บิทคับ กรุ๊ป บุกตลาด Longevity จัด StayGold Meetup สร้างสังคมรักสุขภาพ

10 มี.ค. 2568 | 09:45 น.
อัปเดตล่าสุด :10 มี.ค. 2568 | 09:55 น.

บิทคับ กรุ๊ป เปิดเวที เตรียมความพร้อมคนไทยรับเทรนด์สุขภาพใหม่อย่าง Longevity หรือการมีอายุที่ยืนยาว ซึ่งเป็นเทรนด์ใหม่ที่เริ่มได้รับความสนใจมากขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา

บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด จัดงาน “StayGold Meetup” งานสัมมนาด้านสุขภาพและเทคโนโลยีเกี่ยวกับการใช้ชีวิตเพื่อให้มีอายุที่ยืนยาว ในหัวข้อ “The Longevity Revolution 2025” เพื่อเปิดพื้นที่แลกเปลี่ยนความรู้สำหรับเตรียมความพร้อมคนไทยรับเทรนด์สุขภาพใหม่อย่าง Longevity หรือการมีอายุที่ยืนยาว

บิทคับ กรุ๊ป บุกตลาด Longevity จัด StayGold Meetup สร้างสังคมรักสุขภาพ

ซึ่งเป็นเทรนด์ใหม่ที่เริ่มได้รับความสนใจมากขึ้นในช่วง 2-3 ปีมานี้

งาน StayGold Meetup ของบิทคับ กรุ๊ป จัดขึ้นครั้งแรก โดยได้รวมตัวอินฟลูเอนเซอร์สายสุขภาพแนวหน้าของประเทศมาร่วมแบ่งปันแนวทางดูแลสุขภาพในหลากหลายด้าน นำทีมโดย

บิทคับ กรุ๊ป บุกตลาด Longevity จัด StayGold Meetup สร้างสังคมรักสุขภาพ

- ท๊อป จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด

- หมอฟรัง นรีกุล เกตุประภากร แพทย์, KOL และเจ้าของธุรกิจ

- หมอท๊อป นันทพล พงศ์รัตนามาน แพทย์และเจ้าของช่อง Doctor Top Channel

- แม็กซีน อินทิพร แต้มสุขิน เจ้าของช่อง Maxdicine Channel

นอกจากนี้ ภายในงานนำเสนอนวัตกรรมด้านสุขภาพให้ผู้ร่วมงานได้สัมผัสประสบการณ์ตรวจสุขภาพเบื้องต้นด้วยเครื่องวัดมวลกล้ามเนื้อและองค์ประกอบร่างกาย พร้อมคำแนะนำโดยผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันสุขภาพและความงามตรัยญา รวมถึงการตรวจแมะ (การจับชีพจรของแพทย์แผนจีน) และคำแนะนำการดูแลสุขภาพแบบทางการแพทย์แผนจีน จากปราชญา เวลเนส สหคลินิก อีกด้วย

จากคนที่ไม่เชื่อเรื่อง Work Life Balance สู่การลงทุน 5 ล้านบาทเพื่อกู้คืนสุขภาพ

ท๊อป จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด เผยที่มาของการจัดงานสัมมนา StayGold Meetup ที่โฟกัสให้ความสำคัญกับคำว่า “Longevity” หรือหนทางสู่การมีอายุที่ยืนยาว ซึ่งไม่ได้หมายถึงแค่การมีอายุยืนเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการมีสุขภาพแข็งแรง มีความสุข และมีคุณภาพชีวิตที่ดีในระยะยาวด้วย โดย Health span หรือช่วงชีวิตที่มีสุขภาพดีนั้น สำคัญยิ่งกว่า Life span หรือช่วงชีวิตโดยรวมเสียอีก

บิทคับ กรุ๊ป บุกตลาด Longevity จัด StayGold Meetup สร้างสังคมรักสุขภาพ

เบื้องหลังของงานในครั้งนี้คือประสบการณ์ที่เจอกับตัวของ ท๊อป จิรายุส ที่เปิดเผยว่าตลอดชีวิตการทำงานที่ผ่านมา เขาเป็นหนึ่งในคนที่ไม่เคยเชื่อเรื่อง Work Life Balance แต่ความจริงได้เปลี่ยนไปเมื่อสุขภาพเริ่มส่งสัญญาณเตือน จนตัดสินใจหันมาทุ่มเทให้กับการดูแลตัวเองอย่างจริงจัง ซึ่งได้ลงทุนไปมากกว่า 5 ล้านบาทกับการดูแลสุขภาพของตัวเอง ไม่ใช่แค่การกินอาหารคลีนหรือออกกำลังกายทั่วไป แต่เพราะมี Bryan Johnson นักธุรกิจเทคโนโลยีชื่อดังผู้ทุ่มเงินกว่า 2 ล้านเหรียญต่อปีเพื่อศึกษาการชะลอวัย เป็นแรงบันดาลใจสำคัญ ที่ส่งอิทธิพลให้ ท๊อป จิรายุส ก้าวเข้าสู่วงการ Health Tech และการดูแลสุขภาพตั้งแต่หัวจรดเท้า ตั้งแต่การบำรุงสุขภาพผม, การทำ Thermage FLX (เทคโนโลยียกกระชับใบหน้าแบบไร้เข็ม), Aura Ring (แหวนอัจฉริยะติดตามคุณภาพการนอน), Whoop (นาฬิกาวัดพลังชีวิตและการฟื้นฟูร่างกาย), Egg Sleep (เตียงอัจฉริยะที่ปรับอุณหภูมิให้เหมาะกับร่างกายเพื่อการนอนที่มีประสิทธิภาพสูงสุด) ฯลฯ 

