ปั้น‘ฟิวเจอร์ ซิตี้’แสนล. กลุ่มรังสิต พลาซ่าควานหาพันธมิตรพลิกที่ดิน600ไร่

“ฟิวเจอร์ พาร์ค” เดินหน้าหาพันธมิตรร่วมปั้น “ฟิวเจอร์ ซิตี้” คาดใช้เงินลงทุนร่วมแสนล้านบาท พลิกที่ดินกว่า600 ไร่ เป็นเมืองแห่งอนาคตสำหรับโซนเหนือกรุงเทพฯ เผยเตรียมผุดเรสิเดนต์และโรงแรมหวังต่อยอดสร้างอาณาจักรล่าสุดทุ่ม 100 ล้านบาท ซุ่มพัฒนาฟิวเจอร์ อารีน่า ศูนย์ออกกำลังกายครบวงจรรับเทรนด์สุขภาพมาแรง ทั้งสนามฟุตบอลแบดมินตัน และฟิตเนส มั่นใจเปิดครบต้นปีหน้า ยํ้าไตรมาส4 เตรียมเทงบอีก 100 ล้านบาท จัดเต็มการตลาดโกยยอดขายโค้งท้าย

[caption id="attachment_97340" align="aligncenter" width="700"] แผนลงทุน "ฟิวเจอร์ ซิตี้"[/caption]

นางสาวพิมพ์ผกา หวั่งหลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท รังสิต พลาซ่า จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค และสเปลล์ เปิดเผยว่า บริษัทยังเดินหน้าหาพันธมิตรผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมลงทุนในการสร้างฟิวเจอร์ ซิตี้ ซึ่งเป็นโครงการต่อขยายจากฟิวเจอร์พาร์คและสเปลล์ในปัจจุบัน ซึ่งบริษัทมีที่ดินรวมทั้งสิ้น 600 ไร่เศษ และพัฒนาไปแล้วเกือบ 200 ไร่ ยังมีที่ดินเหลืออีกกว่า 400 ไร่ ซึ่งสามารถพัฒนาได้อีกมากและคาดว่าจะต้องใช้เงินลงทุนอีกนับแสนล้านบาท โดยเบื้องต้นบริษัทมีแผนพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยสำหรับประชาชนทั่วไปและพนักงานโรงงาน โดยจะใช้เงินลงทุนราว 1,000 ล้านบาทเริ่มก่อสร้างในปีหน้า และคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2561-2562 ควบคู่ไปกับการสร้างโรงแรม เพื่อรองรับลูกค้าที่สัญจรผ่านไปมา ซึ่งจะใช้งบลงทุนราว 300 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงเวลาเดียวกัน

"ที่ดินที่มีอยู่ถือว่ามีศักยภาพสามารถพัฒนาได้ทันที แต่บริษัทยังขาดความพร้อมจึงต้องการพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญเข้ามาร่วมลงทุน โดยสามารถพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัย โรงแรม รวมถึงอาคารสำนักงานขนาดใหญ่เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจ เพราะปัจจุบันแต่ละวันมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการที่ฟิวเจอร์พาร์คราว 1.6-1.7 แสนคนต่อวันในวันธรรมดา และ 2 แสนคนในวันหยุด ขณะที่ร้านค้าภายในก็มีการจองพื้นที่เต็มเกือบ 95% ถือเป็นอัตราที่สูง และมีผู้ประกอบการรอคิวเข้ามาจองพื้นที่ต่อเนื่อง"

