น.ส.นิรมล ราศรี ผู้อำนวยการสำนักสร้างเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า สสส.ร่วมกับองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จังหวัดระยอง สถาบันการเรียนรู้ของคนทุกช่วงวัย จังหวัดระยอง (RILA) ชุมชนสัมฤทธิ์ ชุมชนก้นปึก ชุมชนริมน้ำท่าเกตุ กลุ่มหนังใหญ่ วัดบ้านดอน จังหวัดระยอง พร้อมด้วยสถาบันอาศรมศิลป์ และกลุ่มอรุณอินสยาม
ดำเนินโครงการ วางผังแม่บทเมืองสุขภาวะเพื่อรองรับชีวิตวิถีสุขภาวะ ผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมของ อปท.และชุมชน จังหวัดระยอง เพื่อขับเคลื่อนจังหวัดระยองสู่ “ต้นแบบเมืองสุขภาวะแห่งการเรียนรู้” ใน 4 พื้นที่
ได้แก่ เทศบาลนครระยอง ในโครงการพัฒนาโครงข่ายพื้นที่สีเขียวระดับเมือง เช่น ป่าชายเลนพระเจดีย์กลางน้ำ, เทศบาลตำบลเนินพระ กับโครงการป่าชุมชนมีชีวิต เช่น ป่าชุมชนตำบลเนินพระ, เทศบาลเมืองมาบตาพุด ในโครงการพัฒนาคลองน้ำหู และเทศบาลตำบลทับมา พัฒนาต้นแบบศูนย์การเรียนรู้ชุมชนสุขภาวะบ้านสะพานหิน และวัดทับมา
ทั้งนี้ เพื่อใช้ศักยภาพของพื้นที่สีเขียวทางธรรมชาติในพื้นที่ละแวกบ้าน พัฒนาให้เป็นโครงข่ายพื้นที่สุขภาวะวิถีใหม่ เชื่อมต่อไปยังพื้นที่สีเขียวบริเวณใกล้เคียงแห่งอื่นๆ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาคนในพื้นที่ขาดการมีกิจกรรมทางกายที่เหมาะสมและเพียงพอ
นำไปสู่การลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคไม่ติดต่อ ( NCDs) โดยชุมชนสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้ง่ายด้วยแนวคิด “สุขภาพหนึ่งเดียว และเมืองกระฉับกระเฉง” เพื่อไปสู่ชุมชนสุขภาวะ 5 ด้าน ได้แก่ สภาพแวดล้อมที่ดี อาหารดี ชีวิตกระฉับกระเฉงด้วยการมีกิจกรรมทางกาย การเข้าถึงบริการสุขภาพ และเป็นชุมชนที่เข้มแข็งภายใต้พื้นที่ทางกายภาพ เช่น สวนสาธารณะและนันทนาการ
น.ส.นิรมล กล่าวว่า ขณะเดียวกัน สสส. ยังได้ร่วมกับกลุ่มอรุณอินสยาม สนับสนุนโครงการเสริมสร้างศักยภาพกลุ่มกลไกพลเมือง เพื่อพัฒนาชุมชนรอบรู้สุขภาพด้วยกิจกรรมพื้นที่สุขภาวะ ใน 4 ชุมชนของจังหวัดระยอง
ได้แก่ ชุมชนสัมฤทธิ์ กลุ่มเย็นเซ โครงการสถานีสุขภาพ กินผักเป็นยา ลดเวลาหาหมอ ชุมชนก้นปึก โครงการเปลี่ยนป่าช้า สร้างป่าเพื่อชุมชน ชุมชนริมน้ำท่าเกตุ โครงการศาลาสุขภาวะริมน้ำท่าเกตุ และกลุ่มหนังใหญ่วัดบ้านดอน โครงการเชิดหนังใหญ่ ใส่ใจสุขภาพ
