ดร. อุรชา รักษ์ตานนท์ชัย ผู้อำนวยการศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) สวทช. กล่าวว่า โครงการสร้างคุณค่าผลิตภัณฑ์สมุนไพรสู่ตลาดใหม่มูลค่าสูง เป็นโครงการค้นหาผู้ประกอบการที่สนใจ ร่วมพัฒนาผลงานวิจัยสารสกัดสมุนไพรมูลค่าสูง กิจกรรมภายใต้ SF สารสกัดสมุนไพร ซึ่งเป็น 1 ใน 4 Strategic Focus (SF) หรือกลไกการผลักดันเทคโนโลยียกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน จากการกำหนดแนวทางขับเคลื่อนเชิงกลยุทธ์ เพื่อผลักดันให้เกิดการพัฒนาต่อยอดการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยนาโนเทคในวงกว้าง
โดยนาโนเทคเล็งเห็นถึงความสำคัญและโอกาสทางธุรกิจ จากการใช้ประโยชน์สมุนไพร ซึ่งไทยเป็นประเทศที่มีจุดแข็งในด้านวัตถุดิบ และภูมิปัญญาการใช้สมุนไพรเพื่อการดูแลสุขภาพ ในขณะที่ยังต้องเผชิญข้อจำกัดที่มีผลต่อการทำตลาดทั้งในและต่างประเทศ อาทิ ความไม่แน่นอนของวัตถุดิบในตลาดที่มีความแปรปรวน ความไม่คงที่ของปริมาณสารสกัด ส่งผลให้ไทยยังขาดดุลเรื่องมูลค่าการนำเข้าและส่งออกสมุนไพร เป็นโอกาสในการนำความเชี่ยวชาญทางด้านนาโนเทคโนโลยีเข้ามาช่วยยกระดับสู่ผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงจากสมุนไพรไทย
“นาโนเทค มีความเชี่ยวชาญด้านนาโนเทคโนโลยีเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์สมุนไพรตลอดห่วงโซ่คุณค่า เริ่มตั้งแต่กระบวนการสกัดสู่สารสกัดที่มีปริมาณสารสำคัญสูง มาตรฐานการสกัด เทคโนโลยีการกักเก็บและห่อหุ้ม การพัฒนาสูตรตำรับ การผลิตอนุภาคนาโนและเครื่องสำอางในระดับกึ่งอุตสาหกรรม ตลอดจนแพลตฟอร์มการวิเคราะห์ทดสอบฤทธิ์ทางชีวภาพ ประสิทธิภาพ และความปลอดภัย ที่ตอบโจทย์ทั้งภาคอุตสาหกรรมและความต้องการจากผู้บริโภค”
เมื่อผสานกับแนวโน้มปัจจุบัน ที่โลกกำลังก้าวเข้าสู่ยุคที่นวัตกรรมและองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ จะกลายเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และหนึ่งในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพสูงในระดับโลกคือ ผลิตภัณฑ์สมุนไพรและผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มสูง (High Value Added Product – HVA)
นอกจากนี้ ในช่วงปีที่ผ่านมานาโนเทคทำงานร่วมกับผู้ประกอบการเอกชนจากหลายอุตสาหกรรม ในกลุ่มที่มีการใช้ประโยชน์สมุนไพร โดยมีภาคเอกชนที่ร่วมกับนาโนเทคพัฒนาและต่อยอดเทคโนโลยีด้านสมุนไพร กว่า 31 โครงการ
หนึ่งในนั้นคือ ผู้ประกอบการที่ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีเชิงพาณิชย์ในกลุ่มสารสกัดจากกระชายดำที่มีปริมาณสารสำคัญสูง ซึ่งมีศักยภาพในการผลักดันสารสกัดดังกล่าวไปสู่บริษัทชั้นนำในตลาดโลกกว่า 10 ประเทศ ซึ่งหลังจากนี้ นาโนเทคเองก็คาดหวังให้กิจกรรมความร่วมมือนี้ เป็นโครงการนำร่องเพื่อเป็นกลไกในการสนับสนุนผู้ประกอบการที่เข้าร่วมงานในวันนี้และอนาคตต่อไป
