รถร่วมขสมก.แนะรัฐซื้อรถเมล์ไฟฟ้าในไทย
สหพันธ์รถร่วมบริการในกรุงเทพฯ และปริมณฑล เสนอขสมก. เร่งจัดซื้อรถเมล์ไฟฟ้าฝีมือคนไทย เผยราคาจิ๊บๆแค่ 4 ล้าน ชี้ต่างจากนำเข้าหลายเท่าแถมช่วยชาติประหยัด ด้าน“บรรยงค์”ท้าเปิดเส้นทางเดินรถขสมก.กับรถร่วมบริการเส้นทางเดียวกันเพื่อวัดผลกำไร-ขาดทุนว่าใครจะเจ๋งกว่ากัน ล่าสุดเร่งติดตั้งเจเนอเรเตอร์ให้ชาร์จแบตเตอรี่ได้ภายในตัว
นายบรรยงค์ อำพรตระกูล ประธานสหพันธ์รถร่วมบริการในกรุงเทพและปริมณฑล เปิดเผยว่า สำหรับในเรื่องรถโดยสารไฟฟ้าที่ทางรัฐบาลได้รายงานต่อคณะกรรมการ (บอร์ด) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ให้พิจารณาถึงการที่จะนำมาเป็นรถเมล์ให้บริการแก่ประชาชนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวนทั้งหมด 200 คัน และต้องเริ่มดำเนินการตั้งเดือนพฤศจิกายน 2559 นี้เป็นต้นไปนั้น ทางสหพันธ์ฯ จึงได้เสนอไปยังผู้อำนวยการของ ขสมก. ให้พิจารณาถึงรถเมล์ไฟฟ้าที่คนไทยเป็นผู้ผลิตและสามารถใช้งานได้จริง ปัจจุบันวิ่งให้บริการอยู่ในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยให้เห็นเป็นตัวอย่าง
ประการสำคัญด้วยราคาของรถโดยสารไฟฟ้าที่นำเข้ามาจากต่างประเทศจะมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 12 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งเมื่อแยกเป็นชิ้นส่วนต่างๆ เมื่อนำราคามารวมเข้าด้วยกันแล้วพบว่าราคาสูงกว่าที่ผลิตได้ในประเทศไทย ดังนั้นทาง ขสมก. ต้องใช้เวลานานเพื่อที่จะคุ้มทุน แต่หากเลือกรถเมล์ไฟฟ้าจากคนไทยแล้วจะมีราคาเริ่มต้นเพียงแค่ 4 ล้านบาทเท่านั้น
"ตัวถังนั้นจะทำใหม่เพื่อความสวยงาม ส่วนแชสซีส์และแบตเตอรี่ก็มีราคาถูก ราคาลูกละ 5,000 บาท จำนวน 40 ลูก โดยสามารถใช้งานได้นานกว่า 2 ปี เมื่อรวมเข้าด้วยกันแล้วคุณภาพทุกอย่างก็จะเหมือนกับรถใหม่จากต่างประเทศ เหมาะสมกับให้บริการประชาชนในกรุงเทพฯ และปริมณฑลที่จะไม่เกิดอุบัติเหตุเพราะขับได้ช้า เหมาะสมกับการจราจรในกรุงเทพ อีกทางหนึ่งยังช่วยสร้างความปลอดภัย จะไม่เกิดอุบัติเหตุที่ร้ายแรงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ล่าสุดอยู่ระหว่างการทดลองติดตั้งเจเนอเรเตอร์ให้สามารถชาร์จแบตได้ภายในตัวเพื่อความสะดวกสบายยิ่งขึ้น"
นายบรรยงค์กล่าวอีกว่าเมื่อมองเห็นว่ารถเมล์ของ ขสมก. นั้นเป็นสิ่งที่สำคัญต่อประเทศเป็นอย่างมาก เพราะเป็นตัวที่นำพาความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจให้หมุนเวียนไป ด้วยการนำประชาชนจากที่พักอาศัยไปยังที่ทำงาน ทั้งพาไป-กลับ ดังนั้นทาง ขสมก. ซึ่งเป็นผู้ดูแลรถเมล์อยู่ก็ต้องให้ความสำคัญกับการซื้อรถเมล์ใหม่มาใช้งานด้วย
"หากซื้อรถเมล์ใหม่ที่มีราคาสูงเกินจริงอาจถูกรัฐบาลชุดหน้าทำการตรวจสอบได้ ดังนั้นวิธีการแก้ไขคือซื้อรถเมล์ใหม่ที่ราคาสมเหตุสมผล มีคุณภาพในการใช้งานได้อย่างยาวนาน อีกสิ่งหนึ่งที่อยากนำเสนอคือให้ทาง ขสมก. เปิดเส้นทางการวิ่งให้บริการของรถเมล์ขสมก.กับรถร่วมบริการให้วิ่งอยู่ในเส้นทางเดียวกัน เพื่อเปรียบเทียบถึงผลกำไรและขาดทุนว่าใครจะสามารถบริหารงานได้ดีกว่ากัน มีรายได้ที่พอจะเลี้ยงตัวเองอยู่ได้ อย่านำข้ออ้างว่าเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจทำหน้าที่ให้บริการแก่ประชาชน จึงไม่สามารถทำการแข่งขันกับรถร่วมเอกชนได้"
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,191 วันที่ 11 - 14 กันยายน พ.ศ. 2559