เปิดรับสมัครดูแลผู้มีภาวะพึ่งพิงกว่า 1.8 หมื่นอัตรากระตุ้นศก.ฐานราก

07 ส.ค. 2568 | 09:00 น.
อัปเดตล่าสุด :07 ส.ค. 2568 | 09:03 น.

"สมศักดิ์" เผยโครงการจ้างงานผู้ช่วยเหลือดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงฯ ให้ค่าตอบแทนสูงสุด 6 พันบาท/เดือน ย้ำเป็นโครงการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากฯ ผ่านการจ้างงานคนในชุมชนไปดูแลกลุ่มผู้ที่มีภาวะพึ่งพิง

7 สิงหาคม 2568 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข และในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) เปิดเผยว่าขณะนี้ได้เริ่มโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจตามแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของรัฐบาลด้วยการจ้างงานผู้ช่วยเหลือดูแลฯ เพื่อดูแลผู้มีภาวะพึ่งพิงในชุมชนโดยให้ได้รับค่าจ้างรายเดือน ๆ ละ 5,000 - 6,000 บาท ตามประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง การสนับสนุนค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงในชุมชน ตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล พ.ศ. 2568

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าว สปสช. ได้รับอนุมัติงบประมาณ วงเงิน 1,115 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้เกิดการจ้างงานผู้ช่วยเหลือดูแลฯ ตามเป้าหมายจำนวน 18,587 คน ที่ผ่านการอบรมหลักสูตรผู้ช่วยเหลือดูแลผู้มีภาวะพึ่งพิงเพื่อให้การดูแลผู้มีภาวะพึ่งพิงอีกกว่า 1 แสนคนทั่วประเทศที่กระจายตัวในชุมชนต่าง ๆ

อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าว จะทำให้ผู้ช่วยเหลือดูแลฯ ได้รับการจ้างงาน มีอาชีพ มีรายได้ ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในชุมชนได้อย่างดี นอกจากนี้ การจ้างผู้ช่วยเหลือดูแลฯ ผ่านโครงการดังกล่าว จะช่วยให้ผู้มีภาวะพึ่งพิงได้รับการดูแลอย่างมีประสิทธิภาพ และได้รับบริการตามเวลามาตรฐานการดูแลมากขึ้น

"ผู้ช่วยเหลือดูแลฯ ที่ผ่านการอบรมตามหลักสูตรผู้ช่วยเหลือดูแลผู้มีภาวะพึ่งพิงของหน่วยงานภาครัฐ จำนวน 70 ชั่วโมง จะได้รับค่าจ้างเดือนละ 5,000 บาท หรือปีละไม่เกิน 6 หมื่นบาทแต่หากผ่านการอบรมหลักสูตร 70 ชั่วโมงขึ้นไป ก็จะได้รับค่าจ้างเดือนละ 6,000 บาท หรือปีละไม่เกิน 7.2 หมื่นบาท

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

โครงการนี้ไม่เพียงช่วยเพิ่มรายได้ให้กับคนในชุมชนและกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่นเท่านั้น หากยังมีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างระบบสาธารณสุขชุมชนให้มีความเข้มแข็งและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นด้วย" นายสมศักดิ์ กล่าว 

นายสมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า โครงการดังกล่าวได้เริ่มแล้วระหว่างนี้อยู่ในขั้นตอนการเปิดรับสมัคร ผู้ช่วยเหลือดูแลฯ สำหรับรายละเอียดในส่วนการจ้างผู้ช่วยเหลือดูแลฯ นั้น ท้องถิ่นจะร่วมกับผู้จัดการการดูแลด้านสาธารณสุข (Care manager : CM) ของหน่วยบริการ

สำรวจผู้มีภาวะพึ่งพิงทั้งรายเดิมและรายใหม่ หากพบว่า ผู้มีภาวะพึ่งพิงยังไม่มีผู้ช่วยเหลือดูแลฯ ให้ดำเนินการจัดหาผู้ช่วยเหลือดูแลฯ ที่มีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขการจ้างและเข้าสู่ระบบการจ้างงานตามนโยบายเพื่อให้การดูแลแก่กลุ่มเป้าหมายและหากพบว่า ผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงในพื้นที่ได้รับการดูแลจากผู้ช่วยเหลือดูแลฯ ครบแล้ว เพื่อให้ผู้มีภาวะพึ่งพิงได้รับการดูแลอย่างครอบคลุมและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ขอให้ท้องถิ่น ประสานกับ CM ในการทบทวนภาระงานของผู้ช่วยเหลือดูแลรายเดิม และปรับตารางการปฏิบัติงาน เพื่อให้สามารถจ้างผู้ช่วยเหลือดูแลฯเพิ่มเติมตามนโยบาย โดยเวลาการดูแลไม่ซ้ำซ้อนกันซึ่งจะทำให้ผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงได้รับการดูแลที่สอดคล้องกับมาตรฐานการให้บริการมากยิ่งขึ้น

"จึงอยากขอเชิญชวนประชาชน ที่เคยผ่านการอบรมหลักสูตรดูแลผู้มีภาวะพึ่งพิงของหน่วยงานภาครัฐได้สมัครเข้าร่วมโครงการนี้ เพราะจะได้รับค่าจ้างรายเดือน และยังได้ทำหน้าที่ดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงในชุมชน เป็นการช่วยเติมเต็มยกระดับสุขภาพให้ชุมชนร่วมกัน" รมว.สาธารณสุข กล่าว

นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช.

ด้าน นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช. กล่าวเสริมว่า สำหรับโครงการจ้างงานผู้ช่วยเหลือดูแลฯ นั้น  สปสช.ได้ออกหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการจ่ายค่าจ้าง ผู้ช่วยเหลือดูแลฯ เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินการจ้างตามโครงการ สำหรับ อบต.และเทศบาล รวมถึงกรุงเทพมหานคร และเมืองพัทยา

ส่วนคุณสมบัติ ผู้ช่วยเหลือดูแลฯ ที่จะเข้าร่วมนั้นจะต้องเป็นคนไทย ผ่านการอบรมหลักสูตรผู้ช่วยเหลือดูแลจากหน่วยงานภาครัฐ ไม่เป็นบุคคลที่ได้รับค่าตอบแทนหรือค่าป่วยการเป็นประจำ ไม่เป็นข้าราชการ พนักงานท้องถิ่น หรือผู้มีเงินเดือนประจำจากรัฐ และไม่เป็นบุคคลซึ่งปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย โดยได้รับค่าตอบแทนหรือค่าป่วยการเป็นประจำ
 
สำหรับประชาชนที่สนใจ และมีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขสามารถสมัครได้ที่ อบต. หรือเทศบาลในพื้นที่ รวมไปถึงสามารถติดต่อประสานไปยัง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล  (รพ.สต.) และโรงพยาบาลประจำอำเภอ (รพช.) ในพื้นที่ซึ่ง อบต.หรือเทศบาลจะทำสัญญาจ้างงานผู้ช่วยเหลือดูแลฯ ตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึงก่อนวันที่ 30 ก.ย. 2568 โดยสัญญาจ้างจะครอบคลุมเวลาจ้างงาน 1 ปีนับตั้งแต่วันที่เริ่มการจ้างงานตามสัญญา และ ผู้ช่วยเหลือดูแลฯ จะได้รับค่าจ้างทุกเดือนผ่านบัญชีธนาคารตามระยะเวลาจ้าง

เปิดรับสมัครดูแลผู้มีภาวะพึ่งพิงกว่า 1.8 หมื่นอัตรากระตุ้นศก.ฐานราก