แอบดูคนอาบน้ำจะเป็น “ตากุ้งยิง” ความเชื่อผิดๆ ที่ถูกต้องสาเหตุเกิดจากอะไร

26 ธ.ค. 2568 | 22:58 น.

ความเชื่อผิดๆที่ว่า แอบดูคนอาบน้ำจะเป็น “ตากุ้งยิง” แท้จริงแล้ว เกิดจากสาเหตุใด อาการเป็นอย่างไร และวิธีรักษาคืออะไร

KEY

POINTS

  • ความเชื่อที่ว่าตากุ้งยิงเกิดจากการแอบดูคนอาบน้ำนั้นไม่เป็นความจริง
  • สาเหตุที่แท้จริงคือการอักเสบติดเชื้อแบคทีเรียของต่อมไขมันบริเวณเปลือกตา ซึ่งมักเกิดจากการใช้มือที่ไม่สะอาดสัมผัสหรือขยี้ตา
  • ตากุ้งยิงไม่ใช่โรคติดต่อ สามารถป้องกันได้โดยการรักษาความสะอาดและหลีกเลี่ยงการขยี้ตา และรักษาเบื้องต้นด้วยการประคบอุ่น

“ตากุ้งยิง” ไม่ใช่โรคติดต่อ และไม่ได้เกิดจากการแอบดูคนอาบน้ำ ดังเช่นที่คนสมัยก่อนพูดไว้ จึงถือเป็นความเชื่อที่ผิด สาเหตุของ “ตากุ้งยิง” เกิดจากเปลือกตาไม่สะอาด ขยี้ตา ฝุ่นละออง  ใส่หรือถอดคอนแทคเลนส์ด้วยมือที่ไม่สะอาดเท่าที่ควร ใช้เครื่องสำอางแล้วล้างออกไม่หมด หรือจากการขยี้ตาจนทำให้ต่อมไขมัน ที่เปลือกตาอักเสบ

นายแพทย์ไพโรจน์ สุรัตนวนิช รองอธิบดีกรมการแพทย์  กล่าวว่า ตากุ้งยิงเป็นโรคที่พบได้บ่อย เป็นการอักเสบของต่อมไขมันที่เกิดบริเวณเปลือกตา ซึ่งจะสังเกตได้จากการที่มีตุ่มแดงนูนขึ้นที่เปลือกตา มักจะมีอาการปวดร่วมด้วยในบางคนอาจจะมีอาการตาแดง หรือน้ำตาไหล

ตากุ้งยิงส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย Staphylococcus aureus ซึ่งเป็นเชื้อที่พบได้บนผิวหนังของคนปกติอยู่แล้ว ในภาวะปกติ เชื้อนี้จะไม่ได้ก่อให้เกิดโรคอะไร แต่ถ้าหากเชื้อนี้เข้าไปสู่ภายใต้ผิวหนัง จะทำให้เกิดการติดเชื้อขึ้นซึ่งจะแสดงออกมาในรูปแบบของ ตุ่ม ฝี หนอง รวมถึงตากุ้งยิงด้วย

โรคตากุ้งยิงโดยทั่วไปแบ่งออกเป็น 3 ประเภท

1.External hordeolum  เกิดการอักเสบของต่อมไขมันเป็นตุ่มหนองที่บริเวณเปลือกตาด้านนอกซึ่งเป็นตุ่มหนอง แดง และเจ็บ

2.Internal hordeolum  เกิดการอักเสบของต่อมไขมันเป็นตุ่มหนองที่บริเวณเปลือกตาด้านใน ซึ่งเป็นตุ่มนูนแดง และเจ็บ

3.Chalazion  เป็นการอักเสบเรื้อรังของต่อมไขมันบริเวณเปลือกตา ซึ่งจะมีลักษณะนูนแข็ง และกดไม่เจ็บ