ด้าน นางศันสนีย์ ฮวบสมบูรณ์ รองผู้อำนวยการนาโนเทค สวทช. กล่าวว่า โครงการสร้างคุณค่าผลิตภัณฑ์สมุนไพรสู่ตลาดใหม่มูลค่าสูง เป็น 1 ใน กลไกการสนับสนุนผู้ประกอบการของนาโนเทคที่เรามุ่งสนับสนุนการวิจัย พัฒนา และช่วยแก้ปัญหา (Solution Provider) ให้กับผู้ประกอบการในภาคการผลิตและบริการ ในทุกภาคส่วน ผ่านบริการต่างๆ
อาทิ การร่วมวิจัย รับจ้างวิจัย และการให้คำปรึกษา เพื่อให้ผู้ประกอบการมีขีดความสามารถในการนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปพัฒนากระบวนการผลิตสินค้าและบริการ ที่จะช่วยให้ผลประกอบการดีขึ้น จนเกิดความตระหนักถึงประโยชน์ของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในระยะยาว และนำไปสู่การทำวิจัยและพัฒนาเพิ่มมากขึ้น
“กรอบงานวิจัยในกลุ่มสมุนไพรและสารสกัดมูลค่าสูง สามารถตอบสนองให้กับหลากหลายอุตสาหกรรม ครอบคลุมถึงกลุ่มสุขภาพและความงาม อาหารเสริม และกลุ่มสุขภาพสัตว์เลี้ยง ซึ่งเป็นตลาดที่มีการเติบโตสูงในปัจจุบัน โดยต้องการผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมเกษตร เครื่องสำอาง เวชสำอาง ผลิตภัณฑ์สมุนไพรเพื่อสุขภาพและสารสกัดสมุนไพร ที่สนใจร่วมพัฒนาผลงานวิจัยสารสกัดสมุนไพรมูลค่าสูง เพื่อขยายผลการใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์”
โดยผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับต้นแบบสารสกัดสมุนไพรเพื่อนำไปทดสอบตลาดและวิเคราะห์ช่องว่างของอุตสาหกรรมทั้งในและต่างประเทศ และได้รับสิทธิพิเศษในการยกเว้นค่าธรรมเนียมสำหรับสิทธิบัตรในการผลิตต้นแบบ และสิทธิประโยชน์อื่นๆ
ทั้งนี้ โครงการจะสร้างคุณค่าผลิตภัณฑ์สมุนไพรสู่ตลาดใหม่มูลค่าสูง เฟ้นหาผู้ประกอบการที่มีความพร้อมและศักยภาพ พิจารณาจากแบบประเมินศักยภาพด้านการผลิตและการตลาดและแผนธุรกิจเบื้องต้น ที่แสดงความเป็นไปได้ในการพัฒนาสารสกัดสมุนไพรต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ โดยผู้ประกอบการที่ผ่านการพิจารณาคัดเลือกจะมีทีมผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษา ในการพัฒนาสารสกัดต้นแบบมูลค่าสูง ร่วมกับนักวิจัยจากนาโนเทค สวทช. อย่างใกล้ชิด ด้วยนาโนเทคโนโลยีและมาตรฐานการผลิตที่ได้มาตรฐาน
นางศันสนีย์ กล่าวว่า ความคาดหวังจากกิจกรรมนี้คือ การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าจากพืชสมุนไพรภายในประเทศ ทำให้เกิดการผลักดันและขับเคลื่อนการใช้ประโยชน์สมุนไพรทั้งสารสกัดและอนุภาค เพื่อสร้างระบบนิเวศ (ecosystem) ของสารสกัดสมุนไพรมูลค่าสูงที่สามารถผลิตขายและได้มาตรฐานได้ในประเทศ สามารถสร้างงาน สร้างผลกระทบและก่อให้เกิดการหมุนเวียนในประเทศ ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่มีคุณภาพสูงได้ตามมาตรฐานสากล และตอบโจทย์ความต้องการของตลาดศักยภาพ
เช่น ตลาดผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ (Wellness Market) ตลาดเครื่องสำอางธรรมชาติ (Natural Cosmetics) และตลาดยาแผนโบราณมาตรฐานสูง (Traditional Medicine)
สำหรับภาคเอกชนที่สนใจ โครงการนี้มี 8 ผลงานพร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยี สามารถสมัครภายในวันที่ 30 เมษายน 2568 นี้ ไม่ว่าจะเป็น