อย.ยกระดับสุขภาพลดโรค NCDs หลังฉุดเศรษฐกิจกว่า 1.6 ล้านล.

20 ธ.ค. 2568 | 08:10 น.
อัปเดตล่าสุด :20 ธ.ค. 2568 | 08:10 น.

อย.เดินหน้ายกระดับสุขภาพคนไทย มุ่งลดโรค NCDs ผ่่านมาตรการเชิงรุก หลังฉุดเศรษฐกิจเสียหายกว่า 1.6 ล้านล้านบาทต่อปี

KEY

POINTS

  • โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) สร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจให้ประเทศกว่า 1.6 ล้านล้านบาทต่อปี
  • กระทรวงสาธารณสุขและ อย. จึงมุ่งเน้นการป้องกันเชิงรุก โดยส่งเสริมให้ประชาชนลดการบริโภคอาหารรสหวาน มัน เค็ม
  • อย. ขับเคลื่อนการใช้สัญลักษณ์โภชนาการ "ทางเลือกสุขภาพ" (Healthier Choice) เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำตาล ไขมัน และโซเดียมในปริมาณที่เหมาะสมได้ง่ายขึ้น

นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการยกระดับการดูแลสุขภาพของประชาชน เนื่องจากประเทศไทยกำลังเผชิญหน้ากับมหันตภัยเงียบที่ชื่อว่าโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือ NCDs จากรสชาติอาหารหวาน มัน เค็ม 

ซึ่งไม่เพียงแต่ทำลายสุขภาพของคนไทย แต่ยังส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและระบบสาธารณสุขของประเทศ คิดเป็นความสูญเสียทางเศรษฐกิจกว่า 1.6 ล้านล้านบาทต่อปี 

ทั้งนี้ รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขจึงไม่ได้มองเรื่องนี้เป็นเพียงแค่การรักษา แต่กำลังมุ่งเน้นที่การป้องกันเชิงรุก

อย.ยกระดับสุขภาพลดโรค NCDs หลังฉุดเศรษฐกิจกว่า 1.6 ล้านล.

โดยดำเนินการผ่านมหกรรมผลิตภัณฑ์ทางเลือกสุขภาพ (Healthier Choice Expo) ร่วมกับภาคีเครือข่ายสุขภาพและผู้ประกอบการปลุกกระแสปรับพฤติกรรมลดหวาน มัน เค็ม

“กิจกรรมดังกล่าวเปรียบเสมือนเข็มทิศที่จะช่วยนำทางให้ผู้บริโภคสามารถตัดสินใจเลือกสิ่งที่มีประโยชน์เข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้น ท่ามกลางวิถีชีวิตที่เร่งรีบ โดยเชื่อว่าการเริ่มต้นปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินเพียงเล็กน้อยจะเป็นจุดเปลี่ยนที่นำไปสู่สังคมไทยที่แข็งแรงและยั่งยืนในอนาคต”

เภสัชกรหญิงสุภัทรา บุญเสริม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า สถานการณ์โรค NCDs เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นจากพฤติกรรมการบริโภค อย. จึงมุ่งขับเคลื่อนการใช้สัญลักษณ์โภชนาการทางเลือกสุขภาพ (Healthier Choice)

ซึ่งพัฒนาร่วมกับสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อเป็นเครื่องมือเลือกซื้ออาหารที่มีปริมาณน้ำตาล ไขมัน และโซเดียม ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ช่วยลดความซับซ้อนในการอ่านฉลากโภชนาการ และส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงอาหารที่ดีต่อสุขภาพได้ง่ายยิ่งขึ้น