สัตว์เลี้ยงป่วยเรื้อรังเพิ่ม "สเต็มเซลล์" ถูกจับตาเป็นทางเลือกใหม่ยุค Pet Parenting

22 ธ.ค. 2568 | 09:05 น.
อัปเดตล่าสุด :22 ธ.ค. 2568 | 09:45 น.

สัตว์เลี้ยงถูกดูแลเหมือนสมาชิกครอบครัว ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพจึงไม่ใช่เรื่องเล็ก โรคเรื้อรังและโรคเสื่อมเพิ่มขึ้นตามอายุ ทำให้นวัตกรรม “สเต็มเซลล์” ถูกจับตาเป็นทางเลือกใหม่ยุค Pet Parenting

KEY

POINTS

  • พฤติกรรมการเลี้ยงสัตว์แบบ “Pet Parenting” ทำให้สัตว์เลี้ยงมีอายุยืนยาวขึ้น แต่ก็ส่งผลให้มีจำนวนสัตว์ป่วยด้วยโรคเรื้อรังและโรคเสื่อมตามวัยเพิ่มสูงขึ้น
  • นวัตกรรม "สเต็มเซลล์" กำลังเป็นทางเลือกใหม่ในการรักษา โดยมุ่งเน้นการฟื้นฟู ลดการอักเสบ และชะลอความเสื่อมของอวัยวะ เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของสัตว์เลี้ยง
  • ผลการรักษาในสัตว์เลี้ยงพบว่ามีศักยภาพสูง โดยช่วยให้สุนัขที่เป็นโรคข้อเสื่อมเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น และแมวที่เป็นโรคไตเรื้อรังมีค่าการทำงานของไตดีขึ้น

การดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยงในประเทศไทยกำลังเปลี่ยนผ่านจากการรักษาเมื่อเจ็บป่วย ไปสู่แนวคิดการดูแลเชิงป้องกันและฟื้นฟูมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มสัตว์เลี้ยงที่มีอายุยืนยาวขึ้นตามพฤติกรรมการเลี้ยงแบบ “Pet Parenting” ซึ่งมองสัตว์เลี้ยงเป็นสมาชิกในครอบครัวมากกว่าสัตว์เพื่อความเพลิดเพลิน

ในบริบทนี้ นวัตกรรมด้านการแพทย์ทางเลือกอย่าง “สเต็มเซลล์” เริ่มถูกนำมาประยุกต์ใช้กับสัตว์เลี้ยงอย่างจริงจังมากขึ้น ล่าสุด PetGeneX ธนาคารสเต็มเซลล์สำหรับสัตว์เลี้ยง ร่วมกับสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) และบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) จัดเวทีเสวนาเพื่อนำเสนอองค์ความรู้ด้านการใช้สเต็มเซลล์ในสัตว์เลี้ยง ซึ่งสะท้อนทิศทางใหม่ของการดูแลสุขภาพสัตว์ในประเทศไทย

ข้อมูลจากเคทีซีระบุว่า ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2568 สมาชิกบัตรมีการใช้จ่ายในหมวดสัตว์เลี้ยงรวมกว่า 730 ล้านบาท เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากปีก่อนหน้า ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนว่าการดูแลสัตว์เลี้ยงไม่ได้จำกัดอยู่แค่ค่าอาหารหรือการรักษาพื้นฐาน แต่ขยับไปสู่การลงทุนด้านสุขภาพในระยะยาวมากขึ้น

น.สพ.ชัยยศ ธารรัตนะ อาจารย์ประจำคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุว่า ปัจจุบันกว่า 1 ใน 3 ของครัวเรือนไทยมีสัตว์เลี้ยง และมีค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพสัตว์เฉลี่ยปีละหลายหมื่นบาท ส่งผลให้ตลาดสัตว์เลี้ยงไทยมีมูลค่ากว่า 60,000–70,000 ล้านบาทต่อปี อย่างไรก็ตาม อายุที่ยืนยาวขึ้นของสัตว์เลี้ยงก็มาพร้อมกับการเพิ่มขึ้นของโรคเรื้อรังและโรคเสื่อมตามวัย ซึ่งต้องได้รับการดูแลต่อเนื่องและมีต้นทุนสูง บางกรณีค่าใช้จ่ายอาจสูงถึงหลักแสนบาทต่อปี

กลุ่มโรคที่พบบ่อยในสัตว์เลี้ยงสูงวัย ได้แก่ โรคระบบกระดูกและข้อ เช่น ข้อเสื่อมและหมอนรองกระดูกเสื่อม โรคไตและระบบขับถ่าย โรคตับและระบบทางเดินอาหาร โรคผิวหนังและภูมิแพ้ โรคระบบประสาท รวมถึงโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่สัมพันธ์กับอายุ เช่น เบาหวานและโรคหัวใจ ซึ่งล้วนส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของสัตว์เลี้ยงในระยะยาว