โดยปัจจุบันฟิวเจอร์พาร์ค มีพื้นที่ราว 108 ไร่ ประกอบไปด้วยศูนย์การค้า 2 แห่ง และ 16 ร้านค้าขนาดใหญ่ อาทิ อินเด็กซ์ลีฟวิ่ง มอลล์ , เทสโก้ โลตัส , โรงพยาบาล เป็นต้น และล่าสุดบริษัทอยู่ระหว่างการพัฒนาฟิวเจอร์ อารีน่า ศูนย์ออกกำลังกายขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 10 ไร่ ใช้งบลงทุนราว 100 ล้านบาท เพื่อรองรับเทรนด์การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ โดยที่นี่จะประกอบไปด้วยสนามฟุตบอลขนาดใหญ่ 6 แห่ง สนามแบดมินตัน 20 สนาม และฟิตเนสเซ็นเตอร์ โดยคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการครบสมบูรณ์ได้ในต้นปีหน้า

อย่างไรก็ดีหลังจากเปิดให้บริการสเปลล์ ซึ่งใช้เงินลงทุนราว 4,000 ล้านบาท ให้เป็นศูนย์การค้าแห่งใหม่รองรัลไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ทั้งร้านอาหาร ร้านอุปกรณ์กีฬา ฯลฯ พบว่า กระแสตอบรับดีเกินคาด โดยมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการต่อเนื่อง ขณะเดียวกันการเชื่อมต่อระหว่างฟิวเจอร์พาร์คและสเปลล์ทำให้ลูกค้าสะดวกในการมาใช้บริการ และช่วยยกระดับให้ฟิวเจอร์พาร์คเป็นภาพลักษณ์พรีเมี่ยมมากขึ้น ทำให้บริษัทมีแผนพัฒนาและยกระดับร้านค้าภายในศูนย์เพิ่มมากขึ้นด้วย

"หลังจากที่เราได้ลูกค้ากลุ่มเอ ซึ่งเป็นลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงเข้ามาใช้บริการในสเปลล์ทำให้เรามองเห็นโอกาส และมีแผนจะพัฒนาร้านค้าต่างๆ ให้มากขึ้น เพื่อรองรับกำลังซื้อต่อไป เพราะปัจจุบันพบว่าพฤติกรรมลูกค้ากลุ่มนี้เปลี่ยนแปลงจากเดิมที่จะช้อปห้างในเมือง ก็เลือกที่จะมาช้อปห้างใกล้บ้านมากขึ้นเพราะคุ้มค่า และประหยัดเวลา อีกทั้งร้านค้าก็ไม่ได้แตกต่างกัน"

สำหรับการทำตลาดในปีนี้บริษัทใช้งบการตลาดราว 500 ล้านบาท แบ่งเป็นงบสำหรับฟิวเจอร์พาร์ค 300 ล้านบาท และสเปลล์ 200 ล้านบาท เพื่อการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด ตลอดจนอีเว้นท์ต่างๆ ต่อเนื่องตลอดเวลา เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการ และสร้างบรรยากาศในการช้อปปิ้ง โดยเฉพาะในไตรมาสสุดท้ายของปีที่บริษัทเตรียมใช้งบราว 100 ล้านบาทในการทำตลาดช่วงไฮซีซั่นด้วย ขณะที่รายได้ของบริษัทในปีนี้คาดว่าจะเติบโต 25% จากการเปิดให้บริการของสเปลล์ โดยในครึ่งปีแรกมีรายได้เติบโต 15% โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งจะมาจากการปรับขึ้นค่าเช่า 5-15% ด้วย

"การแข่งขันของค้าปลีกในโซนเหนือของกรุงเทพฯ ถือว่ามีความรุนแรง แต่ด้วยประสบการณ์และความพร้อมของฟิวเจอร์ซิตี้ซึ่งมีความครบครันซึ่งตลอดระยะเวลา 9 ปีที่ทำธุรกิจมาใช้งบลงทุนไปแล้วกว่า 8 หมื่นล้านบาท ทำให้สามารถดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งแม้จะมีแบรนด์ใหม่เข้ามาเปิดก็ต้องคิดหนักและต้องสร้างจุดขายที่แตกต่าง ซึ่งก็แทบจะไม่มีให้เห็น"

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,192 วันที่ 15 - 17 กันยายน พ.ศ. 2559