของไขมันเลว หรือ LDL จะทำให้เส้นเลือดเปราะบางมาก และเสี่ยงเกิดการฉีกขาดของผนังหลอดเลือด ซึ่งจะส่งผลให้เกิดลิ่มเลือดอุดตันภายในหลอดเลือด และกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ทำให้หัวใจเต้นพลิ้ว เสียชีวิตเฉียบพลัน และอีกสาเหตุของผู้ป่วยในกลุ่มนี้ก็คือ หัวใจวายเรื้อรังที่เกิดจากเส้นเลือดตีบ ทำให้ท้องบวม ขาบวม หายใจหอบเหนื่อย ในที่สุด หัวใจก็ขยายจนทำให้กระแสไฟฟ้าผิดปกติ และเสียชีวิตได้

เปิดเวทีเสวนา ตระหนักรู้เรื่องหัวใจ-คุณภาพการนอน ต้นเหตุเสียชีวิตเฉียบพลัน

ส่วน Rupture AAA โรคที่ผนังของหลอดเลือดแดงใหญ่เอออร์ตาโป่งพองออกมามากกว่าปกติ และเกิดการฉีกขาด แม้จะมีอัตราการเกิดไม่มาก แต่ถ้าเป็นโรคนี้ก็จะทำให้เสียชีวิตได้ภายในหนึ่งชั่วโมง โดยเกิดได้ทั้งเส้นเลือดที่ออกจากหัวใจ เส้นเลือดในทรวงอก หรือเส้นเลือดในช่องท้อง

นอกจากนี้ พญ.สุรีย์รัตน์ กล่าวว่า การนอนไม่ดีก็ทำให้เสียชีวิตได้ แม้คนไทยจะตื่นตัวเรื่องคุณภาพการนอนมากขึ้น แต่ยังไม่ได้ตระหนักถึงการทำ Sleep Test หรือการตรวจการนอนหลับกันอย่างกว้างขวาง ซึ่งการเสียชีวิตกระทันหันระหว่างการนอนหลับคิดเป็น 10-15% ของการเสียชีวิตแบบเฉียบพลัน นั่นหมายความว่า การนอนมีผลต่อการเสียชีวิต

นพ.จิรยศ บอกว่า ถ้านอนไม่ดี ตื่นมาก็จะปวดหัว ไม่สดชื่น ง่วงเหงาหาวนอน รู้สึกเพลีย เหนื่อยล้าตลอดทั้งวัน ถ้าเป็นแบบนี้มากๆ ก็อาจทำให้เกิดปัญหาความเครียด ซึ่งไม่ได้มาจากสภาพจิตใจ แต่อาจจะเกิดจากปัญหาความเครียดที่อยู่ภายในร่างกายก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นคอเลสเตอรอล ความดันโลหิตสูง หรือเบาหวาน ทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องกับความเครียดทั้งสิ้น

เปิดเวทีเสวนา ตระหนักรู้เรื่องหัวใจ-คุณภาพการนอน ต้นเหตุเสียชีวิตเฉียบพลัน

โดยทั่วไปคนเราต้องนอนให้ได้ 6-8 ชม. ถ้านอนตอนกลางคืนไม่พอ ก็ต้องนอนเสริมในเวลากลางวัน เรียกว่า หนี้การนอน แต่บางคนนอนนานทั้งวันทั้งคืนเกิน 8 ชม. ก็ต้องตั้งข้อสงสัยว่า ทำไมร่างกายต้องการเวลานอนมากกว่าปกติ แสดงว่ามีอะไรผิดปกติในร่างกาย

ภัยเงียบจาก Sleep Apnea คือภาวะการหยุดหายใจขณะนอนหลับ เมื่อไหร่ก็ตามที่เราหยุดหายใจ สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ออกซิเจนไม่พอ ขณะที่คาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มขึ้น ทำให้ความเป็นกรดเกิดมากขึ้นภายในร่างกาย อีกทั้ง โซเดียม โปแตสเซียม และแคลเซียมก็ผิดเพี้ยนไป ฉะนั้น คนที่มีภาวะSleep Apnea ก็มีโอกาสที่จะเสียชีวิตเฉียบพลันได้ แต่ไม่ใช่โรคใหลตาย เพียงแต่ Sleep Apnea จะกระตุ้นให้เกิดโรคใหลตายได้ 

ทั้งนี้ มักจะเกิดกับคนอายุ 20-40 ปี และเป็นคนที่ใช้แรงงาน ซึ่งอาจจะเป็นเพราะการพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือการใช้พลังงานมากเกินกว่าที่ร่างกายจะรับได้ คนที่เป็นสโตรค หรือหลอดเลือดในสมองตีบ อาจจะมีภาวะลมชัก ถ้าเกิดขึ้นในเวลากลางคืนแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว ลิ้นจะตกไปอุดตันทางเดินหายใจ ก็ทำให้ขาดออกซิเจนและเสียชีวิตได้ ซึ่งมักจะเกิดขึ้นในช่วงตีหนึ่งถึงตีสี่

นพ.จิรยศ กล่าวว่า การที่จะเกิดการตายเฉียบพลันในระหว่างการนอนหลับ จะต้องมีภาวะปัจจัยเสี่ยงมาก่อน เช่น ผู้ป่วย Sleep Apnea คนอ้วน หรือบางคนไม่อ้วนแต่กรามเล็ก เวลานอนลิ้นจะตกไปอุดกั้นทางเดินหายใจ คนที่เป็นโรคเบาหวาน ความดัน ตับ ไต ทำให้เกิดภาวะความเครียดและส่งผลถึงคุณภาพการนอนได้ วิธีการรักษา เมื่อมีการอุดกั้นทางเดินหายใจ ต้องทำให้ทางเดินหายใจเปิดออกโดยใช้เครื่องช่วยหายใจที่เรียกว่า CPAP (Continuous Positive Airway Pressure) และต้องใช้ทุกวัน แต่ผู้ป่วยจะต้องไปทำ Sleep Study ก่อน ซึ่งตรวจคลื่นไฟฟ้าสมองเพื่อดูว่า การนอนดีแค่ไหน

ทั้งนี้ ปัญหาของคนที่เป็น Sleep Apnea ไม่ได้อยู่ที่นอนน้อยหรือนอนเยอะ แต่อยู่ที่ว่านอนแล้วตื่นบ่อย ซึ่งหมออาจให้ยานอนหลับที่ไม่ทำให้คลื่นสมองเปลี่ยนแปลงไปจากภาวะปกติ ใครที่ต้องการลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตเฉียบพลัน หรือมีอาการน่าสงสัยเกี่ยวกับหัวใจ รวมถึงคุณภาพการนอนหลับ อย่าวางใจ รีบปรึกษาแพทย์และตรวจหาสาเหตุของอาการผิดปกติเหล่านี้แต่เนิ่นๆ จะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตเฉียบพลัน พร้อมกับเพิ่มคุณภาพชีวิตได้