สัตว์เลี้ยงป่วยเรื้อรังเพิ่ม "สเต็มเซลล์" ถูกจับตาเป็นทางเลือกใหม่ยุค Pet Parenting

ท่ามกลางข้อจำกัดของการรักษาแบบเดิม นวัตกรรมสเต็มเซลล์จึงถูกมองว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะในแง่การฟื้นฟู ลดการอักเสบ และชะลอความเสื่อมของอวัยวะ สเต็มเซลล์เป็นเซลล์ต้นกำเนิดที่สามารถซ่อมแซมเนื้อเยื่อและปรับสมดุลการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ปัจจุบันจึงถูกนำมาใช้เป็นการรักษาเสริมในสัตว์ที่มีโรคเรื้อรังหรือภาวะเสื่อมตามวัย

PetGeneX ให้บริการจัดเก็บและเพาะเลี้ยงสเต็มเซลล์จากสัตว์เลี้ยงโดยตรง ภายใต้มาตรฐานห้องปฏิบัติการระดับสากล โดยใช้เซลล์ของสัตว์เลี้ยงเองเป็นหลัก ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงด้านการต่อต้านทางภูมิคุ้มกัน และสามารถนำมาใช้ซ้ำได้ในอนาคตตามความเหมาะสม

ดร.พงศกร กันหอม นักวิจัยด้านเทคโนโลยีชีวภาพ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี อธิบายว่า ในเชิงการแพทย์ สเต็มเซลล์ชนิด Mesenchymal Stem Cells (MSCs) มีบทบาทสำคัญในการลดการอักเสบเรื้อรังและช่วยฟื้นฟูเนื้อเยื่อที่เสียหาย งานวิจัยและการใช้งานจริงในสัตว์เลี้ยงพบว่ามีศักยภาพในการช่วยบรรเทาอาการของโรคข้อเสื่อม โรคไต ตับ รวมถึงการบาดเจ็บของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ทั้งนี้ ผลลัพธ์ของการรักษายังขึ้นอยู่กับชนิดโรค สภาพร่างกาย และระยะเวลาที่เริ่มการรักษา

ข้อมูลจากการติดตามผลการรักษาระบุว่า สุนัขที่มีโรคข้อเสื่อมมากกว่า 70% มีการเคลื่อนไหวดีขึ้น และลดการพึ่งพายาแก้ปวด ขณะที่แมวที่เป็นโรคไตเรื้อรังราว 50–60% มีค่าการทำงานของไตดีขึ้นภายใน 3–6 เดือน ส่วนในกลุ่มโรคผิวหนังและภูมิแพ้ อาการคันและการอักเสบมีแนวโน้มลดลงภายใน 1–2 เดือนหลังการรักษา

สัตว์เลี้ยงป่วยเรื้อรังเพิ่ม "สเต็มเซลล์" ถูกจับตาเป็นทางเลือกใหม่ยุค Pet Parenting

ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการ NIA ระบุว่า การเชื่อมโยงภาครัฐ เอกชน และนักวิจัย เป็นกลไกสำคัญในการสร้างระบบนวัตกรรมที่ตอบโจทย์คุณภาพชีวิตของสังคม

ขณะเดียวกัน มุมมองจากผู้ใช้จริงสะท้อนให้เห็นอีกด้านหนึ่งของนวัตกรรมนี้ เจ้าของสัตว์เลี้ยงที่เลือกใช้การรักษาด้วยสเต็มเซลล์จำนวนหนึ่งระบุว่า แม้จะไม่ใช่การรักษาที่ทำให้โรคหายขาด แต่ช่วยให้สัตว์เลี้ยงกลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เคลื่อนไหวได้มากขึ้น และมีพฤติกรรมใกล้เคียงกับช่วงวัยที่แข็งแรงกว่าเดิม

การบำบัดด้วยสเต็มเซลล์ควรถูกมองเป็น “เครื่องมือเสริม” ทางการแพทย์ ไม่ใช่ปาฏิหาริย์ และต้องอยู่ภายใต้การประเมินของสัตวแพทย์อย่างเหมาะสม อย่างไรก็ตาม การพัฒนานวัตกรรมด้านนี้สะท้อนว่าการดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยงในประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่มิติใหม่ ที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตและการอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืนระหว่างคนกับสัตว์เลี้ยงมากขึ้นในระยะยาว