สธ. เคาะหลักสูตรพัฒนาคน รองรับ 1 จังหวัด 1 สถานฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด

14 ส.ค. 2568 | 07:55 น.
อัปเดตล่าสุด :14 ส.ค. 2568 | 07:56 น.

คกก.ขับเคลื่อนการบำบัดรักษาฯ หนุนจัดทำหลักสูตรพัฒนาบุคลากร รองรับ 1 จังหวัด 1 สถานฟื้นฟูสมรรถภาพฯ เผย อัตราการคงอยู่ในระบบบำบัดของผู้ป่วยสมัครใจสูงถึง 79 % พบพื้นที่นำร่องมีความพร้อมเปิดให้บริการแล้ว 8 แห่ง 

14 สิงหาคม 2568 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการดำเนินการขับเคลื่อนการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด ครั้งที่ 1/2568 โดยมี นายชัยชนะ เดชเดโช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข คณะผู้บริหาร และคณะกรรมการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

ในการประชุมครั้งนี้เพื่อแจ้งคำสั่งคณะกรรมการดำเนินการขับเคลื่อนการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด รวมทั้งเป็นเวทีในการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล "No Drugs No Dealers" สู่เป้าหมาย "Zero Drug" อีกทั้งเพื่อยกระดับคุณภาพการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดให้มีประสิทธิภาพและครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

พร้อมกันนี้ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบใน 2 เรื่องสำคัญ ได้แก่ 1.แนวทางการคัดกรองบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ใช้ยาเสพติดและสารเสพติด ของกระทรวงสาธารณสุข ที่สอดคล้องกับสภาพปัญหาและสถานการณ์ยาเสพติดในปัจจุบัน และ 2.หลักสูตรการพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านการบำบัดรักษาและฟื้นฟู เพื่อรองรับโครงการ 1 จังหวัด 1 สถานฟื้นฟูสมรรถภาพพลเมืองจังหวัด ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลเพื่อขยายศักยภาพการรองรับผู้ป่วยยาเสพติดให้มากขึ้น โดยกำหนดให้มีจังหวัดละ 50 เตียง รวม 76 จังหวัด 3,800 เตียง รวมกับที่มีอยู่เดิมอีก 4,355 เตียง เป็น 8,155 เตียง ซึ่งจะสามารถรองรับผู้ป่วยได้ทั้งสิ้น 24,465 ราย

นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังได้รับทราบและติดตามผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ซึ่งในปี 2568 มีผู้เข้ารับการบำบัดรักษายาเสพติด ประมาณ 217,000 ราย เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา ซึ่งมีอยู่ประมาณ 200,000 ราย พร้อมกันนี้ยังได้ขยายศักยภาพรองรับผู้ติดยาเสพติดเพิ่มขึ้นจาก 6,599 เตียง ในปี 2567 เป็น 12,906 เตียง ในปี 2568 อีกทั้งขยาย "มินิธัญญารักษ์" จาก 162 แห่ง เป็น 256 แห่งและเพิ่มสถานฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดจาก 60 แห่งเป็น 84 แห่ง

ผลการดำเนินงาน พบว่า มีอัตราการคงอยู่ของผู้ป่วยยาเสพติดในระบบสมัครใจ หรือRetention Rate สูงถึง 79% ซึ่งหมายถึงผู้ป่วยได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่องและมีคุณภาพตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงการติดตามผล

ขณะที่ความก้าวหน้า 8 จังหวัดนำร่อง 10 หน่วยบริการ ขณะนี้ พร้อมเปิดให้บริการแล้ว 8 หน่วย ได้แก่ อบต.หนองโรง จ.กาญจนบุรี อบต.เสม็ดใต้ จ.ฉะเชิงเทรา อบต.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช อบจ.นราธิวาส จ.นราธิวาส อบจ.หนองคาย จ.หนองคาย อบต.เบตง จ.ยะลา และจะเปิดให้บริการปลายเดือนสิงหาคมนี้ อีก 2 หน่วยบริการ ได้แก่ เทศบาลเมืองท่าข้าม จ.สุราษฎร์ธานี และ เทศบาลเมืองปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช