ข้อมูลจากคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุผู้ที่พร้อมบริจาคโลหิตต้องมีอายุ 17 ปีบริบูรณ์ -70 ปี สุขภาพสมบูรณ์พร้อม หากอายุต่ำกว่านั้นต้องมีเอกสารยินยอมจากผู้ปกครอง โดยการเตรียมตัวบริจาคโลหิต มีดังนี้
ก่อนบริจาคโลหิต
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- ไม่เป็นไข้หวัด หรืออยู่ระหว่างรับประทานยาปฏิชีวนะใดๆ อย่างน้อย 7 วัน
- รับประทานอาหารประจำมื้อก่อนมาบริจาคโลหิต และเลี่ยงการรับประทานอาหารประเภทที่มีไขมันสูง ภายใน 6 ชั่วโมง
- ดื่มน้ำก่อนบริจาคโลหิต 30 นาที ประมาณ 3-4 แก้ว ช่วยลดภาวะการเป็นลมจากการบริจาคโลหิตได้
- งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 24 ชั่วโมง
- งดสูบบุหรี่ 1 ชั่วโมง เพื่อให้ปอดฟอกโลหิตได้
หลังบริจาคโลหิต
- ควรพักรับประทานอาหารว่างและเครื่องดื่มที่เจ้าหน้าที่จัดไว้บริการ และนั่งพักอย่างน้อย 15 นาที ให้ดื่มน้ำมากกว่าปกติ เป็นเวลา 1 วัน
- หากมีอาการเวียนศีรษะคล้ายจะเป็นลม หรือรู้สึกผิดปกติ ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทราบทันที
- หลีกเลี่ยงการขึ้นลงลิฟท์ บันไดเลื่อน อาจทำให้รู้สึกวิงเวียนและเป็นลมได้
- หลีกเลี่ยงการทำซาวน่า หรือออกกำลังกายที่ต้องเสียเหงื่อมากๆ เป็นเวลา 24 ชั่วโมง หลังการบริจาคโลหิต
- ผู้ที่ทำงานปีนป่ายที่สูง หรือทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักรกล ควรหยุดพัก 1 วัน
- รับประทานอาหารตามปกติ
- รับประทานธาตุเหล็กบำรุงโลหิต พร้อมกับเครื่องดื่มที่มีวิตามินซีสูง เช่น น้ำส้ม น้ำฝรั่ง หรือน้ำมะเขือเทศ
อย่างไรก็ตาม การบริจาคโลหิตหรือบริจากเลือดจะต้องให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ก่อนเข้ารับบริจาค เพื่อความปลอดภัยทั้งผู้ให้และผู้รับ