เผยผลการศึกษา "กัญชา” ทางเลือกรักษาปัญหานอนไม่หลับ มีทั้งข้อดี-ข้อเสีย

01 ก.ค. 2568 | 06:20 น.
อัปเดตล่าสุด :01 ก.ค. 2568 | 06:24 น.

สมาคมโรคจากการหลับแห่งประเทศไทย งัดผลการศึกษา การใช้กัญชาในการรักษาปัญหานอนไม่หลับ มีทั้งข้อดี ข้อเสีย และข้อควรระวัง

สมาคมโรคจากการหลับแห่งประเทศไทย  เผยผลการศึกษา การใช้กัญชาในการรักษาปัญหานอนไม่หลับ จากคุณสมบัติและความคิดเห็นต่อการใช้กัญชาต่อปัญหานอนไม่หลับ พบว่า

ปัญหาการนอนไม่หลับเป็นหนึ่งในปัญหาสุขภาพที่หลายคนต้องเผชิญในปัจจุบัน และยิ่งในยุคที่การนอนหลับถูกบั่นทอนจากความเครียด การทำงานหนัก และความวิตกกังวล การค้นหาวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพจึงกลายเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

หนึ่งในทางเลือกที่กำลังได้รับความสนใจในขณะนี้คือการใช้กัญชา เพื่อบรรเทาปัญหาการนอนไม่หลับ โดยเฉพาะสารสกัดจากกัญชา เช่น สาร delta-9-tetrahydrocannabinol (THC) และ cannabidiol (CBD)

คุณสมบัติของกัญชาต่อปัญหานอนไม่หลับ


สาร THC ซึ่งเป็นสารสำคัญที่พบในกัญชา มีฤทธิ์ที่ทำให้เกิดความผ่อนคลาย ลดความวิตกกังวล และทำให้ผู้ใช้รู้สึกเคลิบเคลิ้ม เมื่อ THC เข้าสู่สมองจะจับกับ cannabinoid receptor (CB) ซึ่งเป็นตัวรับสัญญาณที่มีอยู่ในสมอง โดยสามารถลดความตึงเครียดและทำให้การนอนหลับง่ายขึ้นในระยะสั้น

อย่างไรก็ตาม ผลของ THC ในระยะยาวกลับเป็นสิ่งที่น่ากังวล เนื่องจากเกิดภาวะทนยา (tolerance effect) ซึ่งทำให้ผลการนอนหลับลดลง ทำให้ต้องใช้ปริมาณเพิ่มขึ้นเพื่อให้ได้ผลที่เหมือนเดิม หรืออาจเกิดอาการประสาทหลอนในบางกรณี

เผยผลการศึกษา "กัญชา” ทางเลือกรักษาปัญหานอนไม่หลับ มีทั้งข้อดี-ข้อเสีย

ในส่วนของสาร CBD ถึงแม้ว่าจะมีฤทธิ์ทางจิตประสาทน้อยกว่าสาร THC แต่ก็มีบทบาทสำคัญในการช่วยลดความวิตกกังวลและกระตุ้นการนอนหลับ โดยมีการวิจัยที่พบว่า CBD สามารถลดระยะเวลาในการเข้าสู่การนอนหลับ (sleep latency) ได้เร็วขึ้น ในขณะที่การใช้ในขนาดสูงอาจช่วยให้หลับได้ง่ายขึ้น ลดการตื่นตัวขณะหลับ และเพิ่มระยะเวลาการหลับ

ข้อดีและข้อเสียของการใช้กัญชาในการนอนหลับ


แม้ว่าจะมีงานวิจัยหลายชิ้นที่ชี้ให้เห็นว่ากัญชาสามารถช่วยให้การนอนหลับดีขึ้น โดยช่วยให้เข้าสู่การนอนหลับได้เร็วขึ้นและยืดระยะเวลาในการหลับได้ แต่ยังมีข้อเสียที่ต้องระวัง เพราะการใช้กัญชาสำหรับนอนหลับในระยะยาวอาจทำให้คุณภาพการนอนหลับแย่ลง และเมื่อหยุดใช้จะเกิดภาวะขาดกัญชา (cannabis withdrawal) ที่ทำให้การนอนหลับยากขึ้น นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงที่ผู้ใช้จะต้องพึ่งพากัญชาต่อไปเรื่อย ๆ เนื่องจากผลกระทบจากการทนยาและการเสพติด

งานวิจัยที่มีในปัจจุบันยังมีคุณภาพต่ำถึงปานกลาง และหลายชิ้นมีข้อจำกัดในด้านจำนวนผู้เข้าร่วมวิจัยและการขาดกลุ่มควบคุม ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ยังไม่สามารถสรุปเป็นมาตรฐานได้ ดังนั้น การใช้กัญชาเพื่อรักษาปัญหานอนไม่หลับยังคงเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ

การใช้กัญชา: ควรพิจารณาหรือไม่?


แม้กัญชาจะมีฤทธิ์ที่สามารถช่วยบรรเทาปัญหานอนไม่หลับได้ในบางกรณี แต่ก็มีข้อควรระวังในการใช้ เนื่องจากความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ในระยะยาว ทั้งในเรื่องของการเสพติดและผลข้างเคียงทางจิตประสาทที่อาจเกิดขึ้น ผู้ที่มีปัญหาการนอนไม่หลับควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือแพทย์ก่อนใช้กัญชาเป็นทางเลือกในการรักษา เพื่อประเมินความเสี่ยงและประโยชน์ที่อาจได้รับจากการใช้กัญชาในการรักษาปัญหาการนอนไม่หลับ

โดยสรุปแล้ว แม้กัญชาจะมีคุณสมบัติที่อาจช่วยในการปรับปรุงการนอนหลับ แต่ก็ยังไม่มีการรับรองจากวงการแพทย์และยังต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อยืนยันถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการใช้เป็นทางเลือกการรักษาปัญหานอนไม่หลับอย่างแท้จริง

การพิจารณาการใช้กัญชาในการรักษาปัญหานอนไม่หลับจึงต้องระมัดระวังอย่างมากและควรได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ในระยะยาว