หมอชี้ผู้หญิงไทย 1 ใน 8 เสี่ยงมะเร็งเต้านม ย้ำยิ่งตรวจเจอเร็ว ยิ่งรอด

เอสเต ลอเดอร์ คอมพานีส์ ประเทศไทย ในเครือ บริษัท เอลก้า (ประเทศไทย) จำกัด เดินหน้าสานต่อพันธกิจที่มุ่งมั่นมาตลอดกว่า 3 ทศวรรษ เพื่อสร้างโลกที่ปราศจากโรคมะเร็งเต้านม ด้วยการจัดแคมเปญระดับโลก ‘รวมพลังช่วยกันหยุดยั้งมะเร็งเต้านม - Beautifully United to Help End Breast Cancer’ โดยรวบรวมพลังจากหลากหลายภาคส่วนเพื่อสร้างการตระหนักรู้และระดมทุนช่วยเหลือผู้ป่วย

กิจกรรมในครั้งนี้เกิดจากความร่วมมือที่แข็งแกร่งระหว่างหลายองค์กร ไม่ว่าจะเป็น สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ที่เป็นพันธมิตรสำคัญมาอย่างยาวนาน นำโดย แพทย์หญิงวิภาวี นิยมในธรรม แพทย์ชำนาญการ รวมถึง กลุ่มห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ในเครือเซ็นทรัล รีเทล และแบรนด์ความงามในเครือเอสเต ลอเดอร์ คอมพานีส์

นอกจากนี้ยังได้ร่วมกับเหล่าคนดังและอินฟลูเอนเซอร์ที่ร่วมสร้างแรงบันดาลใจในแคมเปญนี้ อาทิ โยเกิร์ต - ณัฐฐชาช์ บุญประชม, แหวนแหวน - ปวริศา เพ็ญชาติ, แจง - วราพรรณ หงุ่ยตระกูล, นุ่น - ดารัณ ฐิตะกวิน และพอลลีน - พิมลพัชร์ ธนุสุทธิยาภรณ์

นางสาวอรพรรณ พงศ์พานิช ดิจิทัลคอมเมิร์ซมาร์เก็ตติ้ง ไดเรคเตอร์ เอสเต ลอเดอร์ คอมพานีส์ ประเทศไทย กล่าวถึงความมุ่งมั่นในการรณรงค์ครั้งนี้ว่า “ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี เอสเต ลอเดอร์ เดินหน้าขับเคลื่อนพันธกิจนี้อย่างไม่หยุดยั้ง

และในปี 2568 นี้ เราเชื่อว่า ‘Time to End Breast Cancer’ คือเวลาที่ทุกคนต้องร่วมมือกันอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน บุคลากรทางการแพทย์ ผู้รอดชีวิต ครอบครัว หรือประชาชนทั่วไป เพราะเราเชื่อว่าพลังของทุกคนสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงได้ การตระหนักรู้ที่เพิ่มขึ้นจะช่วยให้ตรวจพบโรคได้เร็วขึ้น นำไปสู่การรักษาที่เหมาะสม และเพิ่มโอกาสรอดชีวิตของผู้ป่วยมะเร็งเต้านมในอนาคต”

เพื่อสนับสนุนการรณรงค์ครั้งนี้ เอสเต ลอเดอร์ คอมพานีส์ ได้สานต่อพันธกิจผ่านการเปิดตัวผลิตภัณฑ์คอลเลกชันพิเศษ Pink Ribbon Items 2025 โดยรายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายจะถูกนำไปสมทบทุนเพื่อจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นให้กับสถาบันมะเร็งแห่งชาติ เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ป่วยมีความต่อเนื่องและยั่งยืน

มะเร็งเต้านม ตรวจพบเร็ว รักษาทันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด

แพทย์หญิงวิภาวี นิยมในธรรม นายแพทย์ชำนาญการ จากสถาบันมะเร็งแห่งชาติ เผยสถานการณ์มะเร็งเต้านมในประเทศไทย โดยพบผู้ป่วยรายใหม่กว่า 20,000 - 22,000 รายต่อปี

ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนว่าผู้หญิงไทยโดยเฉลี่ย 1 ใน 8 มีโอกาสตรวจพบมะเร็งเต้านมในช่วงชีวิต และที่น่าเป็นห่วงคือในจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นนี้ มีผู้เสียชีวิตสูงถึง 4,800 คนต่อปี หรือคิดเป็นอัตราเฉลี่ย 13 คนต่อวัน

ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ ได้แก่ อายุที่มากขึ้น, เคยเป็นเนื้องอกหรือมะเร็งที่เต้านม, มีประวัติญาติสายตรงเป็นมะเร็งที่เต้านม, การมีประจำเดือนเร็วหรือหมดช้า, เคยได้รับรังสีที่เต้านม, รวมถึงภาวะอ้วนและพฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

แม้จะเป็นมะเร็งอันดับหนึ่งของสตรีไทย แต่แพทย์หญิงวิภาวีย้ำว่า “ยิ่งพบเร็ว โอกาสรักษาหายยิ่งสูง” การตรวจคัดกรองอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะ “การตัดสินใจตรวจวันนี้ อาจช่วยรักษาชีวิตได้ในวันข้างหน้า”

บทเรียนจากผู้รอดชีวิต ซื่อสัตย์กับร่างกายและ “ไปต่อได้”

ผู้รอดชีวิตจากโรคมะเร็งเต้านมได้มาแบ่งปันประสบการณ์อันทรงพลัง แจง - วราพรรณ หงุ่ยตระกูล เล่าถึงประสบการณ์การรักษามะเร็งเต้านมระยะที่ 2 จนหายดี ทำให้เธอได้กลับมาเลือกใช้ชีวิตอย่างมีสติ ใส่ใจสุขภาพ และพร้อมที่จะ “ไปต่อได้”