"ความสำเร็จของโครงการฯ เกิดขึ้นจากกลยุทธ์การขับเคลื่อนผ่านกลไกพลเมือง ซึ่งจะต้องมาจากความต้องการที่แท้จริงของชุมชน สสส.ต้องเรียนรู้จากชุมชน ให้เขาเป็นกองหน้าคิดเองว่าต้องการอะไร ปัญหาสุขภาพอะไรที่ต้องเร่งแก้ไข เพราะเป็นเจ้าบ้านต้องรู้ปัญหาดีกว่าเราซึ่งเป็นคนนอก จึงไม่นำโครงการที่ชุมชนไม่ต้องการเข้าไปเพราะไม่เกิดความยั่งยืน
เราเป็นเพียงกองหนุน เอาองค์ความรู้ด้านวิชาการไปเสริมเพื่อพัฒนาความคิด โดยไม่ทิ้งอัตลักษณ์ชุมชนและวิถีชีวิตดั้งเดิม ขยายผลเป็นพื้นที่ต้นแบบ เพื่อนำไปใช้กับพื้นที่สุขภาวะแห่งอื่นทั่วประเทศต่อไป"
นายยิ่งยง ปุณโณปถัมถ์ กรรมการผู้จัดการสตูดิโอชุมชน สถาบันอาศรมศิลป์ กล่าวว่า จากประสบการณ์ทำงานที่ผ่านมาค้นพบว่า กระบวนการทำงานสำคัญ จะเริ่มจากโจทย์ความต้องการพัฒนาพื้นที่ของชุมชน ความสำเร็จของโครงการและมีความยั่งยืน จะต้องถูกขับเคลื่อนโดยคนในชุมชนและหน่วยงานท้องถิ่น ในขณะที่สตูดิโอชุมชน เป็นเพียงผู้ช่วยทำหน้าที่ทำให้ชุมชนเห็นภาพฝัน ที่ชุมชนต้องการจะเป็นอย่างเป็นรูปธรรมเท่านั้น
“วิธีการดึงการมีส่วนร่วมนี้จะเป็นพลังในการทำงาน ช่วยให้ชาวบ้านก็จะช่วยในสิ่งที่เขาทำได้ เหมือนลงขันสิ่งที่ตัวเองทำได้ มันเป็นการออกแบบเมืองจากล่างขึ้นบน โดยใช้วิธีการต่อจิ๊กซอว์จากแต่ละจุดของแต่ละชุมชน แต่ละท้องถิ่น แล้วเอามาเชื่อมโยงกันเป็นภาพรวมของเมือง ผมว่ามันมีพลวัตในการขับเคลื่อนมากกว่า เป็นความร่วมมือจากหน่วยงานเล็กไปเชื่อมจุดใหญ่”
น.ส.อัญชัญ แกมเชย กลุ่มอรุณอินสยาม กล่าวว่า ตลอดการดำเนินโครงการกับชุมชนตลอด 4 ปีที่ผ่านมาถูกขับเคลื่อนด้วยกลไกพลเมือง ผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมของคนในชุมชนทุกขั้นตอนจนไปสู่ผลสำเร็จและยั่งยืน ตั้งแต่การพูดคุย ค้นหาปัญหาและความต้องการแก้ไขอย่างแท้จริง เกิดการรวมกลุ่ม การออกแบบและพัฒนาพื้นที่สุขภาวะละแวกบ้านด้วยชุมชนเอง
ทำให้ชุมชนเกิดองค์ความรู้ และพัฒนาเครื่องมือและกลไกการขับเคลื่อนด้วยชุมชนเอง จนสามารถต่อยอดไปสู่โครงการด้านสุขภาพอื่นๆ แตกต่างจากองค์กรอื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่เน้นการออกแบบโครงการและนำเข้าพื้นที่เลย โดยไม่ได้ค้นหาความต้องการที่แท้จริงของชุมชน ทำไม่เกิดการใช้ประโยชน์และโครงการไม่ยั่งยืน
“เราเชื่อมั่นในศักยภาพของคนตัวเล็ก เพียงแต่ต้องมีกระบวนการสร้างเสริมศักยภาพและองค์ความรู้ด้านสุขภาวะและกิจกรรมสุขภาวะให้เพิ่มขึ้น เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตด้วยพลังพลเมืองให้ยั่งยืน”