แอบดูคนอาบน้ำจะเป็น “ตากุ้งยิง”  ความเชื่อผิดๆ ที่ถูกต้องสาเหตุเกิดจากอะไร

ด้านนายแพทย์กิตติวัฒน์  มะโนจันทร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) กล่าวเสริมว่า ในส่วนของอาการของตากุ้งยิง เมื่อเกิดอาการตากุ้งยิง เริ่มแรกจะมีอาการเจ็บ ๆ คัน ๆ บริเวณเปลือกตา ต่อมาจะเริ่มบวมแดง และจะเริ่มรู้สึกปวดบริเวณเปลือกตา หากกดลงไปบริเวณก้อนจะรู้สึกเจ็บ จะเริ่มเห็นเป็นหัวฝีหรือหัวหนองภายใน 4-5 วัน

หลังจากนั้นหนองจะแตก และยุบไป ในกรณีที่หนองออกไม่หมดจะเกิดเป็นก้อนแข็งเป็นไตที่เปลือกตา ซึ่งจะค้างอยู่เช่นนั้นเป็นเวลานานและอาจจะกลับมาอักเสบขึ้นอีกได้เป็นครั้งคราว แต่หากมีอาการปวดมาก และแนวโน้มอาการไม่ดีขึ้นมีอาการบวมแดงเป็นบริเวณกว้าง มีอาการตาพร่า หรือมองเห็นไม่ชัดขควรพบแพทย์และในกรณีดังกล่าวเหล่านี้ แพทย์อาจจะให้ยาปฏิชีวนะหรือใช้เข็มเจาะตุ่มฝี เพื่อระบายหนองออก

แพทย์หญิงอรวีณัฏฐ์  นิมิตรวงศ์สกุล  หัวหน้าศูนย์ตาปลอม กล่าวเพิ่มว่า ตากุ้งยิงเป็นการอักเสบของต่อมไขมันที่เปลือกตา ซึ่งมักจะเกิดในคนที่ขยี้ตาบ่อย ๆ เจอฝุ่นละอองสกปรกเข้าตามาก ๆ และมาขยี้หรือจับตา เหมือนเด็ก ๆที่ชอบจับแก้มแล้วสิวขึ้นซึ่งสามารถเป็นแล้วเป็นอีกได้หากไม่ระวังและรักษาความสะอาดของมือก่อนที่จะมาสัมผัสตา 

คนไข้ที่เป็นภูมิแพ้ที่คันตาบ่อย ๆ หรือ นอนดึก อดนอน ระคายเคืองตา ขยี้ตาก็ทำให้เป็นตากุ้งยิงได้บ่อย เวลาเป็นก็สามารถเป็นได้ทั้งเปลือกตาเลย คือบน ล่าง ซ้าย ขวา อาจเป็นได้พร้อมกันได้

การรักษา เมื่อเริ่มมีอาการจะเริ่มมีการบวมแดง เจ็บ ๆ เคือง ๆ ของเปลือกตา แนะนำให้รีบประคบอุ่นบ่อย ๆ อาจจะใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่น หรือ เจลร้อน เป็นต้น และห้ามขยี้ตาและใช้ยาหยอดหรือยาฆ่าเชื้อแบบทาน ในบางรายอาจไม่จำเป็นต้องใช้ยาสามารถหายเองได้ หากได้รับการดูแลอย่างถูกวิธี

แต่หากไม่รีบประคบและขยี้ตาอีก และปล่อยให้บวมอักเสบจนขึ้นมาเป็นเม็ดแล้ว โดยมากมักไม่หายต้องมาเจาะเอาหนองออก ถ้าไม่เจาะ บางรายหายได้เองแบบหายสนิท แต่บางรายหายแล้วเป็นไตเป็นเม็ดเหมือนสิวอุดตัน ซึ่งใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะหาย ตากุ้งยิงไม่ใช่โรคติดต่อ เพราะฉะนั้นการป้องกันไว้ไม่ให้เกิดย่อมดีกว่า คือ หลีกเลี่ยงการสัมผัสเปลือกตาด้วยมือที่ไม่สะอาด และไม่ควรขยี้ตา การดูแลรักษาเปลือกตา ด้วยการประคบอุ่น เช็ดฟอกเปลือกตาทุกวันช่วยป้องกันการเป็นตากุ้งยิงได้