ขณะที่ นุ่น - ดารัณ ฐิตะกวิน ซึ่งเคยมั่นใจว่าร่างกายแข็งแรง เล่าถึงจุดเปลี่ยนเมื่อพบก้อนผิดปกติและได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเต้านมระยะ 2 ชนิด Her-2 เหตุการณ์นี้ทำให้เธอเริ่ม “ซื่อสัตย์กับร่างกาย” และหมั่นตรวจเช็กอย่างสม่ำเสมอ จนทำให้เธอเข้าใจอย่างแท้จริงว่า “พบเร็ว รักษาเร็ว หายเร็วจริง”

กำลังใจ…คือยาที่ดีที่สุด

งานวิจัยด้านจิตวิทยาสุขภาพชี้ให้เห็นว่า เครือข่ายการสนับสนุนที่ดีจะช่วยยกระดับผลลัพธ์การรักษาได้อย่างมีนัยสำคัญ

ในเวทีเสวนา แหวนแหวน - ปวริศา เพ็ญชาติ ที่ตรวจพบโรคตั้งแต่อายุเพียง 23 ปีโดยไม่มีปัจจัยเสี่ยง เล่าว่ามันเป็นความโชคร้ายที่เจอโรคตั้งแต่อายุน้อย แต่ก็เป็นความโชคดีที่เจอเร็ว เพราะ ‘Early detection saves life’

เธอกล่าวว่า การเผชิญหน้ากับมะเร็งเต้านมไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เราสามารถเลือกที่จะไม่ปล่อยให้ความกลัวมาบดบังแสงสว่างในชีวิตได้ เธอบอกตัวเองในทุกๆ วันว่า “เราจะก้าวผ่านมันไปได้ ด้วยหัวใจที่เข้มแข็ง” และกำลังใจจากคนที่รักก็คือพลังที่ทำให้เธอก้าวต่อไปได้อย่างไม่ย่อท้อ

โยเกิร์ต - ณัฐฐชาช์ บุญประชม ที่เผชิญโรคนี้จากคุณแม่ถึงสองครั้ง ได้สรุปบทเรียนสำคัญว่า “สิ่งที่น่ากลัวกว่าการไปตรวจ คือการมีโรคอยู่แล้วแต่ไม่รู้ตัว”

สำหรับเธอ การดูแลตัวเอง หรือ 'Self-Care' คือการดูแลทั้งร่างกายและจิตใจอย่างสมดุล เธอเติมพลังด้วยกิจวัตรเล็กๆ และกรองพลังงานลบออกจากชีวิต

นอกจากนี้เธอยังอยากให้กำลังใจผู้ป่วยทุกคนว่า คุณไม่ได้สู้เพียงลำพัง และทุกก้าวเล็กๆ มีความหมายเสมอ สำหรับผู้ที่อยู่เคียงข้างและดูแลผู้ป่วย ก็อย่าลืมมอบกำลังใจให้ตัวเองเช่นกัน เพราะความเข้มแข็งของพวกคุณคือแรงใจสำคัญที่ช่วยให้ผู้ป่วยก้าวต่อไปได้อย่างไม่โดดเดี่ยว

แนวทางดูแลผิวพรรณระหว่างการรักษาและหลังหายป่วย

กระบวนการรักษามะเร็งเต้านมอาจก่อให้เกิดอาการข้างเคียง เช่น ผิวแห้ง ลอก คัน หรือระคายเคือง ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพชีวิตและความมั่นใจของผู้ป่วยโดยตรง

นางสาวสาธิดา เตชะภัทรพร Senior National Education Manager จากเอสเต ลอเดอร์ กล่าวว่า การดูแลผิวในช่วงการรักษามะเร็งไม่ใช่เรื่องของความสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการดูแลคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย เพราะผิวที่ได้รับการปกป้องและบำรุงอย่างเหมาะสม จะช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกสบายกายและมีกำลังใจที่จะต่อสู้กับโรคได้อย่างมั่นใจ

พอลลีน - พิมลพัชร์ ธนุสุทธิยาภรณ์ ผู้ป่วยระยะเริ่มต้น (Stage 0) ซึ่งโชคดีที่ตรวจพบโรคโดยบังเอิญ ทำให้เธอสามารถรักษาได้ทันและกลับมาแข็งแรงได้

เธอยืนยันว่ามะเร็งเต้านมสามารถตรวจพบได้ตั้งแต่สเตจ 0 และรักษาให้หายได้จริง การตรวจสุขภาพไม่ได้น่ากลัวหรือเจ็บปวด และยังเป็นการ 'Self-Care' ที่สำคัญที่สุด เพราะมันไม่ใช่แค่การดูแลตัวเอง แต่ยังเป็นการมอบความสบายใจให้กับคนที่เรารักด้วย

ก้าวต่อไปเพื่อสังคมไทยที่ปราศจากมะเร็งเต้านม

แคมเปญ Breast Cancer Campaign 2025 สะท้อนถึงการรวมพลังจากทุกภาคส่วนเพื่อยกระดับความตระหนักรู้ การเข้าถึงข้อมูล และบริการทางการแพทย์อย่างเป็นรูปธรรม

เอสเต ลอเดอร์ คอมพานีส์ ประเทศไทย จึงเชิญชวนคนไทยทุกคนร่วมกัน "รวมพลังช่วยกันหยุดยั้งมะเร็งเต้านม" เพราะเวลานี้คือเวลาที่ต้องลงมืออย่างแท้จริง Time to End Breast Cancer