เผยแนวทางสู่การมีอายุยืนยาวในยุค 2025

ไฮไลท์สำคัญของงาน คือ ช่วงเสวนา “Forever Forward: The Longevity Revolution 2025” ที่ชวนผู้มีความรู้สายสุขภาพมาแชร์ทริคของการมีอายุยืนยาวอย่างมีคุณภาพร่วมกัน โดย ท๊อป จิรายุส เริ่มต้นด้วยกฎ 6 ข้อ หรือ “6 Power Laws” ที่ตนได้มาหลังจากหันมาใส่ใจสุขภาพอย่างจริงจัง ซึ่งมี 6 เรื่อง ดังนี้

1.การพักผ่อน - การนอนหลับอย่างมีคุณภาพเป็นรากฐานสำคัญของสุขภาพที่ดี

2.การเลือกทานอาหาร - การเน้นโภชนาการที่สมดุลและตรงกับความต้องการของร่างกาย

3.การออกกำลังกาย - การหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

4.การดื่มน้ำ - การดื่มน้ำที่เพียงพอต่อวัน คือ หัวใจสำคัญของกระบวนการเมตาบอลิซึมที่ดี

5.การมีสังคมที่ดี - ความสัมพันธ์ที่มีคุณภาพช่วยเพิ่มความสุขและอายุขัยที่ยืนยาว

6.การสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม - ปัจจัยภายนอกที่ส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว

นอกจากนี้ ยังมีการพูดถึงบทบาทของเทคโนโลยี AI และ Quantum Computing ที่กำลังเข้ามาปฏิวัติวงการ Health Care อย่างมาก โดยมีการคาดการณ์ว่าคนที่อายุต่ำกว่า 40 ปีในปัจจุบัน จะมีโอกาสอยู่ถึง 120 ปี หากรู้จักการดูแลสุขภาพอย่างถูกวิธีเลยทีเดียว

ด้าน หมอฟรัง นรีกุล จะเน้นการผสมผสานความรู้ทางการแพทย์เข้ากับไลฟ์สไตล์ โดยแนะนำให้เริ่มจากการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ ที่ทำได้จริง พร้อมย้ำว่า "ธรรมชาติไม่ใช่คำตอบของทุกสิ่ง" หลายคนมักเข้าใจว่าสิ่งที่มาจากธรรมชาติมักจะดี ปลอดภัย และมีประโยชน์ อย่างเช่น ความเชื่อที่ว่า “ไขมัน” เป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง หากเราศึกษาเพิ่มเติมแล้วจะพบว่า ไขมันมีทั้งชนิดดีและชนิดเลว สิ่งที่เราต้องทำคือ การเลือกรับประทานให้ถูกต้องและอย่างพอประมาณ ดังนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การศึกษาให้ดี และพิจารณาว่าเหมาะสมกับ Lifestyle ของเราหรือไม่ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อสุขภาพของตัวเราเอง

ส่วน แม็กซีน Maxdicine ได้แบ่งปันแนวคิดสำคัญ "You aren't what you eat but you are what you digest." คุณไม่ได้เป็นแค่สิ่งที่กินเข้าไป แต่เป็นสิ่งที่ร่างกายย่อยและนำไปใช้ได้จริงต่างหากที่สำคัญ พร้อมแนะนำให้เริ่มต้นวันด้วยการเขียนสิ่งที่จะทำลงในสมุด แทนการหยิบมือถือ ภายใต้แนวคิด "Small Act But Big Impact" เพื่อเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกินและการออกกำลังกายจากสิ่งง่าย ๆ ให้ร่างกายได้ปรับตัว

สำหรับแพทย์สายสุขภาพ หมอท๊อป เพจ Doctor Top มากับแนวคิดพื้นฐานที่สำคัญที่สุดอย่าง "ยาที่ดีที่สุดคือยาที่เราไม่ต้องกิน" และสุขภาพที่ดีต้องออกแบบให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคล พร้อมทิ้งท้ายด้วยคำคมว่า "เวลาที่ดีที่สุดในการเริ่มดูแลสุขภาพคือเมื่อ 20 ปีที่แล้ว แต่เวลาที่ดีที่สุดรองลงมาคือตอนนี้" ดังนั้น ยังไม่สายเกินไปที่ทุกคนจะหันมาดูแลสุขภาพกัน